Japanese Tea Garden ซานฟรานฯ แหล่งรับทรัพย์จากนักท่องเที่ยว

Japanese Tea Garden ซานฟรานฯ แหล่งรับทรัพย์จากนักท่องเที่ยว

Japanese Tea Garden ซานฟรานฯ

แหล่งรับทรัพย์จากนักท่องเที่ยว

 

                แหล่งหนึ่งใครไปเที่ยวเมือง San Francisco แล้วควรจะแวะไปเยี่ยมชม เพราะวิว ทิวทัศน์สวยงามมาก และถ้าไม่บอกว่านี่คือสวน ที่อยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก  สหรัฐอเมริกาหลายคนเห็นรูปแล้วคิดว่าเป็นที่ประเทศญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วเป็นสวนญี่ปุ่นซึ่งเป็นสาธารณสมบัติและเก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่แห่งสันติสุขและความงดงามที่แฝงเร้นอยู่ในอุทยานโกลเด้นเกตเมืองมารีน เคาน์ตี (Marin County) 

                มีความยาวทั้งหมดประมาณ 2.7 กิโลเมตร กว้าง 1.6 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาในการเดินนับชั่วโมงอยู่เช่นกัน เพราะจะสามารถถ่ายรูปได้ทุกจุด ทุกพื้นที่

 

 

                นักท่องเที่ยวสามารถเติมความสดชื่นให้กับจิตใจที่อ่อนล้ากับ Japanese Tea Garden ทางตะวันออกของทะเลสาบ Stow ในอุทยานโกลเด้นเกต สถานที่แห่งนี้ให้ความสงบรื่นรมย์ ประดับประดาด้วยเจดีย์จำลอง ตะเกียงหิน สระเลี้ยงปลาโค่ยและต้นซากุระ มาถึงที่นี่แล้วคุณจะสามารถหามุมสงบได้ไม่ยากในพื้นที่ห้าเอเคอร์ (สองเฮกตาร์) ที่มีม้านั่งและทางเดินให้มากมาย เพลิดเพลินกับต้นไม้ใบหญ้า ท้องฟ้าที่เป็นอาหารตา พร้อมทั้งชื่นชมความละเมียดละไมและธรรมชาติที่สอดผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน

                สวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1894 เป็นส่วนจัดแสดงชั่วคราวในงานเวิลด์แฟร์ในซานฟรานซิสโก สวนนั้นเกิดจากแนวคิดและการพัฒนาของบารอน Makoto Hagiwara เมื่องานเวิลด์แฟร์จบลง Hagiwara ได้ทำให้สถานที่นี้เป็นส่วนจัดแสดงถาวรและขยายพื้นที่ออกไป ครอบครัวและทายาทของเขาเป็นผู้ดูแลสวนนี้จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สองได้ไม่นาน

                จุดเด่นของสวนแห่งนี้ ได้แก่ สวนปรัชญาแบบเซน แหล่งน้ำและการตกแต่งด้วยน้ำที่มีมากมาย และตะเกียง Lantern of Peace ซึ่งเป็นตะเกียงทองเหลืองหนัก 9,000 ปอนด์ (4,082 กิโลกรัม) ซึ่งเป็นของกำนัลเพื่อความปรองดองหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

                Japanese Tea Garden มีความสวยงามตลอดทั้งปี แต่เวลาที่เหมาะจะมาเยี่ยมชมมากที่สุดคือ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งต้นซากุระนับพันต้นจะออกดอกพร้อมกัน ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็สวยงามไม่แพ้กัน เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีสันต่างๆ งดงามตระการตา

                เมื่อเดินชมและถ่ายรูปทุกจุดแล้วก็แวะจิบชาแบบชาวญี่ปุ่นพร้อมกับหาของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ค่ะ แต่ราคานั้นไม่ติดไม้ติดมือเอาการ สำหรับราคาค่าเข้าชมสวนนั้นอยู่ที่ประมาณ  5-6 ดอลลาร์  ถ้าไปก่อน 10 โมงเช้าในวันพุธ จะไม่ต้องจ่าย วันนั้นคณะที่ไปถึงที่สวนล่าช้าไป 10 กว่านาทีจึงต้องจ่าย………….    

You may also like

“มาคาเลียส”เปิด 10 เทรนด์ท่องเที่ยวไทยปี 68 เที่ยวแบบ“ยั่งยืน-สุขภาพ”มาแรง!

“มาคาเลี