เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการไทรหลวง

เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการไทรหลวง

          นับเป็นโอกาสที่หายาก คณะโครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า ได้มาเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการไทรหลวง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม อยู่ติดกับกรุงเทพก็ว่าได้ งานนี้นำทีมโดย อาจารย์มนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญน้ำมัน และเป็นประธานเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า และคุณดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ผู้บริหารโครงการและเป็นคณะอนุกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน

            ใช้เวลาเดินทางจากจุดนัดพบ ที่ข้าง ร.ร.หอวัง กรุงเทพมหานคร ฝ่าการจราจรช่วง 9 โมง มาถึงโรงไฟฟ้าฯก็ราวๆ 10 โมงบวกๆ

            พอลงจากรถก็รู้สึกอลังการงานสร้าง เห็นแผงโซลาร์เซลสุดลูกหูลูกตา สมศักดิ์ศรีบิ๊กโซลาฟาร์มเมืองไทย สอบถามดูพื้นที่ทั้งหมดกว่า 400 ไร่ มีทั้งพื้นที่สภาพเป็นพื้นดินและพื้นน้ำ โดยส่วนไหนที่เป็นพื้นน้ำก็จะใช้ทุ่นลอยน้ำวางแผงโซลาร์

            คณะผู้บริหารของเครือบีกริมมาต้อนรับอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งคุณไพทูร ไพศาลสุขวิทยา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. บี.กริม.เพาเวอร์ คุณสุกิจ อังสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบี.กริม.ยันฮี โซลาร์ เพาเวอร์ และคุณเจษฎา พัฒนศิริโชติกุล ผู้จัดการโรงไฟฟ้า

            อย่างที่บอก โซลาร์ฟาร์มนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ บริหารจัดการโดย บริษัทบีกริมยันฮี โซลาร์ เพาเวอร์ มีขนาดการผลิต 30.7 MWp ซึ่งถือว่าเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สำหรับบ้านเรา เนื่องจากพื้นที่ใหญ่ๆคงไม่ใช่หาง่ายๆ อีกทั้งนโยบายรัฐบาลก็เน้นโรงไฟฟ้าระดับ SPP หรือขนาดเล็กนั่นเอง

            ซึ่งโรงไฟฟ้าฯแห่งนี้ นอกจากแผงโซลาร์เรียงเป็นตับแล้ว ก็จะมีห้องคอนโทรล ที่จะคอยดู ตรวจเชค ว่าแต่ละแผง แต่ละส่วนของโซลาร์ฟาร์มแห่งนี้ ทำงานอย่างไร มีจุดไหนบกพร่อง แต่ละแผงให้ประสิทธิภาพไฟฟ้าอย่างไร โดยมีความรู้ใหม่ที่น่าทึ่งว่า การที่จะได้ประสิทธิภาพไฟฟ้าสูงสุดแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ “ความเย็น”หากมีความเย็นมาก ประสิทธิภาพไฟฟ้าก็มาก ซึ่งแผงโซลาร์ที่อยู่บนทุ่นวางบนทุ่นกลางน้ำมักจะให้ประสิทธิภาพไฟฟ้าดีกว่าบนพื้นดิน ส่วนบนพื้นดิน ส่วนไหนที่โดยลมมากที่สุดก็จะได้ประสิทธิภาพดีตามกระแสลม

            แทบไม่น่าเชื่อ แผงโซลาร์ที่ต้องใช้แสงแดดเป็นพลังสำคัญ กลับชอบความเย็นเสียอย่างนั้น!!

            กลับมาที่เรื่องโรงไฟฟ้า ซึ่งบริษัทบี.กริม.เพาเวอร์ ก็ไม่ได้มีการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมืองไทยเท่านั้น ยังมีที่เวียตนาม กัมพูชา และโอมาน โดยที่เวียตนามมีขนาดใหญ่ถึง กว่า 600 เม็กกะวัตต์ และช่วงนี้กำลังซุ่มคุยกับรัฐบาลเวียตนามเพื่อทำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 3,000 เม็กกะวัตต์ ซึ่งคงต้องใช้พื้นที่หลายพันไร่อย่างแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่า ในประเทศไทยคงเป็นไปได้ยาก อีกทั้งที่เวียตนาม อำนาจรัฐค่อนข้างเด็ดขาด พื้นที่ส่วนใหญ่ก็รัฐบาลดูแลอยู่แล้ว ซึ่งในบ้านเรา พื้นที่ขนาดนั้น จะไปรวบรวมมาได้ อาจจะเป็นเรื่องเป็นไปๆได้ยากถึงเป็นไปไม่ได้-ประมาณนั้น

            นอกจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้วยังมีแผนทำโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่มุกดาหาร และที่ประเทศเกาหลีอีกด้วย

            บริษัท บี.กริม.เพาเวอร์สามารถทำยอดขายจากพลังงานแสงอาทิตย์จากทุกแห่งทั้งในไทยและต่างประเทศรวมเบ็ดเสร็จก็ตกปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่น่าสนมใจทีเดียว

          สำหรับประเทศไทยแล้ว นับได้ว่าพลังงานแสงอาทิตย์ จากการบอกกล่าวของอาจารย์มนูญ ศิริวรรณที่ยกให้เป็นพลังงานที่ดี ไร้มลภาวะไดๆ ต้นทุนก็ไม่สูงนัก

          น่าจะเป็นพลังงานทดแทนหลักของประเทศได้เลย!