ศึกเลือกตั้งเมืองหลวง ก็มีการขอสืบทอดอำนาจ??

ศึกเลือกตั้งเมืองหลวง ก็มีการขอสืบทอดอำนาจ??

ศึกเลือกตั้งเมืองหลวง ก็มีการขอสืบทอดอำนาจ??

นายจักรยาน

                สถานการณ์การเมืองโลกในวันนี้ก็ยังตึงเครียดเรื่องสงครรมระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ปะทะสู้รบกันมานานร่วมเดือนแล้ว  ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีการเจราจรให้เกิดสันติภาพเมื่อไหร่่

                ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวโยงอันอีรุงตุงนังก็กล้า ๆ กลัว ๆ กันทั้งนั้น  เป็นห่วงผวาจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ทำลายล้างโลก

                เรา ๆ ท่าน ๆ ก็ต้องรอดูกันว่าเหตุแห่งสงครามที่เกิดขึ้นมานี้จะยุติลงด้วยความสงบสุขของมวลมนุษยชาติวันไหน

                ไม่ว่าประเทศไทยจะแพงทั้งแผ่นดินเช่นเดียวกับชาวโลกที่เจอแพงไปหมดเช่นเดียวกัน ทว่าการเมืองไทยยังเคลื่อนไหวไปตลอดไม่มีวันหยุดนิ่ง

                แต่ละพรรคการเมืองก็ขยับเคลื่อนไหวโฆษณาให้ประชาชนได้รับรู้ว่า พรรคของตนเองได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว เพื่อหาคะแนนนิยมจากพ่อแม่พี่น้อง

                พรรคการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ไม่ว่า จะเป็น "พรรคไทยสร้างไทย"  "พรรคสร้างอนาคตไทย" "พรรครวมใจสร้างชาติ"  ก็เริ่มชูนโยบายเด่น ๆ แข่งขันกัน

                เป็นที่น่าสังเกตุว่า พรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่จะต้องมีคำว่า "สร้่าง" คำว่า "ขาติ" หรือคำว่า "ไทย" เป็นชื่อของพรรคแทบทั้งสิ้น

                เชื่อว่าพรรคการเมืองทีจะจดแจ้งตั้งใหม่อีกหลาย ๆ พรรคคงมีคำว่า "ชาติ" คำว่า "ไทย และคำว่า "สร้าง"  หรือคำว่า "อนาคต" เป็นชื่อของ "พรรค" อย่างแน่นอน

                ซึ่้งพอจะตีความได้ว่า  พรรคการเมืองใหม่ ๆ หวังที่จะสร้างอนาคคบ้านเมืองไทยให้เจริญรุดหน้าต่อไปในการฟันฝ่าสู้กับ "โควิดโหด" ที่ยังเป็นนรกของมนุษย์ทั่วโลก

                นักวิทยาศาสตร์และนักไวรัสวิทยาทั่วโลกยังหาคำตอบจาก "โควิดอำมหิต" ตัวนี้ไม่ได้ว่าทำไมมันที่ดื้อด้านสุด ๆ กว่าไวรัสนรกอื่่น ๆ ที่เคยระบาดในโลกนี้มาแล้ว

                ด้วยเหตุฉะนี้  หลาย ๆ ประเทศของโลกจึงต้องทำให้ "โควิดยมทูต" ตัวนี้ลดความน่ากล้วลงไปจากความรู้สึกของชาวโลก โดยได้หาฤกษ์งามยามดีให้เป็น "โรคประจำถิ่น" ไปเลยเหมือน ๆ กับโรคไข้หวัดใหญ่หลายสานพันธุ์  และไข้เลือดออก เป็นต้น

                กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนเตรียมประกาศให่้ "โควิด-19" เป็น "โรคประจำถิ่น" ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป 

                ก็ขอให้ประชาชนคนไทยโชคดีปลอดภัยจากโควิด-19 เทอญ.

            ส่วน "โรคประจำถิ่น" ทางการเมืองของประเทศประชาธิปไตยทั้งหลายแหล่ต้องมี "เลือกตั้ง"!!

