เมื่อการคว่ำบาตรรัสเซีย ขยายวงสู่การให้บริการรถไฟ
ดร.กฤษฎา พรหมเวค
คณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก การคมนาคมขนส่งไปยังดินแดนส่วนต่าง ๆ จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก การเดินทางโดยเครื่องบินต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงผู้โดยสารที่มีรายได้น้อยในชนบทไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่สภาพอากาศที่ไม่อำนวยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางในฤดูหนาวที่หิมะตกหนักยิ่งเป็นอุปสรรคในการเดินทางทั้งทางน้ำและทางบก ทำให้การเดินทางโดยรถไฟกลายเป็นระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญของรัสเซียมาตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต จนกระทั่งในปัจจุบันรถไฟก็ยังคงมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนรัสเซีย เห็นได้จากเส้นทางรถไฟสายสำคัญสายต่าง ๆ เช่น เส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย «Сибирская железная дорога» ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก ให้บริการระหว่างกรุงมอสโก ถึง เมืองวลาดิวอสตอก มีความยาวถึง 9,288 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางยาวนานถึง 7 วัน 7 คืนเลยทีเดียว
ไม่เพียงแค่การเดินทางระหว่างดินแดนส่วนต่าง ๆ ในรัสเซียเท่านั้น การเดินทางระหว่างประเทศ รถไฟก็เป็นระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญของรัสเซียด้วย รัสเซียมีเส้นทางรถไฟสายระหว่างประเทศที่สำคัญหลายเส้นทางด้วยกัน เช่น เส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างมอสโก – เคียฟ เมืองหลวงของยูเครน หรือเส้นทางระหว่างมอสโก – มินสก์ เมืองหลวงของเบราลุสป็นต้น นอกจากเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวแล้วรัสเซียยังมีเส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่าง เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – เฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ซึ่งเป็น "หน้าต่างสู่ยุโรป" ของรัสเซียด้วย
เส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่างเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – เฮลซิงกิ ของฟินแลนด์ มีชื่อว่า “อัลเลโกร” «Алле́гро» ซึ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟ “กลาง” (Центральный вокзал) ในกรุงเฮลซิงกิไปยังสถานีรถไฟ “ฟินแลนด์สกายา” (Финляндский вокзал) ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รถไฟสายนี้ได้ชื่อมาจากคำว่า allegro ซึ่งเป็นชื่อจังหวะดนตรีที่สื่อความหมายถึง “ความสนุกสนาน ร่าเริง เบิกบาน” ซึ่งสะท้อนถึงชื่อขบวนรถไฟ “ซิเบลิอุส” «Сибелиус» ที่ตั้งชื่อตาม “จอหน์ ซิเบลิอุส” นักแต่งเพลงชาวฟินแลนด์ ซึ่งเป็นขบวนรถไฟสายเก่าที่เคยวิ่งในเส้นทางนี้ ก่อนที่ขบวนรถไฟความเร็วสูง“อัลเลโกร” จะเข้ามาแทนที่
ขบวนรถไฟ “อัลเลโกร” เป็นบริการรถไฟความเร็วสูงซึ่งให้บริการระหว่างกรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์และเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย โดยออกแบบและสร้างโดยบริษัทรถไฟ Alstom ของประเทศอิตาลี เป็นรถไฟประเภท VR Class Sm6 ซึ่งตามการจำแนกประเภทฟินแลนด์ Sm6 ย่อมาจาก Sähkömoottorijuna (แปลว่า "รถไฟฟ้า") ประเภทที่ 6 ขบวนรถไฟ “อัลเลโกร” ดำเนินการโดยบริษัท Oy Karelian Trains Ltd ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Finnish Suomen Valtion Rautatiet (VR) และ Russian Railways (RZD) «Российские железные дороги» (РЖД) โดยเริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ปีค.ศ. 2010 มีเป้าหมายเพื่อลดเวลาการเดินทางระหว่างเฮลซิงกิและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ซึ่งแต่เดิม ระยะเวลาในการเดินทางกินเวลานานถึง 5½ ชั่วโมง แต่ภายหลังเมื่อนำขบวนรถไฟ “อัลเลโกร” มาให้บริการระยะเวลาในการเดินทางลดลงเหลือเพียง 3 ชั่วโมง 27 นาทีตลอดการเดินทาง 407 กม. (253 ไมล์) ความเร็วสูงสุดในการวิ่งของขบวนรถไฟ “อัลเลโกร” ด้วยอัตราเร็ว 220 กม./ชม. ในฝั่งของฟินแลนด์ และอัตราเร็ว 200 กม./ชม. เมื่ออยู่ในฝั่งของประเทศรัสเซีย ความเร็วต่ำสุดประมาณ 30 กม./ชม. ใช้เมื่อรถไฟวิ่งผ่านเขตชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ และในอนาคตมีแผนที่จะปรับลดระยะเวลาการเดินทางลงให้เหลือเพียง 3 ชั่วโมง การออกแบบตัวรถไฟใช้เทคโนโลยีเพนโดลิโน ซึ่งสามารถทำให้รถไฟเอียงลำตัวได้สูงถึง 8 องศาและทำให้ผลของแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางเป็นกลางซึ่งช่วยให้รถไฟไม่ต้องเคลื่อนที่ช้าลงในระหว่างการเลี้ยวเหมือนที่เกิดขึ้นกับรถไฟทั่วไป นอกจากนี้ “อัลเลโกร” ยังได้รับการออกแบบให้มีความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศทางตอนเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ป้องกันหิมะและน้ำแข็งสะสมที่ใต้ท้องรถ แนวนำไฟฟ้าที่มีการป้องกันและพื้นที่ใต้ท้องรถ
