“อลงกรณ์”แจงปัญหาทุเรียนไทยไปจีนไร้คุณภาพ ยอมรับส่งออก 120 ล้านลูกย่อมมีบ้าง แต่แก้ปัญหาแล้ว จนไทยครองแชมป์ส่งออกจีน ยอดทะลุแสนล้านบาทเป็นครั้งแรก

“อลงกรณ์”แจงปัญหาทุเรียนไทยไปจีนไร้คุณภาพ ยอมรับส่งออก 120 ล้านลูกย่อมมีบ้าง แต่แก้ปัญหาแล้ว จนไทยครองแชมป์ส่งออกจีน ยอดทะลุแสนล้านบาทเป็นครั้งแรก

“อลงกรณ์”แจงปัญหาทุเรียนไทยไปจีนไร้คุณภาพ

ยอมรับส่งออก 120 ล้านลูกย่อมมีบ้าง แต่แก้ปัญหาแล้ว

จนไทยครองแชมป์ส่งออกจีน ยอดทะลุแสนล้านบาทเป็นครั้งแรก

                “อลงกรณ์”แจงปัญหาทุเรียนไทยไร้คุณภาพส่งออกไปจีนหลังมีคลิปแชร์ว่อนโลกโซเชียล   ยอมรับส่งออกทุเรียน120ล้านลูก4แสนตันใน4เดือนย่อมมีผิดพลาดบ้าง   ยืนยันฟรุ้ทบอร์ดแก้ไขปัญหาจนสถานการณ์ดีขึ้น ทำให้ไทยครองแชมป์ส่งออกทุเรียนไปจีนเป็นอันดับหนึ่งทะลุแสนล้านเป็นครั้งแรก

                นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ (เฉพาะกิจ)เขียนเฟสบุ๊ควันนี้เกี่ยวกับประเด็นคลิปทุเรียนไทยไร้คุณภาพส่งออกไปจีนที่แชร์กันในโลกโซเชียลโดยบทความที่นายอลงกรณ์คีแมนคนสำคัญของฟรุ้ทบอร์ดเขียนมีสาระน่าสนใจดังข้อความต่อไปนี้

                เพื่อนแชร์คลิปของสุภาพสตรีท่านหนึ่งพูดถึงประเด็นทุเรียนไทยไร้คุณภาพส่งออกไปจีน”จึงคิดว่าควรเขียนทำความเข้าใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องครับ

                ปัญหาทุเรียนไร้คุณภาพเช่นทุเรียนอ่อนทุเรียนแก่มีจริงเพราะ 4 เดือนมานี้มีทุเรียนที่ส่งออกกว่า 4 แสนตันหรือกว่า 120 ล้านลูกย่อมเกิดผิดพลาดจากมือตัด มือคัดและผู้ประกอบการโดยเฉพาะมือใหม่ที่เข้ามาค้าขายทุเรียนในช่วงปี2ปีนี้เนื่องจากราคาดีตลาดโต

                แต่ปัญหาทุเรียนอ่อน ทุเรียนแก่ ทุเรียนสวมสิทธิ์ ในฤดูกาลปีนี้ลดลงและมีแนวโน้มดีขึ้นมาก เพราะ 2-3 ปีมานี้ ทางราชการเข้มงวดกวดขันจับกุมไปหลายราย ลองไปดูตัวอย่างแถวระยอง จันทบุรีและตราด เจ้าหน้าที่ ชาวสวนและล้งร่วมมือกันเข้มแข็งมากๆเพื่อรักษาคุณภาพทุเรียน ตั้งแต่ในสวนจนถึงตลาด มีชุดตรวจพิเศษจับเอาโทษหนักทั้งจำคุก-ปรับและถอนใบอนุญาต รวมทั้งการป้องกันทุเรียนต่างชาติมาสวมเป็นทุเรียนไทยเพื่อส่งออก เป็นไปตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ.และภายใต้ 18 มาตรการของฟรุ้ทบอร์ด ซึ่งมาตรการลำดับที่ 1 คือมาตรการรักษาคุณภาพและมาตรฐานทุเรียน สวนทุเรียนและล้ง

                ในแต่ละปีมีสวนที่ส่งออกทุเรียนและผลไม้ไปจีนต้องมีใบรับรอง GAP เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 แสนแปลง โดยในปี 2565 เพิ่มเป้าหมายเป็น 120,000 แปลง และ GMP  plus สำหรับล้ง ซึ่งยังไม่มีประเทศใดในโลกที่พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานได้แบบนี้

