พลเอกวาเลรี วาซิลิเยวิช เกราซิมอฟ: ผู้บัญชาการกองกำลังร่วมปฏิบัติการพิเศษในยูเครน

พลเอกวาเลรี วาซิลิเยวิช เกราซิมอฟ: ผู้บัญชาการกองกำลังร่วมปฏิบัติการพิเศษในยูเครน

พลเอกวาเลรี วาซิลิเยวิช เกราซิมอฟ

ผู้บัญชาการกองกำลังร่วมปฏิบัติการพิเศษในยูเครน

ผศ.ดร.กฤษฎา พรหมเวค

คณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

    เป็นที่ฮือฮาอีกครั้งเมื่อพลเอกเซอร์เก ซอยกู «Сергей Кужугетович Шойгу» รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของสหพันธรัฐรัสเซีย ได้แต่งตั้งพลเอกวาเลรี วาซิลิเยวิช เกราซิมอฟ «Валерий Васильевич Герасимов» ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังปฏิบัติการพิเศษร่วมในยูเครน ในวันพุธที่ 11 มกราคม ปี ค.ศ. 2023 แทนที่ พลเอกเซอร์เก ซูโรวิคิน «Сергей Владимирович Суровикин» ที่มีสมญานามว่า “นายพลอาร์มาเก็ดดอน” «Генерал Армагеддон» ที่เพิ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้เพียงแค่เวลาสามเดือนเท่านั้น

โดยคำแถลงของกระทรวงกลาโหมของสหพันธรัฐรัสเซียมีรายละเอียดของคำสั่งดังนี้ “พลเอกวาเลรี เกราซิมอฟหัวหน้าเสนาธิการทั่วไปของกองทัพบกได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกองกำลังร่วมปฏิบัติการพิเศษในยูเครน พลเอกเซอร์เก ซูโรวิคิน อดีตผู้บัญชาการกองกำลังปฏิบัติการพิเศษร่วมฯ พลเอกโอเล็ก ซายูคอฟ «Олег Салюков» เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังภาคพื้นดิน และพันเอก อเล็กซี่ คิม« Алексей Ким » รองผู้บังคับบัญชากองทัพรัสเซียได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้บัญชาการกองกำลังร่วมฯ  ซึ่งเป็นที่น่าสนใจจากหลายฝ่ายด้วยกัน จนมีผู้มาถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับรัสเซีย ทำไมจึงมีการเปลี่ยนผู้บัญชาการฯ อีกครั้ง วันนี้เราจะมาคุยกันในประเด็นนี้

พลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน ปี ค.ศ. 1955 ณ เมือง คาซาน  สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตปกครองตนเองตาตาร์ «Татарская Автономная Советская Социалистическая Республика» (ปัจจุบันคือสาธารณรัฐตาตาร์สถาน) ในครอบครัวชนชั้นแรงงาน สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารคาซาน ซูโวรอฟ «Казанское суворовское военное училище» ในปี ค.ศ. 1973 และสำเร็จการศึกษาจากเป็นสถาบันการศึกษาทางทหารสูงสุดของกระทรวงกลาโหมของสหพันธรัฐรัสเซียในคาซาน ในปี ค.ศ. 1977 ต่อมาในปี ค.ศ. 1987 สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการทหารแห่งกองกำลังติดอาวุธตั้งชื่อตามจอมพลแห่งสหภาพโซเวียต อาร์. ยา. มาลินอฟสกี ณ กรุงมอสโก

«Военную академию бронетанковых войск им. маршала Советского Союза Р. Я. Малиновского в Москве» และในปี ค.ศ. 1997 เขาสำเร็จการศึกษาจากสถาบันการทหารของเสนาธิการกองทัพแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย «Военную академию Генерального штаба Вооруженных сил РФ.»

เขาเริ่มรับราชการในกองทัพตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1977 ด้วยตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยของกองพันในกรมรถถังที่ 80 ของกองทหารรักษาพระองค์ที่ 90 ของกลุ่มกองกำลังทางตอนเหนือสาธารณรัฐประชาชนโปแลนด์ หลังจากนั้นจึงย้ายไปดำรงตำแหน่งเสนาธิการและผู้บัญชาการกองพันรถถังที่เขตทหารตะวันออกไกล หลังจากนั้นก็ได้เติบโตในกองทัพรัสเซียตามลำดับโดยได้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ในกองทัพรัสเซียดังนี้

ระหว่างปี ค.ศ. 1987 – 1993  ดำรงตำแหน่งเสนาธิการกองทหารรถถัง – รองผู้บัญชาการกองทหารรถถัง – ผู้บัญชาการกองทหารรถถัง, เสนาธิการกองทหารรักษาพระองค์ที่ 144 – รองผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ที่ 144 ในเขตทหารบอลติก (ทาลลินน์, เอสโตเนีย)

