“เมสซี” เปิดมุมมองใหม่ “ริยาด”
ในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก
…………………………………………….
- ลิโอเนล เมสซี เยือนเมืองหลวงของซาอุดีอาระเบียรอบสองพร้อมครอบครัว สัมผัสทุกแง่มุมที่ดีที่สุดทั้งมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวย รวมถึงไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยและความบันเทิงมากมาย
- ทั้งครอบครัวได้เยี่ยมชมดิรอียะฮ์ เมืองมรดกโลกอายุ 300 ปี ดื่มด่ำกับอาหารเลิศรสที่ร้านอาหารสุดหรู อัลบูจาอิรี เทอร์เรซ ชมวิวอันงดงามของเขตอัตตูราอิฟ และเพลิดเพลินในเวีย ริยาด ย่านการค้าและความบันเทิงสุดหรูแห่งใหม่
- การต้อนรับอย่างอบอุ่นตามแบบฉบับของซาอุดีอาระเบียที่เรียกว่าฮาฟาวา ตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกครอบครัว
- เพลิดเพลินกับประสบการณ์แบบเมสซีได้ง่ายกว่าที่เคยด้วยโปรแกรมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสนสะดวกสบาย และฟรีวีซ่าสำหรับแวะพักที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานนี้
- จากกรุงริยาดที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแนวประการังในทะเลแดงและเทือกเขาอาเซอร์ ซาอุดีอาระเบียพร้อมมอบความสุขให้กับทุกคนตลอดทั้งปี
……………………………………….
ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi) ไอคอนแห่งวงการฟุตบอลและทูตการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบีย ได้กลับมาเยือนซาอุดีอาระเบียเป็นครั้งที่สอง โดยครั้งนี้เขาได้พาครอบครัวมาร่วมสัมผัสการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเก่ากับใหม่ รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นกับความเป็นสากล การมาเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้เมสซีได้ทำกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมายที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว
ซาอุดีอาระเบียคือบ้านที่แท้จริงของอาหรับ ดังนั้นไฮไลต์ของทริปนี้คือการทัวร์เมืองมรดกโลกดิรอียะฮ์ (Diriyah) ซึ่งเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีอายุเก่าแก่ถึง 300 ปี อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในหกแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และต้นกำเนิดรัฐซาอุดีอาระเบียแห่งแรก นอกจากนี้ เขตอัตตูราอิฟ (At-Turaif) ในเมืองมรดกโลกแห่งนี้ ยังเป็นหนึ่งในการตั้งถิ่นฐานด้วยอิฐโคลนที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15
เมสซีและครอบครัวได้ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ของจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใครแห่งนี้ จากนั้นได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ม้าอาหรับ (Arabian Horse Museum) หลังจากเล่นกับม้าอาหรับพันธุ์แท้ที่มีความสวยสง่า นอกจากนี้ เมสซียังได้ตื่นเต้นกับนกเหยี่ยวสีขาวที่มาเกาะบนแขนของเขา โดยนกเหยี่ยวเป็นนกล่าเหยื่อที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์ชาวเบดูอิน (Bedouin) มาเป็นเวลานานหลายพันปี
ในระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ อันโตเนลลา รอกกุซโซ (Antonella Roccuzzo) ภรรยาของเมสซี ได้สวมใส่ฮามา (hama) ซึ่งเป็นเครื่องประดับศีรษะที่สตรีชาวซาอุดีอาระเบียในแคว้นนัจญ์ดี (Najdi) สวมใส่ในอดีต ทั้งครอบครัวมีความสุขกับการสำรวจประวัติศาสตร์ของซาอุดีอาระเบียและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของซาอุดีอาระเบีย และหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ในอัตตูราอิฟ รวมถึงความสง่างามของม้าอาหรับ
ก่อนที่จะมาเยือนเมืองดิรอียะฮ์ ครอบครัวเมสซีได้ชมสวนแบบซาอุดีอาระเบียแท้ ๆ ที่อยู่ห่างไกลจากความวุ่นวายในเมือง ทั้งครอบครัวได้ชมการสานใบปาล์มโดยมีฉากหลังเป็นต้นปาล์มสูงตระหง่าน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองในซาอุดีอาระเบีย โดยต้นปาล์มในประเทศผลิตอินทผลัมมากกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารซาอุดีอาระเบีย
หนึ่งในไฮไลต์ของการท่องเที่ยววันแรกคือการให้อาหารละมั่งอาหรับ ซึ่งเป็นสัตว์พื้นเมืองที่เคยเกือบสูญพันธุ์ แต่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลให้จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ โดยเมื่อต้นปีนี้ได้มีการปล่อยละมั่งอาหรับ 650 ตัว และเนื้อทราย 550 ตัว ในพื้นที่ 12,400 ตารางกิโลเมตรของเขตอนุรักษ์อัลอูลา (AlUla) ซึ่งก่อนหน้านี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการนำเสือดาวอาหรับกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ในวันที่สองของการท่องเที่ยว เมสซีและครอบครัวได้สัมผัสกับมหานครอันทันสมัยอย่างกรุงริยาด ซึ่งกำลังดำเนินแผนการอันยิ่งใหญ่เพื่อก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชีวิตชีวาและคึกคักที่สุดในโลกภายในปี 2573 ทั้งนี้ กรุงริยาดถูกมองว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายที่ยังรอการสำรวจ โดยสามารถสะกดทุกคนด้วยแสงสีในเมือง เทศกาลดนตรี และอาหารหลากหลายตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านอาหารมิชลินสตาร์
