Cohesity ควบกิจการ Veritas
ผงาดแชมป์ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์“เพื่อปกป้องและสำรอง”เบอร์หนึ่งโลก
Cohesity ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในตลาดซอฟต์แวร์ปกป้องและสำรองข้อมูล โดยให้บริการลูกค้าองค์กรมากกว่า 12,000 ราย พร้อมข้อมูลภายใต้การคุ้มครองหลายร้อยเอ็กซาไบต์ทั่วโลก
Cohesity นำเสนอชุดเทคโนโลยีด้านการปกป้องและสำรองข้อมูลที่ครอบคลุมอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงหลัก ความปลอดภัยข้อมูลแบบ Zero-Trust และ ความสามารถในการให้ข้อมูลเชิงลึกของข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI
Cohesity ย้ำคำมั่นสัญญา “ไม่ทิ้งลูกค้าไว้ข้างหลัง” สำหรับทั้งลูกค้าของ Veritas และ Cohesity พร้อมเดินหน้าขยายขีดความสามารถด้านคลาวด์ การรักษาความปลอดภัย และ AI
Cohesity กลายเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในธุรกิจการปกป้องและสำรองข้อมูล โดยมีรายได้ต่อปีกว่ามากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
การควบรวมกิจการครั้งนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากการระดมทุนรอบ Series H นำโดย Haveli Investments และ Term Loan B ดำเนินการโดย JP Morgan
โคฮีซิตี้ (Cohesity) ผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลด้วย AI ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้ควบรวมกิจการกับส่วนธุรกิจการปกป้องและสำรองข้อมูลระดับองค์กรของเวอริทัส (Veritas) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับเป็นการเปิดศักราชใหม่สำหรับธุรกิจการปกป้องและสำรองข้อมูลระดับโลกการควบรวมกิจการครั้งนี้ส่งผลให้ Cohesity กลายเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการปกป้องและสำรองข้อมูลรายใหญ่ที่สุดในโลกตามส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งบริการลูกค้ากว่า 12,000 ราย รวมถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกกว่า 85 บริษัทที่ติดอันดับ Fortune 100 และเกือบ 70% ของบริษัทที่ติดอันดับ Global 500 และปกป้องและสำรองข้อมูลหลายร้อยเอ็กซาไบต์ทั่วโลก หลังจากที่การควบรวมกิจการครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ Cohesity จะสามารถนำเสนอบริการรองรับเวิร์กโหลดที่ครอบคลุมกว้างขวางที่สุด พร้อมด้วยเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมการปกป้องและสำรองข้อมูล
Cohesity กลายเป็นบริษัทด้านการปกป้องและสำรองข้อมูลที่มีรายได้กว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมการปกป้องและสำรองข้อมูล โดยทำรายได้ทะลุหลัก 1.5 พันล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 11 ปี เมื่อปรับตามเกณฑ์สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนกรกฎาคม 2567 บริษัทใหม่ ที่เกิดขึ้นภายหลังการควบรวมกิจการมีรายได้มากกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นรายได้ประจำรายปี (ARR) อยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ และมีอัตรากำไร EBITDA ปรับปรุงแล้ว ที่เป็นเงินสดอยู่ที่ 28 เปอร์เซ็นต์
ซันเจย์ พูเนน ประธานและซีอีโอของ Cohesity กล่าวว่า “นี่คือก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Cohesity ในรอบ 11 ปี ซึ่งมีภารกิจในการปกป้องและสำรองข้อมูล ให้มีความปลอดภัย และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการผสานรวมสถาปัตยกรรมแบบ Scale-out และความสามารถด้าน Generative AI และ ความสามารถในด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของ Cohesity ผนวกเข้ากับ การรองรับเวิร์กโหลดที่หลากหลาย และผู้ใช้ที่กระจายอยู่ทั่วโลกที่ครอบคลุมของ Veritas ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเราจะได้รับ ประโยชน์เพิ่มมากขึ้นจากข้อมูลที่มีอยู่ และตามที่เราได้ให้สัญญาไว้ เราจะ “ไม่ทิ้งลูกค้าไว้ข้างหลัง” โดยเราจะยังคงซัพพอร์ตผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ของทั้งสองบริษัทไปอีกเป็นเวลาหลายปี ด้วยการเริ่มต้นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่นี้ เรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการรับมือต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) เพื่อให้แน่ใจว่าเราคือทางเลือกอันดับหนึ่งของโลกในด้านความปลอดภัยข้อมูล พร้อมด้วยความสามารถด้าน AI ที่โดดเด่น”
