จับสัญญาณ "ยุบสภา" หรืออยู่ครบเทอม ??
นายจักรยาน
สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดประชุมไปเรียบร้อยโรงเรียน ส.ส.แล้ว เพื่อให้ท่านผู้ทรงเกียรติใช้ฝีปากของตนเองมาปะทะวาทะกรรมใส่กันตามประเพณีของคนละชั้ว คนละฝ่าย
ก็ย่อมแสดงว่าสภาผู้แทน ฯ ยังไม่ถูกยุบ ยังเดินหน้านั่งประชุมกันต่อไปตามกฎกติกาของรัฐธรรมนูญ
ณ วันนี้ยังไม่มีการส่อแววว่าจะ "ยุบสภา" ในเร็ววันนี้จนถึงสิ้นปี 2564 มีแต่ "สภาล่ม"ซ่้ำซากตั้งแต่วันแรกของการเปิดประชุมสภา ฯ 2 วันติดต่อกัน
เชื่อว่าเหตุการณ์ "สภาล่ม" จะอุบัติขึ้นเป็นประจำปกติธรรมดาทางการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ ตลอดสมัยประชุมนี้
ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญทั้งฉบับนี้และฉบับที่ผ่าน ๆ มาได้ระบุว่า ท่านผู้ทรงเกียรติ ส.ส. ไม่ว่าจะอยู่ซีกไหนมีหน้าที่ในการประชุมสภาผู้แทน ฯ
ดังนั้น ท่าน ส.ส. ทุกคนที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาต้องมีจิตสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและพ่อแม่พี่น้อง
มิใช่ว่าพอพวกตนเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านแล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้าง "ภาพลักษณ์" ที่ดีของสภาผู้แทน ฯ ไปสู่สายตาประชาชนเพราะฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในสภา ฯ จะต้องเป็นผู้สร้าง "ภาพลักษณ์" ของสภาผู้แทน ฯโดยต้องเข้าประชุมให้ครบองค์ประชุมเพื่อมิให้ "สภาล่ม"!!
ด้วยเหตุฉะนี้ "สภาล่ม" จึงไม่เกี่ยวกับ "ฝ่ายค้าน" ประการใด ดังนั้นการเล่มเกม "สภาล่ม" จึงเป็นดรามาทางการเมืองทุกยุคทุกสมัย
เฉกเช่นเดียวกับเรือง "ยุบสภา" เกิดขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัยที่มีสภาผู้แทนราษฎรที่ทำให้รัฐบาลไม่อยู่ครบเทอม
แต่ทว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ร่างขึ้นมาจากฝีมือของ ส.ส.ร. (สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ) ยุคที่มี "เสี่ยเติ้ง" บรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 40 ของยุค "เสียเติ้ง ก็ไม่ส่งผลดีให้ นายก ฯ บรรหาร อยู่ครบเทอม 4 ปี ต้องประกาศยุบสภา หลังจากบริหารประเทศมาได้ปีเศษเท่านั้น
มีเพียงรัฐบาลของ "เสี่ยแม้ว" ดร.ทักษิณ ชินวัตร ปัจจุบันนี้มีชื่อเล่นตามยุคสมัยว่า "โทนี่ นาฟ" ที่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอยู่จนครบเทอม 4 ปี!!
แม้ "มิสเตอร์โทนี่ นาฟ" จะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 แต่ก็อยู่ไม่่ครบเทอม เพราะโดน "ยึดอำนาจ" ในปี 2549 หลังจากนั้น รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ไม่มีรัฐบาลไหนอยู่ครบเทอมให้ได้รับการบันทึกเป็นประวัติของบ้านเมือง
มาถึงยุค "นายกรัฐมนตรีหญิง" คนแรกของประเทศไทย "น้องปู" ของ "พี่แม้ว" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็อยู่ไม่ครบวาระ 4 ปีเพราะโดนคณะ 3 ป. นำโดย "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่่นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. ได้ขอโทษก่อนประกาศ "ยึดอำนาจ" เพื่อให้ม็อบแต่ละฝ่ายที่ฮึ่ม ๆ เข้าบู๊ใสกันละลายหายไป
"ลุงตู่" นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการปฏิวัติในนามมคณะรักษาความสงบแห่่งขาติ หรือ คสช. (คุณสมชาย) มาเป็นเวลา 5 ปี
และได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อมาจากผลพวงของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส.ทั้งเขตหรือปาร์ตี้ลิสต์
แต่ได้รับชื่อเสนอเป็นแคดิเดท "นายกรัฐมนตรี" ในนามพรรคพลังประชารัฐ จนได้เป็นอย่างสมใจนึกของคณะ 3 ป. และเป็นไปตามแผนของรัฐธรรมนูญปี 60
นับวันเวลาจนถึงวันนี้จากการนั้่งเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรี" ของลุงตู่ ที่มาจากการปฏิวัติมาสู่ยุคการเลือกตั้งของสภาผู้แทน ฯ ยุคนี้ ก็เป็น "ท่านผู้นำ" มาเกือบ 8 ปี
และแล้วปัญหา 8 ปีก็เกิดขึ้นมาจนได้ เมื่อรัฐธรรมนูญปี 60 ได้เขียนกว่้าง ๆ เอาไว้ว่าห้ามผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่งเกิน 8 ปี โดยมิได้ระบุว่า "นายกรัฐมนตรี"ที่มาจาก คสช.ไม่เกี่ยวกับการนับเวลาดังกล่าว
ดังนั้น จึงมีหลายฝ่ายตีความให้มันยุ่งกันเข้าไว้ว่า ในเดือนสิงหาคม 2565 "ลุงตู่" เป็นนายกรัฐมนตามาครบ 8 ปีไม่สามารถนั่งเก้าอี้ตอไปได้??
