Humanoid Robot มีสีหน้าท่าทางเหมือนมนุษย์ 

Humanoid Robot มีสีหน้าท่าทางเหมือนมนุษย์ 

Humanoid Robot มีสีหน้าท่าทางเหมือนมนุษย์ 

สุทธิชัย ทักษนันต์

ในปี 1973 ภาพยนตร์เรื่อง Westworld โดยไมเคิล คริชตัน ได้สร้างจินตนาการเกี่ยวกับโลกอนาคตที่มีหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้อย่างใกล้เคียง

Westworld เป็นสวนสนุกที่ให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตในโลกตะวันตกแบบสมมติ โดยมีหุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์โดยไม่ขัดขืน มันทำตามบทบาทต่างๆ ในโลกตะวันตกตามที่ถูกโปรแกรม

ปี 2016 Westworld ถูกนำมาสร้างอีกครั้งเป็นซีรีส์ทาง HBO นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่มีทั้งความสามารถและจิตสำนึกที่ใกล้เคียงกับมนุษย์

 AI ในปัจจุบัน จะทำให้จินตนาการของไมเคิล คริชตันเมื่อห้าสิบกว่าปีก่อนกลายเป็นความจริง

ช่วงนี้มีสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งชื่อ AheadForm จากเมืองหางโจวประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัทผู้บุกเบิกพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่เน้นความเหมือนจริงระดับสูง โดยเน้นการสร้างส่วนหัวของหุ่นยนต์ คลิปวิดีโอกำลังเป็นไวรัล

หุ่นยนต์ของ AheadForm มีสีหน้าและท่าทางที่เหมือนมนุษย์อย่างเป็นธรรมชาติ แสดงสีหน้าได้หลากหลายและละเอียดอ่อน เช่น การยิ้ม การแสดงความเศร้า หรือความประหลาดใจ

AI ทำให้การแสดงออกทางสีหน้าเกิดขึ้นอย่างลื่นไหล ไม่แข็งกระด้าง เลียนแบบท่าทางและพฤติกรรมเล็กๆน้อยๆของมนุษย์ได้ สามารถสื่อสารด้วยภาษากายได้อย่างสมจริง

เป้าหมายในอนาคตของ AheadForm คือการพัฒนาหุ่นยนต์ให้เป็นเพื่อนร่วมงาน ผู้ช่วยส่วนตัว หรือแม้กระทั่งเพื่อนในครอบครัว ทำให้การออกแบบมุ่งเน้นไปที่การสร้างปฏิสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ลึกซึ้ง และทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเป็นมิตรกับหุ่นยนต์มากขึ้น

ที่จริงยังมีผู้สร้างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ดังๆของโลกอีกหลายแห่ง เช่น Tesla, Figure AI, Unitree Robotics, Boston Dynamics, Agility Robotics

ปีนี้ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ จากปี 2024 ที่มีเพียง 2,500 ตัว แต่ปี 2025 จะเติบโตเป็น 18,000 ตัว

Goldman Sachs คาดการณ์ว่าตลาดจะใหญ่ถึง $38 พันล้านภายในปี 2035

Morgan Stanley คาดการณ์ว่าจะมีหุ่นยนต์ 63 ล้านตัวภายในปี 2050

Tesla Optimus Gen 2 วางแผนผลิต 5,000 ตัวในปี 2025 และ 50,000 ตัวในปี 2026

Boston Dynamics Atlas เป็นหุ่นยนต์ที่กระโดดหลังคว่ำได้

Agility Robotics Digit กำลังทำงานจริงในโกดังต่างๆของ Amazon

BYD มีเป้าหมายใช้หุ่นยนต์ 1,500 ตัวในปี 2025 และขยายเป็น 20,000 ตัวในปี 2026

ผู้สร้างหุ่นยนต์แต่ละรายอาจมีเป้าหมายที่ต่างกัน ทำให้เกิดการออกแบบที่เน้นฟังก์ชันการทำงานแตกต่างกันไป ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แนวทางหลัก คือ การเน้นการใช้งานจริง (Functional Design) และ การเน้นปฏิสัมพันธ์ทางสังคม (Social Design)

Tesla Optimus, Boston Dynamics Atlas, Agility Robotics Digit ไม่ได้เน้นการทำให้หุ่นยนต์มีรูปลักษณ์เหมือนมนุษย์ แต่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานเป็นหลัก จัดอยู่ในกลุ่ม Functional Design

ในขณะที่มีผู้สร้างหุ่นยนต์อีกหลายแห่งเช่น Hanson Robotics Sophia, Geminoid F, AheadForm มีเป้าหมายหลักที่เน้นด้าน Social สร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่ทางสังคม เช่น เป็นเพื่อน ผู้ดูแล พนักงานตอนรับ หรือนักแสดง ซึ่งการโต้ตอบที่ลึกซึ้งเป็นหัวใจสำคัญ การมีใบหน้าและท่าทางที่เหมือนจริงช่วยให้มนุษย์รู้สึกเชื่อมโยงและสื่อสารกับหุ่นยนต์ได้ง่ายขึ้น

ความก้าวหน้าของ AI ในปัจจุบัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จินตนาการเกี่ยวกับหุ่นยนต์ในอดีตกลายเป็นเรื่องจริง

เด็กและวัยรุ่นชายที่เคยดูหนัง Westworld ที่โรงหนังสกาล่าเมื่อประมาณห้าสิบปีก่อน น่าจะจำฉากที่พระเอกมีปฏิสัมพันธ์พิเศษในห้องนอนกับหุ่นยนต์สาวได้

นั่นเป็นตัวอย่าง Social Humanoid Robot ที่มีแนวโน้มว่าจะมีโอกาสทางธุรกิจสูงมากๆ

You may also like

คปภ.เดินหน้ายกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและไซเบอร์อุตฯประกันภัย

คปภ.เดิน