ยุบ”พรรคอนาคตใหม่” ไปแล้ว แต่ยุบ “รัฐบาลตู่” ได้ยาก นอกจาก…??

ยุบ"พรรคอนาคตใหม่" ไปแล้ว แต่ยุบ "รัฐบาลตู่" ได้ยาก นอกจาก…??

นายจักรยาน

          ในที่สุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญได้พิพากษา "ยุบพรรคอนาคตใหม่" กรณีเงินกู้ 191.2 ล้านบาท ด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2

          พร้อมทั้งตัดสิทธิกรรมการบริหาร 11 คนที่มีสมาชิกภาพเป็น ส.ส. ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ เป็นเวลา 10 ปี ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง  ห้ามไปจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ แต่ก็มิได้ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือห้ามพูดเกี่ยวกับการเมืองใด ๆ

            ด้วยเหตุฉะนี้  บุคคลสำคัญของพรรค 2 ชาย 1 หญิงที่เดินหน้าลุยมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น "เสี่ยเอก" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่   "จารย์ป๊อก" ปิยะบุตร  กนกแสงสกุล เลขาธิการพรรค  และ "ช่อ" พรรณาการ์ วานิช โฆษกพรรค ก็ยังสามารถใช้ปากพูดพูดและพูดได้ตามสิทธิเสรีภาพแห่งการพูดตามรัฐธรรมนูญ

            แต่ทว่า "วิบากกรรม" ของ "เสี่ยเอก"  "จารย์ป๊อก" และ "ช่อ พรรณิการ์" และกรรมการบริหารพรรค ต้่องเตรียมตัวถูกคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามที่ "พี่ศรี" ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ร้องเรียน โทษที่จะได้รับคือจำคุก 5 ปีปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกต้ดสิทธิทางการเมืองซ้ำซ้อนเช่นกัน

            ส่วนผลคำตัดสินคดีอาญาของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ยังไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นคุณหรือเป็นโทษอีกกรรมหนึ่ง  ก็กรุณาใจเย็น ๆ แล้วในไม่ช้าก็จะเห็นเอง!!

            ก่อนที่ "พรรคอนาคตใหม่" จะโดนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน "ยุบพรรค"  มี ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ 76 คน  ซึ่งก่อนหน้านี้มี ส.ส.ทั้งสองระบบ 80 คน

            ทว่าโดนพรรคอัปเปหิให้พันพรรคไป 4 ท่านผู้ทรงเกียรติ เพราะยกมือฝ่าฝืนมติพรรคไปเข้าข้างรัฐบาล "ลุงตู่"

            เมื่อกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหมที่เป็นผู้แทนปวงชน ฯ 11 คนต้องหลุดจากเก้าอี้ ส.ส. ดังนั้นจำนวน ส.ส.ทั้งสองระบบของพรรคจึงหดลงไปเหลือ 65 คน

            ส่วน ส.ส.ของพรรคที่ไม่โดนตัดสิทธิทางการเมืองก็ต้องไปหาพรรคอื่นสังกัดภายใน 30 วัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะกระจัดกระจายกระจุยไปอยู่กันคนละพรรค หรือรวมกันไปอยู่พรรคเดียวกัน

            ไม่เกิน 30 วันรู้แน่ ๆ  อย่าได้ไปคิดอะไรมาก  เพราะการเมืองเรื่องนี้ก็เป็น "ตถตา" มันเป็นเช่นนั้นเองแหละโยม

          สำหรับกระแสข่าวลือว่า ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่จะไปอยู่พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่คือ  พรรคสามัญชน พรรคพลังอนาคต และพรรควิชั่นใหม่

          เท็จจริงประการใด  อีกไม่นานเกินรอ  แฟนคลับ "อนาคตใหม่" รู้กันทั่วประเทศแน่

            อ๊ะ อ๊ะ มีผู้ประสงค์แสดงความคิดเห็นแต่ไม่ประสงค์ออกนามวิเคราะห์มาว่า  ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ต้องย้ายรังไปอยู่ที่ใหม่ไม่มีทางที่จะไปซบกับชื่อ "พรรคพลังอนาคต" แน่

            เพราะคำว่า "พลัง" เป็นคำที่แสลงใจของผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เหมือนกันแสลง "พลังประชารัฐ" แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล??

            แต่ ส.ส.ของอนาคตใหม่ที่ยังไรัสังกัด ก็ไม่ไปอยู่กับ "คณะอนาคตใหม่" ตามที่ "เสี่ยเอก" ฮนาธร  จึงรุ่งเรืองเกียรติ ได้ประกาศว่าจะลุยการเมืองนอกสภาต่อไปอย่างดุเดือดเผ็ดมันแทน"พรรคการเมือง"

            เหตุผลของ "เสี่ยเอก" ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเพราะหมดสิทธิเล่นการเมืองในสภาฯ และไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็เลยต้องใช้คำว่า "คณะ" แทนเพื่อมิให้พรรคกฎกติกาของรัฐธรรมนูญ

            "คณะการเมือง" กับ "พรรคการเมือง" มีความแตกต่างกันทางกฎหมาย   ส.ส.อนาคตใหม่ 56 คนที่ไร้สังกัดก็ต้องไปอยู่ "พรรคการเมือง"อย่างถูกต้อง มากกว่า "คณะ" ที่เข้าสภา ฯ ไม่ได้!?!

            แม้ว่าพรรคฝ่ายค้านจะถูกตัดกำลัง ส.ส.ฝีปากดีหลายคนจาก"พรรคอนาคตใหม่"ในการซักฟอก "ลุงตู่"  ก็มิใช่หมายความว่า "ลุงตู่" จะสบ๊ายสบายใจ

            เพราะฝีปากของ ส.ส."พรรคเพื่อไทย" หลายคนก็ระดับมหากาฬในการทิ่มตำให้ "ลุงตู่" และ "รัฐมนตรีเป้าหมาย" ได้สะดุ้งสะเทือนซางหลายตลบได้!?!

            ท่านที่สนใจการเมืองเรื่องยุ่งกันเข้าไว้ ก็โปรดติดตามชมได้ในเทศกาลวัน"ซักฟอก" ระหว่างวันที่่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2563 นี้

          ยังไง ๆ พรรคร่วมฝ่ายค้านก็ไม่สามารถ "ยุบ" รัฐบาล "ลุงตู่" ได้ง่าย ๆ เหมือนเช่นกติกาตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ "ยุบพรรค" ได้ง่าย??

          นอกจากรัฐบาลประกาศ "ยุบ" เอง คือ "ยุบสภา" นั่นแหละ!!