หน้าฝนมาแล้ว! เปิดเคล็ดลับเตรียมรถ EV ให้พร้อมลุยทุกสภาพอากาศ

หน้าฝนมาแล้ว! เปิดเคล็ดลับเตรียมรถ EV ให้พร้อมลุยทุกสภาพอากาศ

หน้าฝนมาแล้ว!

เปิดเคล็ดลับเตรียมรถ EV ให้พร้อมลุยทุกสภาพอากาศ

  ผู้ที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน แต่อาจเป็นกังวล ช่วงหน้าฝนสามารถใช้รถไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ มีวิธีการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าในช่วงหน้าฝนอย่างไร เคล็ดลับที่ช่วยคุณได้รู้ก่อนการตัดสินใจซื้อ

1.สามารถใช้รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงฤดูฝนได้หรือไม่ : สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถใช้งานได้ตามปกติ เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงมอเตอร์และแบตเตอรี่ ได้รับการป้องกันอย่างดีด้วยฉนวนไฟฟ้า ทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยเข้ามาเสริมด้วย เช่น เซนเซอร์ตรวจจับไฟฟ้ารั่ว, ระบบป้องกันการลัดวงจรลงดิน (Ground Fault Protection) จึงมั่นใจได้เลยว่ารถยนต์ไฟฟ้าของคุณสามารถขับลุยฝนได้อย่างไม่มีปัญหา

2.รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับลุยน้ำท่วมได้หรือไม่ : รถยนต์ไฟฟ้าทุกคันจะได้รับการทดสอบ IP Rating (Ingress Protection) หรือก็คือค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวเล็ดลอดเข้าภายในตัวรถ โดยค่ามาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะอยู่ที่ IP67 ที่การันตีได้ว่าสามารถลุยน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร ได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย แม้อยู่ในสภาวะน้ำท่วมก็ตาม

3.รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จตอนฝนตกได้หรือไม่ : รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จขณะฝนตกได้อย่างไม่มีปัญหา เนื่องจากแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้นได้รับการออกแบบมาอย่างดีตามมาตรฐาน ตัวอุปกรณ์ต่างๆ ก็ได้รับการป้องกันอย่างดีด้วยฉนวนไฟฟ้า ทั้งยังมีระบบป้องกันที่มีช่องให้ระบายน้ำ จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีน้ำขังบริเวณหัวประจุไฟฟ้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งสายดินและระบบตัดไฟรั่วเอาไว้เสริมความปลอดภัยอีกด้วย

4.เคล็ดลับการดูแลรถไฟฟ้าในฤดูฝน มีอะไรบ้าง? : การดูแลรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงหน้าฝนนั้นไม่ต่างจากการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปมากนัก โดยจะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง มาดูกัน

เช็กสภาพใบปัดน้ำฝน  เช็กสภาพใบปัดน้ำฝนหากมีการเสื่อมสภาพ หรือปัดแล้วมีเสียงดัง ทำให้กระจกรถเป็นรอย ควรเปลี่ยนใหม่ให้เร็วที่สุดเพื่อทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่

เช็กระบบเบรก เช็กระบบเบรกทุกครั้งว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ หากผ้าเบรกสึกหรือเสื่อมสภาพ หรือเบรกแล้วมีเสียงดัง หรือเกิดความผิดปกติใดๆ ควรนำเข้าอู่หรือศูนย์ให้ช่างตรวจสอบและแก้ไข

เช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ เช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอเนื่องจากลมยางที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะช่วยทำให้การขับขี่ทรงตัวได้ดีมากขึ้นบนท้องถนน เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ หากยางรถมีแรงดันลมมากอาจทำให้รถลื่นไถล ส่วนยางรถที่มีแรงดันลมน้อย อาจเสี่ยงต่อการระเบิดได้ โดยค่ามาตรฐานของการเติมลมรถยนต์ จะอยู่ที่

รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมลมยางประมาณ 25- 32 PSI

รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมลมยางประมาณ 30- 35 PSI

รถกระบะ ควรเติมลมยางประมาณ 38-40 PSI

เช็กสภาพยาง เช็กสภาพยางว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ หากดอกยางหาย หรือต่ำกว่า 2.5 มิลลิเมตร หรือยางรถยนต์มีความแข็งกระด้าง-รอยแตกลายงา ยางบวมหรือปูดขึ้นมาจนเห็นได้ชัด ควรเปลี่ยนใหม่ทันที

เช็กระบบไฟสัญญาณรถยนต์ เช็กระบบไฟสัญญาณรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน ไฟถอยหลัง และไฟตัดหมอก หากมีจุดไหนใช้งานไม่ได้ ต้องรีบเปลี่ยนใหม่

การขับรถไฟฟ้าในช่วงหน้าฝน ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป เมื่อเจอถนนลื่นก็ต้องลดความเร็วลง หรือหากต้องขับลุยน้ำท่วมก็ควรใช้ความเร็วต่ำ หรือหลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมสูง แต่ถ้าหากจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำท่วมเป็นเวลานาน อย่าลืมนำรถเข้าศูนย์บริการไปเช็กสภาพอีกทีว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่

เพราะถึงแม้รถยนต์ไฟฟ้าจะทันสมัย แต่เมื่อเจอหน้าฝนก็ต้องระวัง heygoody พร้อมดูแลรถ EV ของคุณให้ปลอดภัย มั่นใจ ด้วยประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่า ครอบคลุมทุกความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรืออุบัติเหตุ ตอบโจทย์และพร้อมคุ้มครองแบบจัดเต็ม ให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล

You may also like

คปภ.เดินหน้า! เปิดเวทีสัมมนาวิชาการด้านประกันภัย ประจำปี 2567 “Thailand Insurance Symposium 2024”

 นายชูฉั