การเมืองที่ไม่ผิดจริยธรรม..ก็คือ “โม้” ไว้ก่อน??

การเมืองที่ไม่ผิดจริยธรรม..ก็คือ "โม้" ไว้ก่อน??

นายจักรยาน

                ละกรการเมืองเรื่อง "งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566" ที่ "ฝ่ายค้าน" ได้สำแดงโชว์ฝีปากก็ผ่านพ้นไปเรียบร้อยโรงเรียนสภา ฯ

                แม้ว่า "ฝ่ายค้าน" จะโหมโฆษณาชวนเชื่อว่า "งบประมาณปี 66" ของรัฐบาล"ลุงตู่" จะโดนคว่ำในสภาผู้แทน ฯ แน่เพราะจะมีพรรคเล็ก ๆ ที่แปรพักตร์มาร่วมกับ "ฝ่ายค้าน" ในการล้ม "งบประมาณ" ให้ตีลังกาตกแม่น้ำเจ้าพระยา

            โดยเฉพาะ "พรรรเศรษฐกิจไทย" ของ "ผู้กองธรรมนัสน พรหมเผ่า" หัวหน้าพรรค ที่ "ลุงตู่" ไม่ขอบอุจจาระหน้า ขึงขังในระยะแรก ๆ พร้อมที่จะเท "งบประมาณ" ทิ้งลงถังขยะหน้าสัปปายะสภาสถาน

                เอาเข้าจริงกลับกลายเป็น ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย และ ส.ส.พรรคเล็กร่วมรัฐบาลกลุ่ม 16 โหวตให้ผ่านฉลุย

                ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีวาจาอันน่่าอัศจรรย์ที่ทำให้ทั้ง "กลุ่มธรรมนัส" และ "กลุ่ม 16" เคารพและหลงรัก??

                ดังนั้นที่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ทำอีมครึมว่าจะโหวต "งบประมาณ" ให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน ซึ่งในที่สุดก็ผ่านฉลุยให้ "ลุงตู่" ยิ้มด้วยความ ส.บ.ม.

                จะด้วยสาเหตุพิเศษนี้หรือไม่ก็ไม่ทราบได้  เพราะคนใน "พรรคเศรษฐกิจไทย" เองออกมาเปิดเผยว่า ทางพรรคจะได้ที่น้่งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแปรญัตติงบประมาณ ฯ จำนวน 3 คน

                ส่วนสมาชิกกลุ่ม 16 พรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลก็คงได้โควต้ากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแปรญํตติ"งบประมาณ" ตามสัดสวนกติกาจำนวน ส.ส.ของพรรคที่จะได้รับ!!

                หลังจากถก"งบประมาณ" กัน 3 วัน 3 คืน ความจริงก็ถูกปูดออกมาว่า รัฐบาลได้ขอเพิ่มจำนวกรรมาธิการ ฯ จาก 64 คนเป็น 72 คน

                การเพิ่มจำนวนกรรมาธิการ ฯ ดังกล่าว ไม่ต้องวิเคราะห์ให้เสียเวลา เพราะเป็นการแจกโบนัสให้แก่ "พรรคเศรษฐกิจไทย" ที่ออกข่าวว่าจะได้ 3 ที่นั่ง ก็ได้เพียง 2 ที่นั่ง

                ที่เหลือก็แจกจ่ายไปให้พรรคเล็ก ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้รับสิทธิโควต้ากันที่ไม่มีพรรคไหนอื้อหื้อฮือ!!

             เมื่อทุกฝ่ายสมประสงค์ประโยชน์ทางการเมืองตรงกัน  "งบประมาณปี 66" ของรัฐบาล "ลุงตู่" ก็ผ่านไปอย่างราบรื่นด้่วยคะแนนเสียง  278 ที่เห็นด้วยให้ผ่าน  ที่ไม่เห็นด้วยมีแค่ 194 เสียง   งดออกเสียง 2 ผู้ทรงเกียรติ

                ที่น่าแปลกใจทีเดียวก็คือ มี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย  ได้แหวกมติพรรคเห็นด้วยกับ "งบประมาณปี 66" ของ "เรือเหล็กลุงตู่"  จำนวน 7 คน

                จำนวน 7 ส.ส.ฝ่าแดนเสือสิงห์กระทิงแรดของพรรคแหกคอกออกมา  คงได้รับผลจากการลงโทษของพรรคแน่นอน

                แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะแสดงบทขึงขังว่าต้องขับงูเห่าของพรรคให้พ้นพรรค เพราะได้เบี้ยวมติตลอดเวลา  ยังอยู่กับพรรคก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับพรรค!!

            กูรูทางการเมืองอีรุงตุงนังวิเคราะห์ที่ไม่มีอะไรลึกลับมาว่า การลงโทษพวกงูเห่าของพรรคเพื่อไทยมีอยู่ 2 กรณี

                ประการแรก  จะได้ประจานงูเห่าของพรรคตนเองให้รู้กันไปตลอดเวลา จนกว่าจะคิดลาออกไปเอง

            ประการที่สอง  อาจอัปเปหิไล่พ้นพรรคไปเลย เสียงซีกค้านที่ลดลง ก็ไม่ทำให้ "ฝ่ายค้าน" เสียงศูนย์ประการใด  เนื่องจากจำนวนเสียงของฝ่ายค้านก็สู้เสียงของรัฐบาลไม่ได้ในเวทีสภาผู้แทนฯ??