“เราขอแสดงความยินดีกับ Cohesity สำหรับความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ Veritas นอกจากนี้ NVIDIA รู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับ Cohesity ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ GenAI บนแพลตฟอร์ม NVIDIA AI Enterprise” เจนเซ่น หวง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ NVIDIA กล่าว “Cohesity คือ ผู้ให้บริการสำรอง และปกป้องข้อมูลทั่วโลก ซึ่งเปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งคุณค่าทางธุรกิจที่ลูกค้าสามารถปลดล็อกได้ด้วย GenAI “การรวมธุรกิจของ Cohesity และ Veritasในส่วนธุรกิจด้านการปกป้องและสำรองข้อมูล เข้าด้วยกัน นับเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงสุดในแวดวงธุรกิจการปกป้องและสำรองข้อมูล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดสำหรับการสำรองและกู้คืนข้อมูล ด้วยการยกระดับในการรับมือปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของข้อมูล รวมไปถึงการใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้สามารถรับมือต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” แดเนียล นิวแมน ซีอีโอของ The Futurum Group กล่าว
“ปัจจุบัน Cohesity สามารถรองรับเวิร์กโหลด ได้มากที่สุดด้วยความสามารถระดับโลกในด้านความปลอดภัยและ การให้ข้อมูลเชิงลึกทั้งยังมี และสาขามากที่สุด มีระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วย ผู้ให้บริการ, VAR, พาร์ทเนอร์ด้าน SI และผู้ผลิต OEM จำนวนมาก โคฮีซิตี้ อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในจุดที่มีการบรรจบกันระหว่างมัลติคลาวด์ ระบบความปลอดภัย และ AI ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงอยู่ในเส้นทางการเติบโตที่สดใส ภายใต้การกำกับดูแลของซันเจย์ ผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์ เราเชื่อว่าบริษัทฯ จะเป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาด โดยจะมีการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมขอบเขตมากเกินกว่าการปกป้องข้อมูล ช่วยให้ผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศทั่วโลกสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ AI และเปลี่ยนข้อมูลขององค์กรให้กลายเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน”
ยุคใหม่ของการปกป้องโลกของข้อมูล: การควบรวมกิจการครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรต่อลูกค้าและพาร์ทเนอร์
การผนวกรวม Coheity เข้ากับส่วนธุรกิจการปกป้องและสำรองข้อมูลของ Veritas จะนำไปสู่:
- การสร้างสรรค์นวัตกรรมและความสามารถระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม: บริษัทที่ควบรวมกันนี้จะนำเสนอเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยและการจัดการข้อมูลในระดับคลาวด์ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI อินเทอร์เฟซการจัดการที่ใช้งานง่าย และกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการปกป้องข้อมูลแบบมัลติคลาวด์ที่ครอบคลุม ปัจจุบัน Cohesity รองรับเวิร์กโหลดที่หลากหลายที่สุดภายในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น
- ความมั่นใจสำหรับการลงทุนของลูกค้าปัจจุบัน: ในช่วงหลายปีข้างหน้า Cohesity จะยังคงลงทุนและพัฒนาแผนงานและกลยุทธ์สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มาจากทั้งสองบริษัทซึ่งถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันในพอร์ตโฟลิโอใหม่ โดยครอบคลุมผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ทั้งหมดของ Cohesity และโซลูชั่นทั้งหมดของ Veritas ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการควบรวมกิจการ รวมไปถึง Veritas NetBackup, อุปกรณ์ Veritas NetBackup และโซลูชั่นการปกป้องข้อมูล Veritas Alta
