Generative AI ยักษ์เทคอเมริกา-จีน แข่งเดือด เอาไปใช้ในทุกผลิตภัณฑ์

Generative AI ยักษ์เทคอเมริกา-จีน แข่งเดือด เอาไปใช้ในทุกผลิตภัณฑ์

Generative AI ยักษ์เทคอเมริกา-จีน

แข่งเดือด เอาไปใช้ในทุกผลิตภัณฑ์

สุทธิชัย ทักษนันต์

การเปิดตัวของ ChatGPT วันที่ 30-11-2022 ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าในปัจจุบันนวัตกรรมเทคโนโลยีของอเมริกา ยังเหนือกว่าจีน

การคิดค้นอะไรใหม่ๆขึ้นมาในโลก จุดเริ่มต้นมักจะมาจากอเมริกา

แต่เมื่อถึงคราวของผู้ตาม การเอาเทคโนโลยีไปต่อยอด หรือเอาไปใช้จริง อเมริกาอาจไม่ได้เหนือกว่าประเทศอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีน

Generative AI เป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มีการเปรียบเทียบว่าการค้นพบครั้งนี้มีความสำคัญเหมือนตอนที่โลกเริ่มมีไฟฟ้าใช้ หรือจุดเริ่มต้นที่มีอินเตอร์เน็ต

ครั้งแรกที่ บิล เกตส์ เห็นศักยภาพ Generative AI ของ ChatGPT ก่อนที่ Microsoft จะลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์กับ OpenAI บิล เกตส์ บอกว่ามันทำให้เขาตื่นเต้นครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต มีความรู้สึกเหมือนกับตอนที่เขาได้เห็นเทคโนโลยี Window ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเปิดทำงานได้หลายๆหน้าต่างพร้อมๆกัน

เพียงไม่ถึงหนึ่งปีหลังการเปิดตัวของ ChatGPT วันนี้ Generative AI ได้เข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมายของ Microsoft

Google ก็มี Generative AI ของตัวเองและเป็นคู่แข่งซึ่งมีความก้าวหน้าด้าน AI ในทิศทางเดียวกับไมโครซอฟต์

Generative AI เปรียบเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ มันมีศักยภาพที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ และวันนี้มีประสิทธิภาพน่าทึ่งมาก มีการคาดหมายว่า ภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี มันจะกลายเป็น AGI ที่มีระดับสติปัญญาไม่ต่างจากมนุษย์ หรือเหนือกว่ามนุษย์ และจะทำงานได้ดีกว่ามนุษย์อย่างแน่นอน

Generative AI ของอเมริกาสามารถ สร้างข้อความ สร้างภาพ สร้างเสียง และอีกไม่นานจะได้เห็นมันสร้างวิดีโอ

บริษัทเทคที่มีผลิตภัณฑ์ Generative AI หรือกำลังทำงานนี้อยู่ในอเมริกา เช่น OpenAI, Microsoft, Google, Meta, xAI, ฯลฯ

บริษัทยักษ์เทคจีนก็กำลังโดดเข้ามาในตลาด Generative AI เช่นกัน

Tencent Holdings มี AI ของตัวเองที่คล้ายกับ ChatGPT ชื่อว่า Hunyuan และกำลังถูกเอาไปใส่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัท เช่น สื่อโซเชียลวีแชท วิดีโอเกม อีคอมเมิร์ซ การประชุมออนไลน์ เอกสาร โปรแกรมประมวลผล โฆษณา ฯลฯ ขณะนี้ได้รวมเข้ากับบริการมากกว่า 180 รายการของ Tencent แล้ว

Hunyuan เป็น Large Language Model ที่ได้รับการการฝึกฝนด้วยภาษาโปรแกรมหลัก 32 ภาษา ซึ่งต่อไปจะได้เห็น AI ตัวนี้รองรับภาษาต่างๆด้วย ซึ่งอาจรวมถึงภาษาไทย

iFlytex ของจีนอ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า ChatGPT ในส่วนที่เป็นการสื่อสารภาษาจีน

Baidu ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเครื่องมือค้นหาแบบกูเกิลฉบับจีน มี Ernie Bot ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางคลาวด์คอมพิวติ้งที่ประมวลผลและตอบคำถามได้ทุกเรื่อง

Alibaba มีโมเดล Generative AI ชื่อ Tongyi Qianwen อยู่ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Taobao และแอป DingTalk ที่มีลักษณะคล้าย Slack

โดยรวมแล้ว Generative AI ของอเมริกาในวันนี้ยังมีศักยภาพเหนือกว่าของจีน เหตุผลหลักเพราะเปิดตัวก่อน มีการพัฒนาที่นำหน้ากว่า

แต่ประเทศจีนมีจุดเด่นเรื่องการประยุกต์ใช้ มีขนาดตลาดในประเทศที่ใหญ่มาก และจีนยังเก่งเรื่องการทำราคาที่เข้าถึงได้มากเป็นพิเศษ

ในระยะยาว ยังไม่รู้แน่ชัดว่า Generative AI จากอเมริกาหรือจีน ใครจะเป็นผู้ชนะ

แต่ที่แน่ๆ คือ หากใครไม่ใช้ Generative AI มาช่วยทำงานในวันนี้ มีโอกาสที่จะต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง…หรืออาจหมดอนาคตในการทำงาน!!!

You may also like

เปิดตัวดัชนีชี้วัดความปลอดภัยของเด็ก บนโลกออนไลน์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก

เปิดตัวด