“เอ็นไอเอ” เดินหน้าหลักสูตรผู้บริหารเมืองนวัตกรรม (CCIO) รุ่น 5 ดึงวิทยากรแนวหน้าทั่วโลกร่วม ดันพลิกวิกฤตอย่างยั่งยืน

“เอ็นไอเอ” เดินหน้าหลักสูตรผู้บริหารเมืองนวัตกรรม (CCIO) รุ่น 5 ดึงวิทยากรแนวหน้าทั่วโลกร่วม ดันพลิกวิกฤตอย่างยั่งยืน

เอ็นไอเอ” เดินหน้าหลักสูตรผู้บริหารเมืองนวัตกรรม (CCIO) รุ่น 5

ดึงวิทยากรแนวหน้าทั่วโลกร่วม ดันพลิกวิกฤตอย่างยั่งยืน

            สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดรับเข้าร่วมหลักสูตรผู้บริหารเมืองนวัตกรรม (CCIO) รุ่น 5 เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในการพัฒนาเมืองแบบครบทุกมิติ สอดรับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต พร้อมลงลึกเนื้อหาการพัฒนาเมืองนวัตกรรมกับวิทยากรระดับแนวหน้าจากทั่วโลกร่วมบรรยาย เริ่ม 11 มิถุนายน – 30 กรกฎาคม 2565 นี้

                ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อํานวยการสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดเผยว่า NIA จัดอบรมหลักสูตรผู้บริหารเมืองนวัตกรรม (Chief City Innovation Officer: CCIO) ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 5 ซึ่งหลักสูตรนี้มุ่งสร้างมุมมองความเข้าใจในนวัตกรรมสำหรับกลุ่มบริหารระดับสูง (C-Level) ด้านการพัฒนาเมืองและชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความสามารถในการพัฒนาและการจัดการเมืองนวัตกรรม พัฒนาทักษะการวางแผนยุทธศาสตร์และการจัดการเมืองที่เป็นไปตามหลักสากล พร้อมทั้งนำหลักการของเมืองต้นแบบมาปรับใช้ในบริบทของท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ เพื่อบูรณาการองค์ความรู้มาใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมด้วยการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพใน 3 ระดับ คือ ย่าน เมือง และภูมิภาค นำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SUSTAINABLE DEVELOPMENT GOALS: SDGS) ของสหประชาชาติ และเพื่อให้เกิดการพัฒนาเมืองนวัตกรรมที่มีความทั่วถึง ยั่งยืน และเชื่อมโยง (INCLUSIVE, SUSTAINABLE, AND CONNECTED CITY)

                การจัดอบรมหลักสูตรนี้สอดคล้องกับแผนพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่และภูมิภาค ในเรื่องการสร้างนวัตกรและบุคลากรนวัตกรรมให้เพิ่มขึ้นในพื้นที่ (Create The Dots) การสร้างเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และชุมชน เพื่อให้เกิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านนวัตกรรม รวมถึงการกำหนดแนวทางการพัฒนาพื้นที่หรือคลัสเตอร์เป้าหมายร่วมกัน (Connect The Dots) และการพัฒนากิจกรรมด้านเครือข่ายที่สนับสนุนการพัฒนาพื้นที่นวัตกรรม (Networking Assets) และสามารถสนับสนุนผลการดำเนินงานในตัวชี้วัดด้านการสร้างเครือข่ายนักพัฒนาเมืองไม่น้อยกว่า 40 ราย ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบในด้านการยกระดับความสามารถและทักษะของผู้บริหารเมือง รวมถึงการสร้างเครือข่ายของผู้บริหารเมืองและนวัตกรในระดับท้องถิ่น” ดร.พันธุ์อาจ กล่าว

                ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อํานวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวว่า “ที่ผ่านมาการจัดอบรมหลักสูตรผู้บริหารเมืองนวัตกรรม หรือ CCIO มีผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก สร้างให้เกิดเครือข่ายนักพัฒนาเมืองและนวัตกรมากกว่า 180 คน เกิดแนวคิดหรือโครงการต้นแบบในการพัฒนาเมืองรวมถึงเกิดความร่วมมือ     จนเกิดโครงการที่นำไปสู่การปฏิบัติจริงมากกว่า 10 โครงการ ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนกว่า 50 ล้านบาท”

                สำหรับหลักสูตร CCIO รุ่นที่ 5 นี้ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองครอบคลุมทุกมิติ สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น เมืองแห่งอนาคต (City of The Future) กระบวนทัศน์ใหม่ของเศรษฐกิจเมือง (New Paradigm of City Economy) นวัตกรรมเปลี่ยนเมือง (UrbanTech Innovation) เมืองสู้วิกฤต (City and the Crisis)  ฐานรากเมืองยั่งยืน (ESG Principles for Sustainable Cities) เมืองผู้สูงวัย (City for Silver Economy) วิทยาการข้อมูลสําหรับการบริหารเมือง (Data Science for City Management) และการสื่อสารเมือง (City Visualization & Communication) โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมบรรยายทั้งในและต่างประเทศ ผู้เข้าร่วมอบรมในหลักสูตรนี้จะได้รับความรู้เพื่อนำไปพัฒนาองค์กร ธุรกิจ และเมือง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถสร้างเครือข่ายนักบริหารระดับสูง ที่เข้มแข็ง และสามารถต่อยอดสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ก่อให้ประโยชน์ต่อธุรกิจและประเทศได้

                ดังจะเห็นได้จากความสำเร็จในการต่อยอดความรู้และเครือข่ายผู้บริหารของผู้เข้าร่วมอบรมทั้ง 4 รุ่นที่ผ่านมา ซึ่งจะจัดอบรมตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน – 30 กรกฎาคม 2565 ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ cciothailand@gmail.com หรือ www.nia.or.th/ccio

 

You may also like

เปิดตัวดัชนีชี้วัดความปลอดภัยของเด็ก บนโลกออนไลน์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก

เปิดตัวด