ChatGPT นักบำบัดด้านจิตวิทยาที่พูดและฟังได้
AI Therapist กำลังจะมาทำงานแทนที่มนุษย์
สุทธิชัย ทักษนันต์
ใครมีปัญหาทางจิตใจ เช่น ความรัก ความเครียด ความเศร้า อารมณ์ พฤติกรรม ฯลฯ หากต้องการคุยกับนักจิตวิทยา ในสหรัฐอเมริกาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 50 – 250 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญของนักบำบัด
แต่วันนี้ผู้คนสามารถใช้บริการฟรีจาก Generative AI หลายค่าย เช่น Bard, Pi, ChatGPT มันกำลังทำหน้าที่เป็น AI Therapist
Bard และ Pi มีระบบโต้ตอบด้วยเสียงกับผู้ใช้งานอยู่แล้ว ส่วน ChatGPT จะเริ่มคุยและฟังคำตอบด้วยเสียงได้ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2023
พนักงานของ OpenAI ต้นสังกัด ChatGPT ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองระบบเสียงแจ้งว่า นักบำบัดปัญญาประดิษฐ์ อาจกำลังเข้ามาทำงานแทนที่นักบำบัดที่เป็นมนุษย์
ChatGPT มีโหมดเสียงที่แตกต่างกันให้เลือกใช้งานหลายแบบ สนทนาด้วยคำพูดแบบตัวต่อตัวกับมันได้
AI สามารถรับฟังเรื่องสะเทือนอารมณ์ได้ อยากพูดคุยกับมันเมื่อไรก็ได้ เรื่องที่คุยกันก็มีความส่วนตัวระหว่างคุณกับ AI โดยตรง
ในปี 1966 เคยมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์พยายามสร้างนักบำบัดคอมพิวเตอร์ชื่อว่า ELIZA แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไร มันยังไม่ค่อยเข้าใจภาษามนุษย์
ในปี 2015 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ได้เปิดตัว Ellie ซึ่งเป็นแชทบอท Humanoid Avatar มันได้รับการฝึกฝนให้ตรวจจับการแสดงออกทางสีหน้าของมนุษย์ บอกได้ว่ามนุษย์คนที่กำลังโต้ตอบด้วยมีความรู้สึกอย่างไร
แต่ในปี 2015 ยังไม่มี Generative AI ยังไม่มี ChatGPT ที่มีประสิทธิภาพในการโต้ตอบและเข้าใจภาษามนุษย์เหมือนอย่างทุกวันนี้
สำหรับใครที่เคยทดลองใช้ ChatGPT, Bard, Pi เคยได้คำตอบหลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนจาก AI คงมีความโน้มเอียงที่จะเชื่อว่า มันเป็นนักบำบัดที่มีคุณภาพได้
แต่ยังมีผู้ใช้งาน Generative AI หลายคนไม่ยอมรับเรื่อง AI Therapist และบอกว่าการพูดคุยกับ ChatGPT ไม่ใช่การบำบัด แต่เป็นเรื่องอันตราย
ขณะนี้มีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาอาชีพ ได้นำ AI จาก ChatGPT ไปทำเป็น API แล้วฝึกฝนให้มันเป็นผู้ชำนาญเฉพาะด้าน ซึ่งน่าจะรวมถึงอาชีพนักบำบัดทางจิตวิทยาด้วย
ข่าวการนำ Generative AI ไปใช้ประโยชน์ในงานด้านต่างๆ จะมีมาอย่างต่อเนื่อง และบางเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่า AI จะมาทำงานแทนคนได้!!!
Social Links