จีนเดินหน้าฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

จีนเดินหน้าฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

            หลังจากเอาชนะการต่อสู้เพื่อขจัดความยากจนสัมบูรณ์ (absolute poverty) และบรรลุเป้าหมายแห่งศตวรรษข้อแรกในการสร้างสังคมที่มีความเจริญระดับปานกลางในทุกแง่มุม จีนก็เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นในวงกว้าง และวลี "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" ก็ได้รับการตอกย้ำให้เด่นชัดยิ่งขึ้น

                "ความทันสมัยในแบบของจีนคือความทันสมัยที่มาพร้อมความสุขและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่ไม่กี่คน" ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เมื่อไม่นานมานี้

                ในระหว่างการลงพื้นที่เมื่อวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันตอบสนองต่อโควิด-19 ให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สร้างสมดุลระหว่างการพัฒนากับความมั่นคง นำหลักปรัชญาการพัฒนารูปแบบใหม่มาใช้อย่างเต็มที่และซื่อตรง ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงอย่างแน่วแน่

                ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนซึ่งประกอบไปด้วยสามมณฑล ได้แก่ เฮยหลงเจียง จี๋หลิน และเหลียวหนิง เคยเป็นมหาอำนาจที่เฟื่องฟูจากอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่น การผลิตเหล็กกล้า ยานยนต์ และเครื่องบิน การต่อเรือ และการกลั่นปิโตรเลียม อย่างไรก็ตาม ด้วยปัญหาที่ฝังรากลึกหลายประการ รวมถึงปัญหาประชากรสูงอายุ การลงทุนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และการไหลออกของบุคลากรที่มีความสามารถ ส่งผลให้ตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจในภูมิภาคลดลงอย่างมาก

                ในปี 2546 คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประกาศยุทธศาสตร์การฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และในปี 2559 ได้ต่ออายุแผนปฏิบัติการของมาตรการสนับสนุนภูมิภาคนี้

                ระหว่างการลงพื้นที่ นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่รัฐในมณฑลเหลียวหนิงว่า ควรพยายามส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันสำหรับทุกคน พัฒนาระบบและความสามารถในการปกครองของจีนให้ทันสมัย ตลอดจนยกระดับการปกครองตนเองอย่างเข้มงวดและเต็มที่ของพรรค เพื่อปูทางไปสู่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20

การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

                ในระหว่างการเยี่ยมชมบริษัทหุ่นยนต์แห่งหนึ่งในเมืองเสิ่นหยาง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับนวัตกรรมอิสระ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงประเทศจีนจากเศรษฐกิจที่เน้นปริมาณไปสู่เศรษฐกิจและการผลิตที่เน้นคุณภาพ

                นายสี จิ้นผิง เรียกร้องให้ดำเนินการทันทีเพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีหลักในภาคส่วนที่มีความสำคัญและในการผลิตอุปกรณ์ที่มีความจำเป็น พร้อมกับชื่นชมความก้าวหน้าของบริษัทแห่งนี้ในส่วนของนวัตกรรมอิสระและการพัฒนาอุตสาหกรรม

                ขณะเดียวกัน เขาได้เน้นย้ำถึงความพยายามในการสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ที่เน้นเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ก็ส่งเสริมความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างเศรษฐกิจในประเทศกับต่างประเทศ โดยเน้นย้ำว่าจีนจะเปิดกว้างและร่วมมือกับทั่วโลกต่อไป

                "เรามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในการฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ" นายสี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันอังคาร ณ เมืองจินโจว พร้อมกับเรียกร้องให้เร่งปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ตลอดจนปฏิบัติตามข้อกำหนดของการปฏิรูปและการพัฒนาในยุคใหม่

                ในปี 2563 มณฑลเหลียวหนิงและอีกสองมณฑลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประสบความสำเร็จในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสัญญาณของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดในโลกในรอบหลายทศวรรษ

                นอกจากนี้ มณฑลเหลียวหนิงยังสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวย โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการของมณฑลเหลียวหนิงแสดงให้เห็นว่า จำนวนนิติบุคคลในมณฑลอยู่ที่ 4.58 ล้านราย เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบรายปี ส่วนจำนวนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีมากถึง 18,158 ราย เพิ่มขึ้น 34.6% เมื่อเทียบรายปี

ผู้นำจีนย้ำพรรคคอมมิวนิสต์จีนอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ

                ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เยี่ยมเยือนชุมชนในเขตหวงกู่ของเมืองเสิ่นหยาง และเน้นย้ำว่าการปรับปรุงชุมชนที่อยู่อาศัยเก่าถือเป็นภารกิจสำคัญเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยต้องปรับปรุงไม่ใช่แค่ในส่วนของสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบริการในชุมชนด้วย

                นายสี จิ้นผิง ย้ำว่าควรมีความพยายามมากขึ้นเพื่อทำให้ประชาชนรู้สึกว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนรับใช้ประชาชนจากใจจริงและอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ

                ขณะเดียวกัน ผู้นำจีนแนะนำว่าควรขยายบริการดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง เพราะจำนวนประชากรสูงอายุและอายุขัยของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น

            นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง ยังเรียกร้องให้ส่งเสริมพัฒนาการเด็กและยกระดับการดูแลเด็กด้วย