ระหว่างปี ค.ศ. 1993 – 1995 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ที่ 144 ในเขตทหารบอลติก (กลุ่มกองกำลังทางตะวันตกเฉียงเหนือ) ในปี ค.ศ.1994 ถูกย้ายไปประจำการในเขตทหารมอสโก (เมืองเยลเนีย, แคว้นสโมเลนสก์) « г. Ельня, Смоленская обл. » ซึ่งเปลี่ยนเป็นฐานเก็บอาวุธและอุปกรณ์ของกองทัพรัสเซีย

ระหว่างปี ค.ศ. 1997 – 1998 ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการคนที่หนึ่งของกองทัพรถถังที่ 1 ในเขตทหารมอสโก (สโมเลนสก์)

ระหว่างปี ค.ศ. 1998 – 2003 ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.เหล่าทัพ   เสนาธิการ – รองผู้บัญชาการทหารบกคนแรก – ผู้บัญชาการกองทัพผสมที่ 58 ในเขตทหารคอเคเชียนเหนือ ในช่วงหลายปีแห่งคำสั่งหน่วยทหารของเขาได้เข้าร่วมในการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในดินแดนเชชเนีย

ระหว่างปี ค.ศ. 2003 – 2005 ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการคนแรกของเขตทหารตะวันออกไกล (Khabarovsk) ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2005 – 2006  ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองอำนวยการฝึกการต่อสู้และบริการหลักของกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย

ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2006 – 2007  ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการคนแรกของเขตทหารคอเคเซียนเหนือ

วันที่ 11 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2007 – 5  กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2009 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังของเขตทหารเลนินกราด (เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2009 ถึง 23 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2010ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเขตทหารมอสโก ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมปี ค.ศ. 2010 ถึง 26 เมษายนปี ค.ศ. 2010 ตามคำสั่งของประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียเขาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าเสนาธิการกองทัพแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย

ในปี ค.ศ. 2009 – 2012 ได้รับเกียรติแต่งตั้งให้เป็นผู้ควบคุมการสวนสนามเพื่อเป็นเกียรติแก่วันแห่งชัยชนะในมหาสงครามแห่งความรักชาติ ระหว่างปี ค.ศ. 1941 – 1945 ที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโก

ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนถึง 9 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2012 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเขตทหารกลาง

9 พฤศจิกายนปี ค.ศ. 2012 – ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพของสหพันธรัฐรัสเซีย – รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมคนแรกของสหพันธรัฐรัสเซีย แทนที่พลเอกนิโคไล เอโกโรวิช มาคารอฟ«Генерал Армагеддон Макаров, Николай Егорович » ในตำแหน่งนี้ ในสมัยที่พลเอกเซอร์เก ซอยกู ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2012 และเขาได้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซียตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนปี ค.ศ. 2012

ในปี ค.ศ. 2014 เกี่ยวกับเหตุการณ์การผนวกแคว้นไครเมียในยูเครน รายชื่อของเขาถูกรวมอยู่ในรายการคว่ำบาตรของประเทศต่าง ๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา (17 มีนาคม) สหภาพยุโรป (21 มีนาคม) สวิตเซอร์แลนด์ (2 เมษายน) และออสเตรเลีย (19 มิถุนายน)

พลเอกวาเลรี เกราซิมอฟได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายพลแห่งกองทัพบกในปี ค.ศ. 2013 เขาได้รับเหรียญตรายกย่องเชิดชูเกียรติจากกองทัพรัสเซียมากมาย ได้แก่การยกย่องให้เป็น “วีรบุรุษแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย” ในปี ค.ศ. 2016 ได้รับรางวัล Order of St. George ขั้นที่ III และขั้นที่ IV (ในปี ค.ศ. 2017, 2015), รางวัล “เพื่อรับใช้ปิตุภูมิ” ขั้นที่ I (ในปี ค.ศ. 2021), ขั้นที่ III (2014, with swords), ขั้นที่ IV (2002, with swords),  รางวัลอเลกซานเดอร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky) (ในปี ค.ศ. 2020), รางวัล “”เพื่อรับใช้แผ่นดินเกิดในกองทัพของสหภาพโซเวียต” ขั้นที่ III นอกจากนี้เขายังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากต่างประเทศอีกหลายประเทศ ได้แก่ เครื่องราชอิสริยาภรณ์มิตรภาพของประชาชน จากเบลารุส ในปี ค.ศ. 2010  เครื่องอิสริยาภรณ์กองทัพนิการากัวในปี ค.ศ. 2010 และธงแดงแห่งมองโกเลีย ในปี ค.ศ. 2021 เป็นต้นรวมถึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารผู้มีเกียรติแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ในปี ค.ศ. 2009 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของคาซาน ในปี ค.ศ. 2015