สำหรับราคาค่าตั๋วโดยสารสำหรับขบวนรถไฟ “อัลเลโกร” นั้น มีราคา 84 ยูโร (ประมาณ 3,115 บาท) สำหรับตู้โดยสารชั้นสอง และ 134 ยูโร (ประมาณ 4,970 บาท) สำหรับตู้โดยสารชั้นชั้นหนึ่ง ตู้รถไฟมีทั้งหมดจำนวนเจ็ดโบกี้ มีที่นั่งทั้งหมด 350 ที่นั่ง แต่ละที่นั่งมีช่องสำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในขบวนรถไฟยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้บริการอย่างครบครัน ทั้งสนามเด็กเล่น ห้องเสริมสวย จอภาพพร้อมพอร์ต USB และปุ่มสัญญาณสำหรับเรียกเจ้าหน้าที่ให้บริการซึ่งสามารถพูดได้ 3 ภาษาทั้งภาษารัสเซีย ฟินแลนด์ และอังกฤษ โดยให้บริการจำนวนสี่เที่ยวต่อวันโดยจอดรับส่ง ทั้งหมด 5 สถานี ผู้โดยสารสามารถผ่านด่านตรวจลงตราและด่านศุลกากรในขณะที่ขบวนรถไฟเคลื่อนที่โดยไม่ต้องลงจากขบวนรถ นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปใช้ขบวนรถไฟสายภูมิภาคในประเทศฟินแลนด์ได้ด้วย ผู้โดยสารชาวรัสเซียจำนวนมากนิยมเดินทางโดยขบวนรถไฟขบวนนี้ไปยังสถานี Tikkurila เพื่อต่อรถไฟไปยังสนามบิน เฮลซิงกิ เมือง Vantaa ประเทศฟินแลนด์ เพื่อบินไปยังเมืองต่าง ๆ ในยุโรป เนื่องจากค่าเครื่องบินจากที่นั่นไปยังเมืองต่างๆ ในยุโรปนั้นถูกกว่าค่าโดยสารจากท่าอากาศยาน Pulkovo ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และในปี ค.ศ.2018 รถไฟขบวนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการสำหรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกของรัสเซีย โดยได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
ในช่วงของการระบาดใหญ่ของไวรัส COVID-19 รถไฟโดยสาร “อัลเลโกร” ระหว่างรัสเซียและฟินแลนด์ต้องถูกระงับการให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม ปี ค.ศ. 2020 จนสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2021 ภายหลังการคว่ำบาตรจากนานาชาติที่มีต่อบริษัทรัสเซียหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมาขบวนรถไฟ “อัลเลโกร” ได้กลายเป็นวิธีการหลักในการเดินทางออกจากรัสเซียเนื่องจากน่านฟ้าของยุโรปปิดให้บริการเครื่องบินรัสเซีย และน่านฟ้าของรัสเซียได้ปิดให้บริการเครื่องบินยุโรป เส้นทางรถไฟจึงกลายเป็นเส้นทางเชื่อมต่อผู้โดยสารเพียงแห่งเดียวระหว่างรัสเซียและสหภาพยุโรป
เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปได้ขอให้ขบวนรถโดยสาร “อัลเลโกร” วิ่งต่อไปเพื่อให้บริการผู้ที่ต้องการออกจากรัสเซียสามารถทำได้ แม้ว่าข้อจำกัดของการระบาดของไวรัส COVID-19 จะจำกัดการให้บริการเฉพาะพลเมืองฟินแลนด์และรัสเซียเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้รถไฟและลดการวิ่งลงเหลือเพียงแค่วันละสองเที่ยวเท่านั้นและลดความจุผู้โดยสารลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
แต่สถาการณ์ความขัดแย้งทางทหารระหว่างรัสเซีย – ยูเครนในปัจจุบัน ผู้ประกอบการจึงได้พยายามยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าวเพื่ออนุญาตให้สามารถอพยพคนสัญชาติอื่นได้ จนกระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ปี ค.ศ. 2022 การให้บริการขบวนรถไฟ “อัลเลโกร” ได้หยุดให้บริการลงอีกครั้งเนื่องจากการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยรถไฟ “อัลเลโกร” เที่ยวสุดท้ายออกจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคมปี ค.ศ. 2022 เวลา 15:30 น.
ซึ่งผู้โดยสารทั้งชาวรัสเซียและชาวต่างประเทศล้วนหวังว่าสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครนจะจบลงในเร็ววันเพื่อที่จะสามารถกลับไปใช้บริการของขบวนรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศ “อัลเลโกร” ที่ไม่ปิดกั้นความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกในสหภาพยุโรปได้อีกครั้งในเร็ววันนี้
Social Links