ชี้ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง
“มาคาเลียส”แนะผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์
เน้นคนไทยเที่ยวเมืองไทย
มาคาเลียส (Makalius) แหล่งรวม อี-วอเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 1 ของประเทศไทย เปิดเผยสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยปี 2568 นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดทั้งปีมีแค่ 34.5 ล้านคน โดยเฉพาะจากกลุ่มตลาดหลักอย่างประเทศจีน ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและที่พักทั่วประเทศ แนะภาคธุรกิจท่องเที่ยวควรหันมาให้ความสำคัญกับตลาดภายในประเทศ ปรับปรุงบริการพร้อมออกแบบแพคเกจท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์คนไทยให้มากขึ้น
นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “จากข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยตั้งแต่ 1 มกราคม -11 พฤษภาคม 2568 ชาวต่างชาติเที่ยวไทยมีจำนวน 12.9 ล้านคน ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ทาง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังมองว่าตลอดปีนี้อาจมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยเพียง 34.5 ล้านคน ลดลงถึง 2.8%
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ได้แก่ ความกังวลด้านความปลอดภัยจากเหตุการณ์ลักพาตัวและอาชญากรรมที่ได้รับความสนใจในระดับนานาชาติ ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ เช่น อาคารและสะพานที่พังถล่มในช่วงต้นปี รวมถึงปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวสำคัญ และค่าครองชีพที่สูงขึ้นซึ่งลดทอนความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค
การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณว่าผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน ทั้งด้านกลยุทธ์การตลาดและการพัฒนาบริการ โดยหันมาเจาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งยังมีศักยภาพสูง และพร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างจริงจัง เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว
โดยทาง มาคาเลียส ได้เตรียมปรับแผนการตลาดเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วยการจัดแคมเปญ “เที่ยวไทยกับมาคาเลียส ดีลดี ๆ ปี 2025” ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยรวบรวมดีลโรงแรมที่พัก รีสอร์ต สปา ร้านอาหาร เรือสำราญ และประสบการณ์ท่องเที่ยวในประเทศไทยในราคาพิเศษ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ครอบครัว คู่รัก ไปจนถึงนักเดินทางเดี่ยว”
นางสาวณีรนุช กล่าวต่อว่า “สำหรับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ต้องเร่งสปีทปรับแผนธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยในปัจจุบัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 เทรนด์ใหญ่ ๆ ได้แก่ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Travel) นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ เลือกที่พักที่มีนโยบายรักษ์โลก เที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ เช่น ปลูกป่า, เก็บขยะชายหาด, เรียนรู้วิถีชุมชน ทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย (Workcation Travel) นักท่องเที่ยวจะมองหาโรงแรมที่มีบริการ Wi-Fi ความเร็วสูง, Co-working space หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทำงาน
การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ (Wellness Travel) เป็นเทรนด์ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมองหาโรงแรมที่มีกิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพกายและจิตใจ ดังนั้นผู้ประกอบการสามารถเพิ่มบริการที่เกี่ยวข้องไปในแพคเกจได้ เช่น บริการสปา ฟาร์มออร์แกนิก เมนูคลีน กิจกรรมการฝึกนั่งสมาธิ โยคะ เป็นต้น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมท้องถิ่น (Local Experience) ซึ่งคนรุ่นใหม่มองหาประสบการณ์ที่เล่าเรื่องได้มากกว่าการถ่ายรูปสวย ๆ เน้นการทำกิจกรรมแบบท้องถิ่น พื้นบ้าน เช่น การทำอาหารพื้นถิ่น, นอนโฮมสเตย์, ลงมือทำนากับชาวบ้าน สุดท้ายคือ เที่ยวเมืองรอง (Secondary cities) นักท่องเที่ยวไทยเริ่มมองหาสถานที่แปลกใหม่ เที่ยวจังหวัดรองและเส้นทางธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ เช่น ราชบุรี นครนายก กำลังได้รับความนิยม
“เทรนด์เหล่านี้จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดดีลเฉพาะกลุ่ม เช่น แพคเกจสำหรับผู้หญิงเที่ยวคนเดียว แพคเกจคลีนสุขภาพ แพคเกจสัมผัสวิถีชุมชน เป็นต้น ทำให้เกิดการท่องเที่ยวในมิติต่าง ๆ สร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยว และเป็นการช่วยกระจายรายได้จะสู่ชุมชนอันเป็นพลังสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจฐานรากที่แข็งแกร่งในระยะยาว” นางสาวณีรนุช กล่าว
Social Links