- การขยายขนาดและการสนับสนุนระดับโลก: ด้วยคะแนน Net Promoter Score ในระดับผู้นำ ในอุตสาหกรรม และการดำเนินงานด้านการตลาดทั่วโลก ปัจจุบัน โคฮีซิตี้ ให้การสนับสนุนองค์กรที่ประสบความสำเร็จด้านการให้บริการลูกค้า “ตลอด 24 ชั่วโมง” ทั่วโลก Cohesity มุ่งมั่นที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ประสบความสำเร็จด้วยการมอบประสบการณ์ที่ดีและการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในส่วนของงานบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความสามารถด้าน AI ที่ก้าวล้ำ: ความสามารถด้าน AI รายแรกในตลาด ที่กำลังรอการจดสิทธิบัตรช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากมาย ทั้งในส่วนของการจัดการข้อมูล การปกป้องข้อมูล และความยืดหยุ่น และช่วยให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลเชิงลึกที่มีนัยสำคัญมากขึ้น และสร้างมูลค่าให้กับทุกหน่วยงานของบริษัทโดยอาศัยข้อมูลที่มีอยู่
- ระบบนิเวศของพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง: บริษัทที่ควบรวมกันนี้จะรวบรวมระบบนิเวศพาร์ทเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรม ครอบคลุมถึงผู้ให้บริการระบบคลาวด์, บริษัทด้านระบบรักษาความปลอดภัย, VAR, ผู้ติดตั้งระบบ, MSP, พาร์ทเนอร์ในระบบนิเวศด้านเทคโนโลยี, พาร์ทเนอร์ด้านการจัดจำหน่าย และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ OEM
Cohesity จะกำหนดเป้าหมาย มูลค่าตลาดรวม (TAM) ไว้ที่ มากกว่า 4 หมื่น ล้านดอลลาร์ขึ้นไป โดยครอบคลุมถึงตลาดซอฟต์แวร์ด้านการรีพลิเคตและการปกป้องและสำรองข้อมูลของ IDC ทั้งนี้ ตามรายงาน Semiannual Software Tracker, 2024H1 ของ IDC ที่คาดการณ์ว่าตลาดซอฟต์แวร์ด้านการรีพลิเคตและการปกป้องข้อมูลจะมีมูลค่า 12.3 พันล้านดอลลาร์จากยอดขายของผู้จำหน่ายที่คาดการณ์ไว้ในปี 2024 การขยายขอบเขตการเข้าสู่ตลาด ที่ครอบคลุมภูมิภาคต่างเพิ่มขึ้น และทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนาจะช่วยให้บริษัทที่ควบรวมกันสามารถเพิ่มความรวดเร็วในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ และขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ ในตลาดด้านความปลอดภัยและการจัดการข้อมูลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว การควบรวมกิจการในครั้งนี้มีมูลค่ามากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์
รายละเอียดธุรกรรมและที่ปรึกษา
บริษัทที่ควบรวมกันได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ Sequoia Capital, Softbank Vision Fund I, Wing Venture Capital, Premji Invest และ Madrona โดย Carlyle Group จะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัทที่ควบรวมกัน
ธุรกรรมนี้ได้รับเงินทุนจากการลงทุนรอบ Series H ที่นำโดย Haveli Investments ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนส่วนใหญ่ในการทำธุรกรรมและปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Cohesity นอกจากนี้ Coatue, Sapphire Ventures และ Dragon Fund ยังเป็นนักลงทุนรายสำคัญในการลงทุนรอบ Series H การสนับสนุนที่มั่นคงนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีทรัพยากรทางการเงินและการดำเนินงานที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ รวมไปถึงการขยายการดำเนินงานทั่วโลก และการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
ไบรอัน เชธ ซีไอโอของ Haveli Investments กล่าวว่า “รู้สึกยินดีที่ได้เป็นผู้นำการลงทุนรอบล่าสุดของ Cohesity เพื่อระดมทุนสำหรับธุรกรรมครั้งใหญ่นี้ การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะช่วยสร้างขุมพลังแห่งใหม่สำหรับการปกป้องและสำรองข้อมูลและการรับมือต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ เราคาดหวังว่าความร่วมมือที่รวมเข้าด้วยกันจะช่วยเร่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ และขยายความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ของ Cohesity พร้อมตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในคณะกรรมการบริหารของ Cohesity และทำงานอย่างใกล้ชิดกับซันเจย์ และทีมผู้บริหาร ในขณะที่เราโฟกัสไปที่การยกระดับธุรกิจของ Cohesity ไปสู่ความสำเร็จในระดับที่เหนือกว่า”
รายชื่อคณะผู้บริหารของ Cohesity ทั้งหมด รวมถึงคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ สามารถดูได้ที่: https://www.cohesity.com/company/leadership/