ทว่าอีกฝ่ายก็ตีความว่าการนับวันเวลานาทีไม่เกี่ยวกับการเป็นนายกรัฐมนตรี คสข.ประการใด ต้องนับตั้งแต่วันที่ได้รับการฑโปรดเกล้า ฯ เป็นนายกรัฐมนตรีของสภาผู้แทน ฯ ชุดนี้
ก็ว่ากันไปตามประสาของการ "ตีความ" ที่แต่ละฝ่ายที่ให้เหตุให้ผลในการตีความ ซึ่งในที่สุดอาจมีการยื่นเรื่องให้ "ศาลรัฐธรรมนูญ" วินิจฉัยตีความออกมาให้ช้ด ๆ !!
เกจิการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ อีรุงตุงนังทั้งวิเคราะห์และสังเคราะห์มาว่า ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นไป จะมีกระแส "ยุบสภา" เกิดขึ่้นเป็นระยะ ๆ
โดยดูสถานการณ์จากคนในพรรคพลังประชารัฐของ "ลุงป้อม"ที่่มีปัญหาเรื่องความสามัคคี เหมือนกับว่าแต่ละก๊กในพรรค "ลุงป้อม" ทำท่าจะเป็นหมู่ไม่กลัวน้ำร้อน
ถึงแม้ว่า "ลุงป้อม" ขอให้ทุกคนในพรรคสามัคคีกลมเกลียวกัน แต่เชื่อว่าลึก ๆ แล้วไม่มีสามัคคีกันเท่าไหร่นัก พร้อมที่จะแยกเขี่้ยวลากเขี้ยวเข้าขวิดใส่กัน??
ถ้าเรา ๆ ท่าน ๆ ที่ติดตามข่าวสารทางการเมืองจะได้ยินได้ฟังจากปากของ "ลุงตู่" มักจะยืนยันว่าไม่ "ยุบสภา" ไม่ว่าจะเป็นวันเวลาใด เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าขออยู่ในครอบเทอม 4 ปีให้เป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งทางการเมือง!!
ในการเดินทางไปประชุมเรื่องโลกร้อนของ "ลุงตุ๋" ร่วมกับ "ผู้นำ" ทั่วโลกที่เมืองกลาสโกว์ สก๊อตแลนด์ ประเทศอังกฤษ
ปรากฏเป็นข่าวออกมาว่า "ลุงตู่" ได้เชื้อเชิญ "โจ ไบเดิน" ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกามาเยือนไทยเพื่อร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอาเซีย-แปซิฟิต หรือเรียกตัวย่อสํน ๆ ว่า เอเปค ที่เมืองไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศิจกายนปีหน้า 2565
ข่าวดังกล่่าวเป็นการส่งสัญญาณลับแจ้งให้ ส.ส.ทุกฝ่ายได้รับทราบว่า "ลุงตู่" จะนั่้งเก้าอี้ "นรยกรัฐมนตรี" ไปตลอดปี 2565 เพื่อต้อนรับผู้นำมหามิตร "โจ ไบเดิน" ด้วยตนเอง
ปิดกั้่น "นายกรัฐมนตรี "คนอื่นที่ไม่ใช่่ "ลุงตู่" ทำหน้าที่เจ้าภาพของงานระดับนานาชาติ!!
หลังจากงาน เอเปค จบสิ้นลงไปแล้ว จะเกิดเหตุการณ์ "ยุบสภา" หรือเปล่า ไม่มีใครคาดเดาได้
ถ้า "ลุงคู้" อดทนนั่งเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรี " โดนยอมหูชาจากเสียงด่า หรือต้องเจอะเจอกับ "ม็อบ" สารพัดทะลุโน่นทะลุนี้ เพื่อลากยาวจนถึงเดือนมีนาคม 2566 ที่สภาผู้แทน ฯ ครบเทอม 4 ปีพอดี
ส่วน "ลุงตู่" จะทำ "แฮตทริก" เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ณ วันนี้ไม่มีใครฟันธงได้แน่ๆ เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ที่ว่าจะนอนมาบางทีพลิกล็อคกลายเป็นนอนไปไหนก็ไม่รู้??
เพราะฉะนั้นหลังเลือกตั้งครั้งหน้า "ลุงตู่" จะต้องประสบ 2 ขะตากรรม
คือมีทั้ง "โชคดี" หรือ"โชคร้าย"!?!
Social Links