             ที่นี่ประเทศไทยกำลังจะมี "เลือกตั้ง"โรคประจำถิ่นของประชาธิปไตย คือการเลือกชิงเก้าอี้ ผู้ว่า กทม. และ นายกเมืองพัทยา ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565

                ประชาชนส่วนใหญ่เฝ้าจับตาดูการชิงชัยผู้ว่า กทม. มากกว่า นายกเมืองพัทยา!!

                ดังนั้น เรื่องราวสารพัดอย่างทางการเมืองก็พุ่งเป้าไปที่สนาม กทม.อันเป็นศูนย์กลางสะดือของประเทศไทยด้วยอาการลุ้นสนุกสุดขีด

                เพราะใครผู้ใดที่ชนะจองเก้าอี้ กทม.ได้สำเร็จ ก็สะท้อนให้เห็นถึงการเมืองระดับชาติที่อาจจะสะเทือนแกนนำพรรครัฐบาล "พลังประชารัฐ" ได้??

                อาจมีหลาย ๆ คนสงสัยว่า ทำไมจึงกำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่า กทม.และ นายกเมืองพัทยาในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565

                เพราะคนทั้งประเทศรู้ว่า วันที่ 22 พฤษภาคม นั้น "ลุงตู่" ได้ขออนุญาตยึดอำนาจเมื่อปี 2557

                ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่ดีที่วันที่ 22 พฤษภาคม จะเป็นวันนึกถึง "รัฐประหาร" ของ "ลุงตู่" แล้ว  และก็นึกถึงว่าเป็นวันเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในสนามเมืองหลวง และเมืองพัทยา!!

                ฉะนั้นและฉะนี้ วันที่ 22 พฤษภาคม ในปีต่อ ๆ ไปอาจจะระลึก

            ถึงการ "ปฏิวัติ" และ "เลือกตั้ง" ในวันเดียวกัน (ฮา)!!

                อ๊ะ อ๊ะ ใครเป็นใครทีจะมาขับเคี่ยวแย่งชิงเก้าอี้ผู้วา กทม. ก็รับทราบกันไปแล้วว่ามีใครบ้าง ใครสังกัดพรรคการเมือง ใครเป็นผู้สมัครอิสระ

                ขออนุญาตเอ่ยนามเท่าที่ทราบกันในขณะนี้ว่ามีใครบ้าง คนแรกที่เปิดตัวมานานก่อนใครเพื่อนก็คือ "ชัชชาติ  สิทธิพันธุ์" ผู้ที่บ๋ายบายจากพรรคเพื่อไทย มาเป็นผู้สมัครอิสระเพื่อความสบายใจ

                ทุกโพลที่สำรวจออกมาตลอดก็มีชื่อ "ชัชาติ สิทธิพันธุ์" ยืนหนึ่งมาคลอด!!

                พรรคประชาธิปัตย์ ปชป. เคยเป็นแชมป์ กทม.มาหลายสมัย  เปิดตัวผู้สมัครชือ "สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี่พระจอมเกล้า ลาดกระบัง ก็มีเสียงฮือฮาชานรับพอประมาณให้ซี๊ดซ้าด

                แต่ก็มาแป๊กลงเมื่อบอกว่า ตนเองเปรียบเสมือนหลาน "ไอน์สไตน์"??

                ซึ่งการสำรวจจากโพลก็ดี่ไม่ขี้เหร่  แต่ก็ตามหลัง "ชัชชาติ  สิทธิพันธุ์" หลายช่วงตัว!!

                สำหรับพรรคก้าวไกล  ก็ประกาศตัว "วิโรจน์  ลักขณาอดิศร" ส.ส.ปารี้ตี้ลิสต์ ลาออกมาสู้ศึกเลือกตั้ง กทม.แบบชนดะ  ไม่ว่าจะชนผิดขนถูกก็ขอชนว่างั้เนเถอะ

                พรรคไทยสร้างไทยของ "เจ๊หน่อย "สุดารัตน์  เกยุราพันธุ์"  ก็ภูมิใจส่ง  น.ต.ศิธา ทิวารี เข้าร่วมตะลุมบอนด้วย

                ส่วนผู้สมัครอิสระ ณ วันนี้ก็มีชื่อ "รสนา โตสิตระกูล" นักตอสู้ทางสังคม ที่ได้ประกาศพร้อมมานานแล้วเช่นกัน

