ใครใช้ AR แล้ว?: Aribus, Boeing, Volkswagen, Porche, Ford, BMW, Siemens, Stanford University, AWS 

สุทธิชัย ทักษนันต์

GPS, Internet, Drone, AR มีจุดเริ่มต้นจากกิจกรรมทางการทหาร แล้วเริ่มกระจายสู่พลเรือน

AR เริ่มถูกใช้ในชีวิตของคนทั่วโลกด้านความบันเทิง เช่น Pokemon Go ที่วิ่งไล่จับโปเกมอนตามถนน, Instagram Filter ที่ใส่หูแมว หูกระต่าย บิดหน้าเล่นๆ, Snapchat ที่แต่งหน้าเสมือนจริง, เกม VR ที่ใส่แว่นเล่นในโลกจินตนาการ, ฯลฯ

ในอุตสาหกรรมต่างๆ มีการนำ AR มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ แล้วมากมาย

Airbus, Boeing ใช้ AR ตรวจสอบโครงสร้างเครื่องบิน และฝึกช่างประกอบเครื่องบิน ทำให้มองเห็นโครงเครื่องบินทั้งลำ เห็นว่าสายไฟวิ่งยังไง ท่อน้ำมันต่อยังไง โครงสร้างภายในเป็นอย่างไร ช่างสามารถฝึกประกอบ-ถอดได้ซ้ำๆ ไม่จำกัด ไม่เสียค่าใช้จ่าย ผลลัพธ์ที่ได้คือ AR ช่วยทำให้ใช้เวลาฝึกอบรมลดลง แม่นยำเพิ่มขึ้น เรียนรู้เร็วขึ้นเพราะเห็นภาพ

Volkswagen ฝึกช่างซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบไฟซับซ้อน ช่วยลดปัญหาโดนไฟช็อต ฝึกได้โดยไม่ต้องเสี่ยง ช่างเรียนรู้ผ่านแว่น AR ระบบไฟฟ้าที่มองไม่เห็น ถูกฉายให้เห็นเป็นเส้นสีต่างๆ ทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรขณะฝึกอบรม

Siemens ใช้ AR ตรวจสอบกังหันลม สามารถแสดงภาพที่ผิดปกติได้ชัดเจน เช่น จุดอุณหภูมิที่สูงผิดปกติ, รอยร้าวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า, ตลับลูกปืนที่มีปัญหา

Porche ใช้ AR วิเคราะห์การไหลเวียนของลมรอบรถ

Ford ใช้ AR ออกแบบรถยนต์ และทดสอบการทำงานแบบเสมือนจริง

BMW ใช้แว่น AR ทำให้มองเห็นทะลุเครื่องยนต์ทุกมิติ

ThyssenKrupp ใช้ AR ตรวจสอบและติดตามการทำงานของลิฟต์แบบเรียลไทม์

Stanford University และมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกหลายแห่ง ใช้ AR สำหรับการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์ เห็นอวัยวะภายในแบบเสมือนจริงทั้งหมดได้

และข่าวล่าสุด คือ Amazon ได้เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเอาให้พนักงานส่งสินค้าได้ใช้ สามารถฉายภาพคำแนะนำการนำทางและข้อมูลพัสดุเข้าสู่สายตาของพนักงานขับรถโดยตรง ไม่ต้องสแกนพัสดุด้วยโทรศัพท์อีกแล้ว เป็นการผนึกเทคโนโลยี AI ร่วมกับ AR

ประโยชน์การใช้งานแว่นตา AR ที่กล่าวมาทั้งหมด เคยเป็นภาพที่นิยายวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้นานแล้ว วันนี้ได้กลายเป็นความจริง

ในอนาคต AR อาจกลายเป็นเครื่องมือมาตรฐานในทุกอุตสาหกรรม!!!