J.P. Morgan Securities LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินด้านการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการของ Cohesity และ JPMorgan Chase Bank, N.A. เป็นผู้จัดเตรียมและดำเนินการจัดหาเงินทุนสำหรับธุรกรรมนี้ นอกจากนั้น BofA Securities, Inc. ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ Cohesity อีกด้วย ส่วน Simpson Thacher and Bartlett LLP และ Gunderson Dettmer LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหลัก ด้านกฎหมายให้กับ Cohesity ขณะที่ Guggenheim Securities และ Morgan Stanley & Co. LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ Veritas ส่วน Alston & Bird LLP, Latham & Watkins LLP และ Wachtell, Lipton, Rosen & Katz ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหลักด้านกฎหมายของ Veritas สำหรับธุรกรรมนี้
ด้านนายประมุท ศรีวิเชียร ผู้อำนวยการประจำ ประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน โคฮีซิตี้ อิงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รู้สึกตื่นเต้น และมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่การควบรวมธุรกิจของ Veritas กับ Cohesity ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์อันยิ่งใหญ่ สำหรับลูกค้าและพันธมิตรของเรา ในประเทศไทย และภูมิภาคนี้ Veritas ยังคงนำเสนอโซลูชันในการปกป้องและสำรองข้อมูล ที่ครอบคลุม และรองรับ workload และแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ขณะที่ Cohesity จะเพิ่มความสามารถด้าน Generative AI และความปลอดภัยขั้นสูงเข้ามา ซึ่งจะทำให้เราสามารถ ส่งมอบโซลูชั่น ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ ตอบสนองความต้องการของ องค์กรในประเทศไทย ในการเพิ่มขีดความสามารถของ AI ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันผ่านการนำข้อมูลเชิงลึก ที่ใช้ประโยขน์จากข้อมูลจำนวนมหาศาลขององค์กร เพื่อใช้ในการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บริษัทที่ควบรวมใหม่นี้ จะทำให้เรามี เครือข่ายพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในระดับโลกและระดับท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ (VARs) ผู้รวมระบบ (System Integrators) ผู้ให้บริการโซลูชัน (MSPs) พันธมิตรทางเทคโนโลยี ผู้จัดจำหน่าย และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ (OEMs)
ลูกค้าปัจจุบันของเราทั่วทั้งภูมิภาค จึงมั่นใจได้ว่า เราจะยังคงให้บริการที่ยอดเยี่ยมและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนในแผนพัฒนา (Roadmap) ของผลิตภัณฑ์และบริการ Cohesity ทุกรายการ เช่นเดียวกับ Veritas NetBackup, NetBackup Appliances และโซลูชันปกป้องและสำรองข้อมูลบนคลาวด์แบบเนทีฟ ด้วยกลุ่มผลิตภัฑณ์ Alta Data Protection ที่จะได้รับการพัฒนาและสนับสนุนต่อไปอีกหลายปี
Cohesity และ Veritas มีพันธกิจร่วมกันในการปกป้อง ดูแลความปลอดภัย และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูล
“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมเดินทางครั้งนี้ไปกับลูกค้า พันธมิตร และพนักงานในประเทศไทย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต”
เกี่ยวกับ Cohesity
Cohesity เป็นผู้นำด้านความปลอดภัยข้อมูลด้วยด้วยเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยAI ปัจจุบัน มีลูกค้าองค์กรกว่า 12,000 ราย รวมถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกกว่า 85 แห่งที่ติดอันดับ Fortune 100 และเกือบ 70% ของบริษัทที่ติดอันดับ Global 500 ไว้วางใจให้ Cohesity ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการรับมือกับปัญหาและการกู้คืนระบบ รวมไปถึง การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลจำนวนมหาศาลของลูกค้าโดยอาศัย Gen AI โดยโซลูชั่นของบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการของ Cohesity กับส่วนธุรกิจการปกป้องและสำรองข้อมูลระดับองค์กรของ Veritas จะช่วยคุ้มครองและปกป้องข้อมูลบนทุกแพลตฟอรม์ ได้แก่ ระบบที่ติดตั้งภายในองค์กร ระบบคลาวด์ และเครือข่ายปลายทาง (Edge) ทั้งนี้ Cohesity มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานสาขาทั่วโลก โดยได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA, IBM, HPE, Cisco, AWS, Google Cloud และอื่นๆ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดตาม Cohesity บน LinkedIn, X และ Facebook
Social Links