"ลุงตู่"เดินหน้าเศรษฐกิจไทย "ฝ่ายค้าน" ก็หน้าเดินกระตุกให้หกล้ม!!
นายจักรยาน
เป็นที่ทราบกันดีว่า เศรษฐกิจของโลกชักกระตุกหยุดชะงักชะลอตัวลงมาจากหลายเหตุปัจจัยที่อุบ้ติขึ้นบนโลกใบนี้ ซึ่งส่งผลกระทบไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
ที่นี่ประเทศไทย ก็ได้รับวิกฤติเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ออกฤทธิ์ร้ายไปถึงปากท้องประชาชนคนฐานราก!!
ในการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.)เศรษฐกิจประชุมนัดแรกที่ผ่านมาก็ได้มีมติทุ่มงบแค่เบาะ ๆ 3.1 แสนล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้มีเงินสะพัดหมุนไปหมุนมาไม่เกิดอาการกระตุก
ก็ขออนุญาตกระเทาะแจกแจงย้ำกันให้ทุก ๆ คนได้ซึมซับรับรู้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคาะออกมานั้นมีเรื่องสำคัญ ๆ อะไรบ้าง
อันดันแรกคือมีการแจกเงินคนจนเดือนสิงหาคมและกันยายน 2562 เดือนละ 500 บาทรวมเป็น 1,000 บาท แต่ไม่ใช่ให้คนจนคนไทยทุกคน โดยให้คนจนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.6 ล้านคน
และแจกเงินคนชราที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มอีก 500 บาทต่อเดือน
ด้วยเหตุฉะนี้ คนจนที่เป็นคนชรามีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับ 2 ต่อรวมเป็นเดือนละ 1,000 บาท!!
ส่วนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั่ว ๆ ไปที่ได้รับเงินคนละ 600 บาทจนถึง 1,000 บาทตามขั้นบันไดอายุของผู้ชรา ไม่ได้รับเงินเพิ่มในมาตรการครั้งนี้
ก็ขอให้ผู้สูงอายุรอคอยการกระตุ้มก็อกที่ 2 ว่าจะเพิ่มเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุเป็นเดือนละ 1,000 บาททุกช่วงวัยเมื่อไหร่ตามพรรคการเมืองรัฐบาลหลายพรรคได้หาเสียงไว้??
ซึ่งมหกรรมการแจกกระจายครั้งนี้ไม่ใช่แจกเงินสด แต่เติมเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ!!
ก็ต้องขอแสดงความยินดีต่อคนจนที่มีบัตรสวัสดิแห่งรัฐ และขอแสดงความเสียใจต่อคนจนที่ไม่มีบัตร เลยไม่มีสิทธิ!!
ส่วนคุณแม่ที่ได้รับเงินอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตรอายุไม่เกิน 6 ปีจะได้รับเงินเพิ่มอีก 300 บาทต่อเดือน
ดังนั้นเงินที่รัฐบาล "ลุงตู่" ใจดีเติมเข้าบัตรสวัสดิการของคนที่มีสิทธิ์ โดยใช้กระตุ้นให้ปากท้องของคนจนหายกระตุกได้บ้างรวมแล้ว 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับภัยแล้งที่เกษตรกรหลายจังหวัดประสบปัญหาอยู่ ก็มีโปรโมชั่นช่วยภัยแล้ง ให้ผู้ประสบทุกข์ดังกล่าวสามารถกู้เงิน "สินเชื่อฉุกเฉิน" ฟรีดอกเบี้ยปีแรกจาก ธ.ก.ส.มาพลิกฟื้นแผ่นดินสู้กัยภัยแล้ง โดยมีวงเงินในการช่วยเหลือทั้งหมด 5 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้มีมาตรการสนับสนุนต้นทุนการผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2562/2563 ในเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ลงทุนในประเทศ รัฐได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้สามารถหักค่าใช้จ่ายที่เป็นเครื่องจักรได้ 1.5 เท่า เพื่อมิให้หนีไปลงทุนยังต่างแดน
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการขนาดย่อม ทั้งรายเล็กและรายกลาง ที่เรียกกันติดปากว่า "เอสเอ็มอี" ที่เจ็งไปเยอะและกำลังร่อแรกอีกมาก
ก็มีมาตรการช่วยผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินทุนจากแบงก์รัฐ ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ได้ง่าย โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)เข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชื่อ โดยตั้งวงเงินกู้ช่วยเหลือ 1 แสนล้านบาท
