TOA เปิดตัว‘รักเรา รักษ์โลก’ลุยปลูกป่า 2 ล้านต้น
มุ่งสู่ Net Zero Emissions ในปี 2050
เดินหน้าธุรกิจสีเขียวตามหลัก ESG
บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำนวัตกรรมสีอาคารและวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจร ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจสีเขียวตามแนวทาง ESG (Environmental, Social and Governance) มุ่งเป้าหมายการยกระดับองค์กรอย่างยั่งยืน พร้อมเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคงในระยะยาวสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2050 เปิดตัวโครงการ“TOA รักเรา รักษ์โลก” เพื่อเป็นหนึ่งของโลกใบนี้ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ฟื้นคืนผืนป่าและระบบนิเวศอย่างยั่งยืน อันจะช่วยลดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นำร่องปลูกต้นไม้ จำนวน 200 ต้น ประกอบด้วย ต้นกล้าสายพันธุ์ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ ประดู่แดง ชมพูพันธุ์ทิพย์ เหลืองปรีดียากร อินทนิลน้ำ แคนา ยางนา และมะขาม โดยมีพันธมิตรคู้ค่าทางธุรกิจ คณะผู้บริหาร และพนักงานจิตอาสา รวมกว่า 200 คน มาร่วมในโครงการ ณ โรงงานบางนา บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TOA เผยว่า “โครงการนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริม การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG sustainability) ในมิติสิ่งแวดล้อม ที่บริษัทฯ ได้ประกาศเจตนารมณ์สู่การเป็นองค์กรที่ลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเป้าหมายสู่การเป็นองค์กร Net Zero Emissions ภายในปี 2050 ด้วยการปลูกป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่ สีเขียวฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน
พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนคืนต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมตามพันธกิจหลักของบริษัทฯ ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากปรากฏการณ์โลกร้อน เพื่อเป็นส่วนช่วยให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นไม่เกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียสที่จะเป็นวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามที่ประชาคมโลกมีความตระหนัก ผ่านมาตรการการดำเนินงานต่างๆ ทั้งการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล สนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า พัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พัฒนานวัตกรรมสีเขียวเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพผู้บริโภค และการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและกักเก็บก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้โลกปลอดภัยและน่าอยู่มากขึ้น”
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนพื้นที่สีเขียว โดยการปลูกต้นไม้ให้ได้จำนวน 2 ล้านต้น ภายในปี 2577 โดยร่วมกับ กรมป่าไม้ และพันธมิตรคู่ค้าทางธุรกิจ ซึ่งในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 นี้ จะเริ่มปลูกป่าในพื้นที่ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี และ อ.ปากชม จ.เลย รวมจำนวนพื้นที่ 740 ไร่ เพื่อเป็นก้าวแรกในการฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม สร้างระบบนิเวศให้ยั่งยืน รวมทั้งสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่และ คนในชุมชนโดยรอบตามเป้าหมายของโครงการต่อไป
Social Links