การปรับเปลี่ยนดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทั้งในทางบวกและทางลบ โดยทางฝั่งตะวันตกออกมาให้ข่าวมากมาย เช่น พลเอกเซอร์เก ซูโรวิคิน  ที่มีสมญานามว่า “นายพลอาร์มาเก็ดดอน” ของรัสเซีย “บ้อท่า” ทำอะไรยูเครนไม่ได้ หรือ เกิดกระแสความแตกแยกของกองกำลังรัสเซียที่ประกอบด้วยหลายกลุ่มหลายฝ่ายที่มุ่งเอาหน้าชิงดีชิงเด่นกันจนไม่ให้ความร่วมมือกันในการรบกับยูเครน ในขณะที่ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมาให้เหตุผลโดยระบุว่า “การสับเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าวเป็นไปตามความเหมาะสม สาเหตุสืบเนื่องมาจาก “เพื่อขยายขอบเขตของการสู้รบ ที่ต้องแก้ไขในระหว่างการดำเนินการ ความจำเป็นในการจัดระเบียบการปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างหน่วยต่าง ๆ และอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ความต้องการปรับปรุงคุณภาพของการสนับสนุนทุกประเภทและประสิทธิภาพของการบังคับบัญชาและการควบคุมการจัดกลุ่มกองกำลังของกองทัพรัสเซีย”

เมื่อเทียบกับพลเอกเซอร์เก ซูโรวิคินที่เป็นฝ่ายบู๊ล้างผลาญแล้ว พลเอกวาเลรี เกราซิมอฟจะมีลักษณะของทหารฝ่ายบุ๋นที่มีความสุขุมลุ่มลึกกว่า เห็นได้จากตำราทางด้านการทหารหลายเล่มของเขาที่เป็นที่ยอมรับของนายทหารรัสเซียและประเทศต่าง ๆ เช่น หนังสือเรื่อง “คุณค่าของวิทยาศาสตร์อยู่ที่การมองการณ์ไกล: ความท้าทายใหม่ต้องการการทบทวนรูปแบบและวิธีการดำเนินการต่อสู้” «Ценность науки в ожидании»   ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2013 ที่ให้เหตุผลว่าในศตวรรษที่ 21 เส้นแบ่งระหว่างสงครามกับสันติภาพกำลังเลือนลาง และ “สงครามจะไม่มีการประกาศอีกต่อไป และเมื่อได้เริ่มขึ้นแล้วก็ดำเนินต่อไปตามรูปแบบที่ไม่คุ้นเคย” ในเนื้อหา เขาได้พยายามอธิบายถึงสิ่งที่มักเรียกว่าสงครามลูกผสมหรือ Hybrid Warfare ซึ่งจำเป็นต้องมีอิทธิพลเหนือต่อศัตรูด้วยข้อมูล การสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม และการใช้มาตรการอื่นๆ ที่ไม่ใช่ทางทหาร นอกจากนี้เขายังเป็นผู้กำหนดหลักนิยมทางทหารของกองทัพรัสเซีย ที่เรียกว่า “หลักนิยมเกราซิมอฟ” «Доктрина Валерия Герасимова» ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำเนินการทางการรบของกองทัพรัสเซียในปัจจุบัน

พลเอกวาเลรี เกราซิมอฟยังได้รับการยอมรับจากพลเอกวาเลรี ฟีโอโดโรวิช ซาลุฌนึย «Валерий Фёдорович Залужный»  ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน โดยยอมรับในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร The Time ว่าเขาได้เรียนรู้มากมายจากหัวหน้าเสนาธิการรัสเซีย “ผมเติบโตมากับหลักคำสอนทางทหารของรัสเซียและยังคงเชื่อว่าวิทยาศาสตร์การทหารทั้งหมดอยู่ในรัสเซีย ผมเรียนรู้จากเกราซิมอฟ ผมอ่านทุกอย่างที่เขาเคยเขียน… เขาเป็นคนที่ฉลาดที่สุดและความคาดหวังของผมจากเขานั้นสูงมาก”

ในส่วนตัวของผู้เขียนเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนอะไรมากนัก และมีเหตุผลหลักมาจากสงครามในเฟสที่สามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ที่จะเกิดขึ้นจากแนวโน้มที่ทางสมาชิกองค์การนาโต้จะส่งรถถังสมัยใหม่ เช่น Leopard 2 ของเยอรมนี หรือ M1 Abrams ของสหรัฐฯ มายังยูเครนเพื่อให้การสนับสนุนการต่อสู้ของกองทัพยูเครนตามที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนร้องขอ

ดังนั้นการแต่งตั้งพลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ ที่มีพื้นฐานมาจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีประสบการณ์ในการต่อสู้ด้วยรถถัง และเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาหน่วยรถถังมาก่อนน่าจะเป็นเหตุผลหลักที่กองทัพรัสเซียเตรียมการมาเพื่อการต่อสู้ในเฟสต่อไปเพื่อเตรียมรับมือและต่อสู้กับรถถังประเภทต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงของฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะ ซึ่งการแต่งตั้งพลเอกวาเลรี เกราซิมอฟเข้าดำรงตำแหน่งฯ จะยกระดับความรุนแรงของสงครามรัสเซีย – ยูเครนหรือไม่

ผมว่าพวกเราน่าจะเห็นคำตอบได้ในเร็ว ๆ นี้

You may also like

อาลีบาบาเปิดตัว Qwen3 ชูมาตรฐานใหม่ ให้วงการ Open-Source AI ด้วย Hybrid Reasoning

อาลีบาบา