ผู้ที่มีรายได้น้อยอยากกู้เงินซื้อบ้านเป็นของตังเอง ก็ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดวงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท และธนาคารออมสิน จัดวงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท่
โปรโมชั่้นอีกเรื่องที่ให้ประชาชนหายใจคล่องขึ้นจากการพ่นพิษของเศรษฐกิจโลกคือ พักชำระเงินต้นของกองทุนหมู่บ้านส 5 หมื่นแห่งที่กูัเงินจาก ธ.ก.ส.และออมสินกว่า 6.7 หมื่นล้านบาท เพื่อให้กองทุนหมู่บ้านมีเงินเหลือไปปล่อยกู้ให้ประชาชน
เชื่อว่าไม่มีใครปฏิเสธว่าการท่องเที่ยวทำให้มีเงินหมุนสะพัดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้จึงมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประชาชนด้วยการแจกเงิน 1,000 บาทให้กับประชาชนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปไม่เกิน 10 ล้านคน เพื่อนำไปท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง แต่ต้องไม่เป็นจังหวัดที่มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ตามบัตรประชาชน
สาเหตุที่รัฐบาลให้คนชอบเที่ยวเที่ยวได้ไม่เกิน 10 ล้านคน จะใช้วิธีสมัครลงทะเบียนให้รัฐได้ทราบว่ามีใครบ้างที่อยากเที่ยวและอยากได้รับการแจกเงินฟรีแบบจำกัดสิทธิ 10 ล้านคนเท่านั้น
ส่วนผู้ที่ชอบเที่ยวโน้นเที่ยวนี้ไม่สนมาตรการแจกเงินลงทะเบียนของรัฐ ก็เสียสละควักเงินในกระเป๋าตัวเองกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือประเทศชาติ!!
ซึ่งการแจกเงินท่องเที่ยวนี้เป็นการให้วงเงินผ่านจี-วอลเลท(กระเป๋นเงินภาครัฐ) เพื่อให้นำไปใช้จ่าย ไม่สามารถกดเป็นเงินสดมาใช้ได้ ซึ่งรัฐฝันวามาตรการนี้ทำให้ประชาชนควักเงินตัวเองจ่ายเพิ่มเติมเพื่อเที่ยว กิน ช้อป เพื่อให้เศรษฐกิจไหลรื่นไปทั่วประเทศ
โดยรัฐจะคืนเงินให้อีก 15% ของวงเงินที่จ่ายเพิ่ม แต่กำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือจะคืนเงินให้ไม่เกิน 4,500 บาทบวกกับเงินแจกผ่านจี-วอลเลทอีก 1,000 บาท!!
เหตุวิกฤตเศรษฐกิจที่ลามไปทุกประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยถดถอยลงไป โดยเฉพาะทัวร์จีนที่หดหายไปมากทีเดียว จึงได้มีมาตรการให้ฟรีวีซ่าเฉพาะทัวร์จีนและแถมทัวร์อินดียอีกประเทศ จูงใจให้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล "ลุงตู่" ที่ออกมายกแรกคาดหวังไปในทางบวกว่า จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตกว่า 3 % ส่วนจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่สิ้นปี 2562 ก็จะได้รู้กันว่าจริงหรือหลอก!!
การประเดิมกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลครั้งนี้ "ลุงตู่" ย้ำว่าคุ้มค่าจากการทุ่มเงิน ไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าไปได้
อย่างไรก็ตาม "ฝ่ายค้าน"คงต้องเฝ้าจับตาดูว่า การแจกแหลกจะมีอะไรที่จะกระตุกให้ "ลุงตู่" เสื่อมเสียความน่าเชื่อถือ??
ทว่าขณะนี้ "ฝ่ายค้าน"ได้โหมโรงกระตุก "ลุงตู่" เรื่องปมถวายสัตย์ ฯ ที่หนีตอบคำถามกระทู้สดของฝ่ายค้าน เปลี่ยนยุทธวิธีมาเป็นยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ต้องลงมติเป็นเวลา 2-3 วัน
เพื่อบีบให้ "ลุงตู่"ต้องมาตอบในสภา ฯ มิฉะนั้นจะขัดรัฐธรรมนูญ!?!
"ลุงตู่" ประกาศลั่นว่าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย และยืนยันว่าการถวายสัตย์ ฯ ถูกต้องทุกประการตามรัฐธรรมนูญ!!
พร้อมทั้งเน้นว่าการกระตุกของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ทำให้รัฐบาลเป๋ไปเป๋มา ยังเดินเข้มแข็ง เดินตรงทางตลอด ไม่มีหกล้ม??
ขอปิดท้ายอวยให้ "ลุงตู่" โชคดีก็แล้วกันนะ!!
Social Links