จะมีอะไรอ๊าฟเตอร์ช็อกตามมาอีก หลังจบศึกวันซักฟอก และปลด 2 รัฐมนตรี??
นายจักรยาน
เรื่องราวยุ่ง ๆ ทางการเมืองที่สำคัญอีกเรื่องที่พรรคการเมืองและประชาชนผู้สนใจติดตามการเมืองต่างลุ้นกันสุดๆ ก็คือ การโหวตลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ของที่ประชุมรัฐสภา
เพราะถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นให้มี ส.ส.เขต 400 คนและปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบได้สำเร็จ จะทำให้สถานการณ์เมืองเปลี่ยนแปลงไปในการเลือกตั้งครั้งหน้า
หลายวันก่อนที่จะมีการลงมติกัน มีกระแสวิเคราะห์วิจารณ์ก้นหลายแง่หลายมุมว่า อาจจะโดนคว่ำ เพราะคะแนนเสียงของ ส.ว.จะเห็นชอบให้ผ่านไม่ถึง 84 เสียงหรือ 1 ใน 3 ชองจำนวนวน ส.ว.
ผลปรากฎให้อื้ออึงกันทีเดียว เพราะมี ส.ว. 149 คนเห็นชอบให้ผ่านไปแบบสบาย ๆ
โดยเฉพาะ ส.ส.ทหารอดทนของ "ลุงตู่" กับ "ลุงป้อม" แทบทุกคนให้ผ่านไปอย่่างสะดวก
ซึ่งมีกระแสเจาะลึกข่าว(ไม่)ลับแพลมมาว่า "น้องเล็กตู่" กับ "พี่ใหญ่ป้อม" กระซิบให้ผ่าน!?!
พรรคร่วมรัฐบาลแทบทุกพรรค รวมทั้งพรรคแกนนำฝ่ายค้าน พร้อมใจสามัคคีกันให้ผ่าน ยกเว้นพรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาลพรรคเดียวที่งดออกเสียง
ส่วนพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลเกือบทุกพรรค รวมทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคฝ่ายค้านเล็กหลายพรรคมีทั้งงดออกเสียงและไม่ยอมให้่ผ่าน
สาเหตุที่ไม่น่าสงสัยที่ "พรรคภูมิใจไทย" งดออกเสียง ก็คือเลือกตั้งที่ผ่านมา "พรรคภูมิใจไทย" ได้่ปาร์ตี้ลิสต์เป็นกอบเป็นกำจากการเลือกตั้งใบเดียว
ถ้าแก้ไขเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบ ให้ชาวบ้านเลือก ส.ส.ที่รัก เลือกพรรคที่ใช่ อาจทำให้จำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคภูมิใจลดน้อยไปลงที่ไม่อาจคะเนได้
และเพื่อไม่ให้การร่วมรัฐบาลของพรรคตนต้องหลุดลอยไป จึงของดออกเสียงทั้งพรรค!?!
สำหรับพรรคก้าวไกล ฝ่ายค้านที่เสียงดังกว่าแกนนำฝ่ายค้าน ที่ไม่เห็นด้วยการแก้ไขประเด็นใช้บัตร 2 ใบ กลับเลือกงดออกเสียง??
เหตุผลนั้นอาจหวังว่าเลือกตั้งครั้้งหน้า พรรคก้าวไกล พอได้ประโยชน์บ้าง จะไม่สูญพันธุ์??
จากเหตุการณ์การเมืองที่ลึกลับซับซ้อนหลังจบศึกไม่ไว้วางใจ และโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 มีการวิเคราะห์เจาะลึกลับบ้างไม่ลับบ้างต่าง ๆ นานาคนละมุมมอง
ทั้งนี้และทั้งนั้นเพราะ "ลุงตู่" เซ็นแบบฟ้าผ่าให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณฺ์ และ น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2564
แต่พรรคการเมือง นักการเมือง ประชาชนทั่วไป และ 2 รัฐมนตรีช่วยที่ถูกปลด มารู้ข่าวจากราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 9 กันยายน 2564 เป็นการให้ออกหลังเสร็จศึกซักฟอก "ลุงตู่" ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอุตลุดว่า พรรค พปชร. อาจถึงคราวแตกกระจายในวันข้างหน้า??
นอกจากนี้มีปล่อยช่าวลือ "ลุงป้อม" จะไชก็อกจากห้วหน้าพรรค พปชร. เพราะยัวะ "น้องตู่" ที่ปลดลูกรัก ร.อ.ธรรมนัศ พรหมเผ่า ออกจากการเป็นรัฐมนตรี โดยไม่ปรึกษาล่วงหน่้า
แต่ทว่า "ลุงป้อม" ได้ออกมาสยบข่าวลือว่า "ไม่ลาออก" จากหัวหน้าพรรค ซึ่งทำให้บุคคลที่เสี้ยมหวังให้ พี่น้อง 3 ป.แตกคอกันก็ต้องผิดหวังไปตามระเบียบ
และมีการลือกระหึ่มอีกว่า "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" จะลาออกจากเลขาธิการพรรค พปชร. ให้บุคคลที่หวังเป็นเลขาธิการพรรคได้มานั่งเก้าแทนให้สมใจอยาก
ว่ามาว่า "นายสันติ พร้อมพัฒน์" รมช.คลัง และ ผอ.พรรคจะมาเป็นเลขาธิการพรรคแทน!!
อีกไม่นานเกินรอ ความจริงจะปรากฏขึ้นมาหรือไม่ ต้องเฝ้าติดตามดูอย่าได้กะพริบตา!!
จากคำยืนยันของ "ลุงตู่" ก่อนวันโดนอภิปรายไม่ว้างว่า ไม่ลาออก ไม่ยุบสภา และไม่ปรับ ครม.
แต่จากเหตุการณ์การเมืองที่มีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่หลังซักฟอก โหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ จนถึงให้ 2 รัฐมนตรีช่วยพ้นจากเก้าอี้ ทำให้เกจิการเมืองหลายคนมองว่า อาจเกิดเหตุ "ยุบสภา" ในปีหน้า 2565 ซึ่งจะทำให้คำพูด "ไมยุบสภา" ผิดคำพูด??
สำหรับคำพูดที่ว่า "ไม่ปรับ ครม." ไม่ผิดคำพูดทีเดียวนัก เพราะ "ลุงตู่" ไม่ได้ปรับ ครม.
เพียงแต่สั่ง "ปลด" เท่านั้น โดยไม่มีใครมาเสียบเป็นรัฐมนตรีแทน!!
ส่วน "ไม่ลาออก" น้้น รับรองว่า "ลุงตู่" ไม่ผิดคำพูดแน่นอน!!
จบข่าว!!
Social Links