การเมืองว่าด้วยเรื่องทฤษฎีสมคบคิด ความยากจนก็ต้องสมทบคิดกันช่วย

การเมืองว่าด้วยเรื่องทฤษฎีสมคบคิด ความยากจนก็ต้องสมทบคิดกันช่วย

 

การเมืองว่าด้วยเรื่องทฤษฎีสมคบคิด

ความยากจนก็ต้องสมทบคิดกันช่วย

 

          ว่ากันว่าวาทกรรมทางการเมืองมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องเท็จ บางครั้งก็ทั้งจริงและเท็จผสมปนเปกันให้สับสน

          สถานการณ์การเมืองในช่วงระยะเวลานี้มีนักการเมืองออกมาพูดและคิดในเรื่องทฤษฎีสมคบคิดของบางกลุ่มบางพวกที่ออกมาเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง หวังสมคบคิดกันให้มีการรีเซ็ตพรรคการเมือง

            ซึ่งเป้าหมายในการสมคบคิดดังกล่าวก็คือ เลื่อนการเลือกตั้งออกไปตามแผนสืบทอดอำนาจ??

            นอกจากนี้ ก็มีการสมคบคิดกันช่วยการจัดตั้ง “พรรคการเมือง” ที่ทหารหนุนอยู่ข้างหลัง โดยสมคบคิดให้ “นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคเป็นพลเรือนที่มีชื่อว่า “พรรคประชารัฐ” และก็มีการเชื่อมโยงไปถึงอดีตกำนันคนดังทางภาคใต้อยู่เบื้องหลังในการดำเนินการจัดตั้งพรรคของทหาร

            แต่ คสช.ผู้มีอำนาจในขณะนี้ได้ปฏิเสธเรื่องการตั้งพรรคทหารว่า “โกหก” เพื่อหวังสกัดทางให้ “บิ๊กตู่” กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี (คนนอก) ในครั้งหน้าตามรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องอ้าซ่ารอไว้ให้!?!

            เรื่องจริงทางการเมืองที่ไม่สามารถโกหกได้ก็คือ “ความยากจน” ของประชาชนคนไทยที่ยังมีอยู่ทั่วประเทศ

            เมื่อเร็วๆ นี้ที่ผ่านมา ความจริงของปัญหา “คนจน” ได้เป็นประเด็นร้อน เมื่อนายหัวชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกส่งถึง “บิ๊กตู่” ให้เร่งแก้ไขปัญหาความยากจน เพราะรายได้ต่อครัวเรือนในภาคเหนือและภาคใต้ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะ 3 จังหวัดภาคใต้คือ ระนอง ตรัง และยะลา

            อดีตนายกฯ ชวน มิได้โมเมหรือมโนเอง แต่ได้อ้างถึงผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ได้สำรวจเอาไว้ ก็เลยไม่ถูกโต้จากฝ่ายรัฐบาล คสช.ว่าบิดเบือน จึงได้ขอบคุณอดีตนายกรัฐมนตรีที่เสนอแนะมา

            ถ้าวิเคราะห์ถอดรหัสจดหมายของ “นายหัว“ชวน” ที่มีการเอ่ยถึง จ.ตรัง ด้วย ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะรู้ๆ กันทั่วประเทศว่า อดีตนายกฯ ชวน เป็นผู้แทนราษฎรของ จ.ตรังมาทุกสมัย ก็ย่อมพูดหาเสียงเอาไว้ล่วงหน้า??

            ส่วน “บิ๊กตู่” ก็ได้คุยทับไปว่ารัฐบาล คสช.แก้ไขปัญหาความยากจนมากกว่ารัฐบาลก่อนๆ ซะอีก ก็เป็นการพูดแบบการเมืองที่หาคะแนนนิยมจากคนจนเช่นกัน!?!