              ด้วยมาตรฐานเช่นนี้ ประเทศไทยจึงเป็นประเทศเดียวที่จีนยอมให้ส่งทุเรียนสดไปขายในจีนได้

             “ส่วนทุเรียนประเทศอื่นต้องแช่เย็น แช่แข็งหรือแปรรูปถึงจะส่งออกไปจีนเพราะสวนทุเรียนไม่ผ่านมาตรฐานของจีนครับ”

                วันนี้ทุเรียนไทยสามารถครองตลาดจีนเป็นที่หนึ่งแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำเงินเข้าประเทศจากการส่งออกทะลุกว่าแสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากไม่กี่หมื่นล้านเมื่อ 4 ปีก่อน

                ถ้ารวมผลไม้ทั้งหมด ไทยครองมาร์เก็ตแชร์ในตลาดจีนกว่า 40% เป็นอันดับ1 ส่วนอันดับ 2 คิอชีลี 14% อันดับ 3ได้แก่เวียดนาม 6% ทั้งที่เวียดนามมีพรมแดนติดจีน เรียกว่าทุเรียนไทยผลไม้ไทยครองตลาดและครองใจคนจีนแบบแน่นหนามั่นคง

                อย่างไรก็ตาม การส่งออกด้วยปริมาณมากๆและภายในเวลาที่จำกัดย่อมมีผิดพลาดบ้างแม้จะช่วยกันดูแลเข้มข้นแค่ไหนก็ตาม เพราะมีปริมาณการส่งออกทุเรียน 4 แสนกว่าตันหรือกว่า 120 ล้านลูกในช่วง 4 เดือนแรกของฤดูกาลผลิตผลไม้ปี2565

               นี่คือความจริงและความยากในการค้าขายทุเรียนสด

                ยิ่งกว่านั้นยังมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นคือผู้ค้ารายใหม่ทั้งไทยและจีนที่เห็นตลาดโตราคาดีเข้ามาค้าขายเพิ่มขึ้นแต่ขาดประสบการณ์จึงมักเกิดปัญหาเรื่องการตัดการคัดทุเรียน กรมวิชาการของกระทรวงเกษตรจึงต้องจัดหลักสูตรฝึกอบรมบ่มเพาะพัฒนาฝีมือมือตัดและมือคัดทุเรียนและล้งเช่นสวพ.6ที่จันทบุรี

                นอกจากนี้ทุเรียนกว่า 120 ล้านลูกต้องขนส่งไปจีนข้ามน้ำข้ามเขาข้ามลาวข้ามเวียดนามด้วยระยะทางกว่า 2 พันกิโลเมตรบางครั้งติดด่าน 10 วัน 20 วัน ย่อมมีโอกาสบอบช้ำหรืองอมมากไปบ้าง ซึ่งพ่อค้าแม่ขายส่วนใหญ่คงไม่มีใครอยากขายครั้งเดียวแล้วเลิกจากการขายทุเรียนอ่อนหรือทุเรียนแก่นอกจากคนเห็นแก่ตัวบางส่วน ซึ่งมีการนำระบบตรวจสอบย้อนกลับ(Traceability)เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่นำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น รวมทั้งการพัฒนาระบบแปลงใหญ่ (Big Farm) การใช้เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมใหม่เช่นเครื่องมือตรวจเปอร์เซ็นต์เนื้อแป้งแบบดิจิตอล ระบบความเย็น(cold chain system)แบบไนโตรเจน ฟรีซเซอร์(Nitrogen Freezer)ซึ่งติดตั้งแล้วหลายยูนิตที่ภาคตะวันออกและภาคใต้มีคุณภาพเหนือกว่าระบบแช่แข็งแบบเดิมที่ใข้ในเวียดนามและมาเลเซีย

                วันนี้ ทุเรียนไทยนอกจากเป็นแชมป์ในตลาดจีนแล้วยังเป็นแชมป์โลกด้วยครับ จากความร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาอย่างต่อเนื่องของทุกภาคส่วนพร้อมกับการแก้ไขปัญหาทุกปัญหาด้วยความใส่ใจทั้งปัญหาปัจจุบันและโจทย์ในอนาคตครับ.

 

 

 

 

You may also like

TQM ร่วมกับ MSIG ส่งความสุขท้ายปี มอบฟรี “ประกันภัยรถยนต์ตามคน” ขับคันไหนก็คุ้มครอง

TQM ร่วม