นักบินฮิวแมนนอยด์ สมอง AI ChatGPT
ทำงานแทนนักบิน ขับเครื่องบินได้ทุกรุ่น
ตอบสนองยามฉุกเฉินรวดเร็วกว่ามนุษย์
สุทธิชัย ทักษนันต์
นักบินเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่อาจจะตกงานเพราะ AI
Large Language Model เหมือนอย่าง ChatGPT เป็นตัวเร่งที่ทำให้เห็นโอกาสในการนำมันไปต่อยอดงานอย่างอื่นได้มากมาย และวันนี้กำลังจะมีนักบิน AI ที่อยู่ในร่างของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
การพัฒนาตามแนวทางนี้ จะทำให้หุ่นยนต์นักบินสามารถเข้าไปนั่งทำงานในที่นั่งนักบินได้ทันที ไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนระบบอะไรในห้องนักบิน จะให้มันทำงานเป็นผู้ช่วยนักบิน หรือนักบินที่หนึ่ง หรือให้มันบินเองก็ได้
หุ่นยนต์นักบินตัวนี้ชื่อว่า Pibot วิจัยและพัฒนาโดย ADD ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการวิจัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศในสังกัดกระทรวงกลาโหมประเทศเกาหลีใต้ และคาดการณ์ว่าโครงการนี้จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2026
Pibot มีความสูง 160 เซนติเมตร หนัก 65 กิโลกรัม มีสมอง AI ที่สื่อสารได้แบบเดียวกับการทำงานของ ChatGPT มันสามารถเข้าไปนั่งและทำงานในที่นั่งของนักบินได้เลย
หน่วยความจำของหุ่นยนต์มีขนาดใหญ่มากจนสามารถจดจำแผนที่นำทางของ Jeppesen ได้หมด ซึ่งเป็นงานที่นักบินที่เป็นมนุษย์ไม่สามารถทำได้
หุ่นยนต์นักบิน AI จดจำคู่มือการบินที่ซับซ้อนของเครื่องบินได้ ปรับตัวไปทำงานกับเครื่องบินรุ่นใหม่ได้ง่าย ต่างจากมนุษย์ที่ต้องใช้เวลาฝึกฝนเรียนรู้เครื่องรุ่นใหม่เป็นเวลานาน
Pibot สามารถตรวจสอบสถานะปัจจุบันของเครื่องโดยดูจากมอนิเตอร์ต่างๆ มันใช้แขนและนิ้วในการควบคุมเครื่องในห้องนักบินได้เหมือนมนุษย์ แต่ทำงานได้ไม่รู้จากเหน็ดเหนื่อย ไม่ต้องหยุดพัก หุ่นยนต์มีกล้องทำหน้าที่เป็นตา สามารถใช้นิ้วควบคุมสวิตช์ที่จำเป็นบนแผงควบคุมได้
การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ หุ่นยนต์จะทำได้รวดเร็วกว่านักบินที่เป็นมนุษย์
Pibot จะกลายเป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่เชี่ยวชาญในงานด้านนักบินโดยเฉพาะ จะให้มันทำงานกับเครื่องบินรุ่นไหนที่มีอยู่แล้วก็ได้ ไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนอะไร
รูปร่างของ Pibot มีความใกล้เคียงกับคนจริง และมันมีสมอง AI ที่ใช้เทคโนโลยี ChatGPT จะสื่อสารกับมันด้วย ภาพ วิดีโอ ข้อความ หรือเสียงก็ได้
ในปี 2026 เราอาจเห็น Pibot กลายเป็นนักบินรบของประเทศเกาหลีใต้
นอกจากขับเครื่องบินได้แล้ว ยังสามารถประยุกต์ให้มันทำงานแทนที่มนุษย์ในบทบาทอื่นๆ ได้ เช่น ขับรถยนต์ ขับรถถัง หรือแม้กระทั่งควบคุมเรือในทะเลได้อย่างราบรื่น
Social Links