                อี่กท่านก็คือ "สกลธี  ภัททิยะกุล" ลาออกจากรองผู้ว่า กทม. มาลงสู้กับคนดัง ๆ ให้เห็นดำเห็นแดงกัน

                พรรคแกนนำรัฐบาล "พลังประชารัฐ" ของ "ลุงป้อม"  กับ พรรคแกนนำฝ่ายค้าน "เพื่อไทย" ยังไม่ได้ประกาศผู้สมัครที่ลงสู้ศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่า กทม. ว่าเป็นใคร หน้าตาเป็นอะไร

                ทางด้าน "พรรคพลังประชารัฐ" เพียงแต่บอกว่า ได้เตรียมผู้สมัครสมาชิก กทม. หรือ สก.ครบ 50 เขตเรียบร้อยแล้ว

                ส่วน "พรรคเพื่อไทย" ก็บอกเช่นกันว่าผู้สมัคร สก. 50 เชตเตรียมพร้อมสู้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

                ใครเป็นตัวแทนของผู้สมัครผู้ว่า กทม. พรรคเพื่อไทย  มีผู้ชำนาญการทางการเมืองระบบครอบคร้วกระซิบบอกว่า คงต้องรอให้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตัดสินใจว่าจะเป็นใครดีที่เหมาะสมแก่ครอบคัวเพื่อไทย!!

                และต้องขอโทษ พรรคการเมืองอื่น ๆ วางแผนจะส่งผู้สมัครลงสู้ศึก กทม. ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อให้ชาวกรุงได้รับทราบ  เนื่องจาก ณ ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าใครชื่ออะไร

                ล่าสุดเป็นข่าวดังกระหึ่มทั้งทางโซเซียลและสื่อหลักต่าง ๆ ก็คือ  พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม.แต่งตั้งจาก คสช.ได้ประกาศไขก็อกจากเก้าอี้มาลงปะฉะดะขอจองเก้าอี้ผู้ว่า กทม. เหมือนเดิม โดยขอเป็นผู้สมัครอิสระ

                การประกาศวันลาออกของ อดีตผู้ว่า กทม.อัศวิน ได้ถือฤกษ์ที่ทำงานมาครบ 5 ปี 5 เดือน และก็ 5 วัน ที่นั่งทำงานในเก้าอี้ใหญ่ของ กทม.

                เพราะฉะนั้นจึงถือว่าเป็นฤกษ์  5 5 5  ของ"ท่านอัศวิน"นั้น จะมีโอกาสหัวเราะ 5 5 5 หรือไม่ก็โปรดคอยดูในวันเลือกตั้ง

                เมื่อ "พล.ต.อ.อัศวิน  ขวัญเมือง" ที่ คสช.คัดเลือกแต่งตั้งให้เป็น ผู้ว่า กทม. 5 ปีที่ผ่านมา อาจซึมซับอยากสืบทอดอำนาจเก้าอี้ กทม.ต่อไปอีกสมัย

                ดังเช่น "ลุงตู่" ที่มีแนวโน้มว่าขอเวลาสืบทอดการเป็น "นายกรัฐมนตรี" ต่อไปอี่กจากการเลือกตั้งสมัยหน้าที่จะอุบัติขึ้นในต้นปี 2566

                ผู้สันทัดกรณีการเมืองเรื่องยุุ่ง ๆ ทุบโต๊ะมาว่า  ถ้า พรรคพลังประชารัฐ ของ "ลุงป้อม" ไม่ส่งใครลงโล้ชิงช้าผู้ว่า ฯ เสาชิงช้า  ก็ต้องสั่้งการให้หัวคะแนนของพรรคในกรุงสนับสนุนกาบัตรให้แก่ "ท่านอัศวิน"

            ทั้งนั้และทั้งนั้น ดีเอ็นเอ ของ "ท่านอัศวิน" เหมือน "ลุงตู่" ที่อยากสืบทอดอำนาจต่อไปนั่นแล!?!

 

You may also like

เปิดตัวดัชนีชี้วัดความปลอดภัยของเด็ก บนโลกออนไลน์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก

เปิดตัวด