ตารางการท่องเที่ยวที่อัดแน่นทำให้เมสซีและครอบครัวได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกันอย่างเต็มที่ รวมถึงการดื่มด่ำกับภาพและเสียงอันน่าตื่นตาตื่นใจในเวีย ริยาด (VIA Riyadh) และ บูเลอวาร์ด ริยาด ซิตี (Boulevard Riyadh City) สองย่านการค้าและความบันเทิงสุดทันสมัย โดยเวีย ริยาด จะกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางหรูหราระดับพรีเมียมของโลก ซึ่งเพียบพร้อมด้วยแบรนด์แฟชั่นหรู ร้านอาหารนานาชาติและร้านอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง และโรงภาพยนตร์ส่วนตัว 7 แห่ง
นอกจากนี้ แสงสีสว่างไสวของบูเลอวาร์ด ริยาด ซิตี ยังทำให้ย่านนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวในช่วงริยาด ซีซัน (Riyadh Season) เทศกาลความบันเทิงกลางแจ้งที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาของกรุงริยาด ซึ่งให้การต้อนรับผู้มาเยือนมากกว่า 15 ล้านคนในปีนี้
ซาอุดีอาระเบียเป็นที่รู้จักจากทะเลทรายรุบอ์ อัลคอลี (Rub’ Al Khali) อันน่าเกรงขาม แต่อันที่จริงแล้วซาอุดีอาระเบียยังมีภูมิประเทศแบบอื่น ๆ ที่สามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่โอเอซิสอัล อะฮ์ซา (Al-Ahsa) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก ไปจนถึงแนวปะการังสวยงามบริสุทธิ์ตามแนวชายฝั่งทะเลแดงที่ทอดยาว 1,700 กิโลเมตร ซึ่งนักดำน้ำและเรือเดินสมุทรสามารถเพลิดเพลินได้ และโรงแรมหรูแห่งแรกจากทั้งหมด 16 แห่งจะเปิดให้บริการในปลายปีนี้ นอกจากนั้นยังมีเกาะซินดะละฮ์ (Sindalah) ในเมืองใหม่นิอุม (NEOM) ยิ่งไปกว่านั้น ซาอุดีอาระเบียยังมีที่ราบสูงเขียวชอุ่มเย็นสบายบนเทือกเขาอาเซอร์ (Asir) ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนของคนในท้องถิ่นช่วงฤดูร้อน
การต้อนรับอันอบอุ่นของซาอุดีอาระเบียที่เรียกกันว่าฮาฟาวา (Hafawa) ตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกครอบครัว ทั้งนี้ กรุงริยาดมีประชากรราว 8 ล้านคน และเป็นหนึ่งใน 50 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกจากการรายงานของอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (Economist Intelligence Unit) ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติที่ทุกครอบครัวสามารถสำรวจและเพลิดเพลินกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่
การเดินทางมาเยือนซาอุดีอาระเบียจะเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคยด้วยเที่ยวบินจากหลายประเทศที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถขอวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ (eVisa) ผ่านทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดายสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 49 ประเทศทั่วโลก
ขณะเดียวกัน ซาอุดีอาระเบียได้เปิดตัววีซ่าสำหรับแวะพัก (Stopover Visa) เมื่อต้นปีนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินซาอุเดีย (SAUDIA) และฟลายนาส (FlyNas) พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ มากกว่า eVisa และอนุญาตให้นักท่องเที่ยวแวะพักอยู่ในประเทศได้นานสูงสุดถึง 96 ชั่วโมง
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ในซาอุดีอาระเบียได้ที่ visitsaudi.com/en และ @AskVisitSaudi
…………………………………………………………….
เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย
การท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย (Saudi Tourism Authority หรือ STA) จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 โดยมีหน้าที่โปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบียสู่สายตาทั่วโลก รวมถึงพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยว แพ็กเกจท่องเที่ยว และการสนับสนุนทางธุรกิจสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทรัพยากรและแหล่งท่องเที่ยวอันโดดเด่นของประเทศ การจัดและมีส่วนร่วมกับงานอีเวนต์ต่าง ๆ หรือการส่งเสริมแบรนด์ท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบียทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบียมีสำนักงานตัวแทน 16 แห่งทั่วโลก โดยให้บริการใน 38 ประเทศด้วยกัน
Social Links