            ไม่รู้ว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สมคบคิดกับธนาคารโลกหรือเปล่า จึงได้ออกมาเปิดเผยถึงรายงานการศึกษาของธนาคารโลก หลังจากที่ “นายหัวชวน” จุดพลุเรื่องคนจนขึ้นมาว่า ผลจากการศึกษาของแบงก์โลกที่ใช้หลักด้านคำนวณทางวิชาการเมื่อไม่นานมานี้ ปรากฏว่าประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับประเทศมาเลเซีย คือได้เริ่มหลุดพ้นจากความยากจน และกำลังก้าวสู่ความมั่งคั่งแล้ว

            โดยธนาคารโลกใช้เส้นความยากจนที่ระดับ 1.9 เหรียญสหรัฐ ต่อคนต่อวัน หรือประมาณ 2,000 บาทต่อคนต่อเดือน

            สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานให้ทราบอีกว่า ทุกรัฐบาลที่ผ่านๆ มาตลอดระยะ 20 ปี พยายามแก้ปัญหาความยากจน สามารถลดความยากจนได้ต่อเนื่อง ประชากรใกล้เส้นความยากจน 11 ล้านคนลดลง ซึ่ง 4-5 ปีที่ผ่านมาเหลือ 7 ล้านคน แต่ประชากรฐานรากประมาณ 29 ล้านคน ร้อยละ 40% ของประชากรต้องได้รับการดูแลด้านการเพิ่มรายได้คือ เกษตรกร แรงงาน ผู้ประกอบการ SMEs

            ข้อมูลของธนาคารโลกก็เป็นความจริงอีกด้านหนึ่งที่เป็นรายได้ต่อคนต่อเดือน แต่ข้อมูลที่อดีตนายกฯ ชวน เป็นรายได้ต่อครัวเรือนที่ลดลง ก็เป็นความจริงเช่นกันที่ยากจะปฏิเสธได้

            ปัญหาแก้ไขความยากจนหยิบยกมาเป็นวาทการเมืองได้ทุกยุคทุกสมัย ถ้าทุกฝ่ายรวมทั้งฝ่ายการเมืองใช้ทฤษฎีสมคบคิดช่วยกันให้ทางแก้ไข ไม่แย่งชิงอำนาจหาเสียงทางการเมือง ความยากจนที่ธนาคารโลกสำรวจว่าใกล้เส้นหลุดพ้นจากความจน ก็สามารถทำให้หลุดเส้นความยากจนได้ไม่ยากเย็นนัก

            “บิ๊กตู่” ที่เคยบอกว่ารับฟังความเห็นจากทุกๆ ฝ่ายที่ได้มะรุมมะตุ้มเรื่องคนจน ก็เลยเกิดความคิดการแก้ปัญหาความจนต่อไปอีกว่า จะทำแบบก้าวย่างที่ช้า แต่มั่นคง โดยทำโมเดล “ลดความยากจน” ภายใน 2 ปี จากการที่ได้เดินทางไปตรวจราชการดูสภาพวิถีชาวบ้านที่กาฬสินธุ์ โดยปิ๊งความคิดว่าระยะแรกให้ จ.กาฬสินธุ์ เป็นจังหวัดนำร่องที่จะเป็นแนวทางที่จะทำทั้งประเทศต่อไป โดยใช้ชื่อว่า “กาฬสินธุ์ แฮปปี้เนส 2519”

            ส่วนจะมี “นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจมาสมคบคิดหรือเปล่า ทุกๆ ท่านน่าจะมีคำตอบอยู่แล้ว!!

            ถ้า “บิ๊กตู่” และ “รองนายกฯ สมคิด” จะเห็นผลงานมาตรการลดความยากจนภายใน 2 ปี ทั้ง “บิ๊กตู่” ก็ต้องนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไปอีก และ “ท่านรองฯ สมคิด” ก็ต้องเป็นหัวหน้าพรรคประชารัฐตามกระแสลือในช่วงนี้

            ด้วยเหตุฉะนี้ การแก้ปัญหาคนจนที่ “บิ๊กตู่” คิดให้เห็นผลสำเร็จ ก็ดูเหมือนจะเข้าล็อกทฤษฎีสมคบคิดของฝ่ายการเมืองที่ออกมาพูดให้ประชาชนได้ฉุกคิด ไม่ว่าจะเรื่องรีเซ็ตพรรคการเมือง เลื่อนโรดแมปเลือกตั้ง และต่อท่ออำนาจ??

          วันนี้ยังเร็วเกินไปที่มีคำตอบว่าทฤษฎีสมคบคิดดังกล่าวว่าเป็นจริง แต่อีกไม่นานเกินรอก็จะรู้กันทั่วประเทศว่าจริงหรือโกหก!?!

 

นายจักรยาน

 

You may also like

มาสเตอร์การ์ดเปิดตัว Pay Local เพิ่มช่องทางผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลในเอเชีย รับชำระเงินจากผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดกว่า 2 พันล้านราย

มาสเตอร์