                ถ้าพรรคเพือไทยไม่ขับส 7 ส.ส.งูเห่าออกจากพรรคในเร็ววันนี้  บรรดางูเห่าเพื่อไทยก็คงจะรอ ๆ ให้ระยะเวลาก่อน 6 เดือนที่จะครบเทอมสภาผู้แทน ฯ ยุค "ลุงตู่" จึงยื่นใบลาออกจากพรรค  เพราะ กกต.ไม่ต้องเสียเวลามาจัดเลือกต้้งซ่อมให้เสียงบประมาณแผ่นดิน

                ขออนุญาตเปิดเผยรายชื่อ 7 ส.ส. "งูเห่า"พรรคเพื่อไทย มาให้สาธุทั้งหลายได้รับทราบโดยทั่วกัน  มีดังนี้

                1.นายจักรพรรดิ  ไชยสาส์น  ส.ส.อุดรธานี

                2.นายจาตุรงค์  เพ็งนรพัฒน์  ส.ส.ศรีสะเกษ

                3.นายธีระ  ไตรสรณกุล  ส.ส.ศรีสะเกษ

                4.นางผ่องศรี  แซ่จึง  ส.ส.ศรีสะเกษ

                5..นายสุชาติ  ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา

                6.นายนิยม  ช่างพินิจ  ส.ส.พิษณุโลก

                7.นายวุฒิชัย  กิตติธเนศวร  ส.ส.นครนายก

                นอกจาก 7 งูเห่าของพรรคเพื่อไทยแล้ว  ก็ยังมี "งูเห่า" จากพรรคก้าวไกล 4 คนที่เป็นขาประจำในการโหวตสวนมติพรรค   และ "งูเห่า" จากพรรคประชาชาติ พรรคเล็กขั้วฝ่ายค้านอีก 1 คน

                ก็หวังว่า  พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะได้จำชื่อ 7 ส.ส งูเห่าของพรรคเพื่อไทย 

             4 งูเห่าจากพรรคก้าวไกล ก็ขออนุญาตเปิดเผยชื่อเพื่อเป็นเกียรติดังนี้

                1.นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี

                2.นายคารม พลพรกลาง ส.ส.ปาร์ตีลิสต์

                3.นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย

                4.นายเอกภพ เพียงวิเศษ ส.ส.เชียงราย

                และ 1 งูเห่าจากพรรคประชาชาติ คือ นายอนุมัติ ชูสารอ ส.ส.ปัตตานี

                ก็หวังว่าพรรครัฐบาลทุกพรรคสมควรจดจำชื่อบรรดา ส.ส.งูเห่าจากซีกค้าน เพื่อที่จะได้เตรียมยินดีต้อนรับมาเข้าสังกัดพรรคตนเองในศึกเลือกตั้งคร้้งหน้า

            มีเสียงกระซิบลอยตามลมมาให้ได้ยินว่า  5 ส.ส.งูเห่าพรรคเพื่อไทยทางภาคอีสาน  จะขอซบกับ "พรรคภูมิใจไทย"

                เนื่องจากนี้ขณะนี้  พรรคภูมิใจไทย กำลังเดินสายหาเรตติ้งในภาคอีสานอย่างคึกคักเพื่อเตรียมตะลุมบอนเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศในปี่หน้า 2566

                สำหรับ 2 ส.ส.กบฎพรรคเพื่อไทยที่ไม่ใช่อยู่ในพื้นที่อีสาน ปรากฏเป็นหลักฐานจากคำพูดที่ประกาศออกมาว่า ถ้าถูกพรรคขับออกจะไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยด้วยความอบอุ่นใจ

            ส่วน ส.ส.นครนายก ยังไม่ได้บอกชัด ๆ ว่าจะไปอยู่พรรคไหน  แต่คงหนีไม่พ้นพรรคภูมิใจไทย??

                สถานการณ์การเมืองช่วงที่ "ฝ่ายค้าน" จะเปิดศึกชำแหละ "งบประมาณปี66" ได้มีการโหมโฆษณาอย่างดุเดือดเลือดพล่่านว่า รัฐบาล"ลุงตู่" ไปไม่รอด โดนคว่ำแน่ "ลุงตู่" ต้องยุบสภา หรือ ลาออก!!

                ทว่า "งบประมาณปี 66" ของ "ลุงตู่" ก็ผ่านไปอย่างสบาย ๆ  ไม่ใช่ผ่านอย่างเฉียดฉิวประการใด

                ดังนั้น "มหกรรมซักฟอกถล่มรัฐบาลลุงตู่" ที่ "ฝ่ายค้าน" เตรียมยื่นญัตติในกลางเดือน มิ.ย.นี้  ซี่ง "ฝ่ายค้าน" ป่าวประกาศชวนให้เชื่อมาตั้งแต่ต้นปี่ว่า  มีหม้ดเด็ดน็อก "ลุงตู่" ให้เก้าอี้หักหกคะเมนตีลังกาลงพื้นแน่

                จากการคุยโม้ใหญ่โตว่าจะคว่ำ "งบประมาณปี 66"  ก็๋ได้แต่โม้ และคำโม้ต่าง ๆ ก็ไม่มีความผิดข้อไหนในจริยธรรมทางการเมือง!!

            เพราะฉะนั้นการคุยโม้ในวาทะกรรมใหม่ ๆ ที่จะประดิษฐ์ขึ้นมาต้อนรับ "ลิเกซีกฟอก"ว่ามีเรื่องเด็ดที่จะสอย"ลุงตู่่" กระดอนจากเก้าอี้  ก็ไม่รู้ว่าจะมี "มุกโม้" อะไรใหม่ ๆ หรือเปล่า

            แม้ว่าจะบอกว่า "ไม่ได้โม้"  ประทานโทษก็ "โม้" เหมือนเดิม??(ฮา)