รัสเซียหลังปูติน: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซียถึงแก่กรรม

รัสเซียหลังปูติน: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซียถึงแก่กรรม

รัสเซียหลังปูติน: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซียถึงแก่กรรม

ดร.กฤษฎา พรหมเวค

คณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

                ท่ามกลางวิกฤติการณ์รัสเซีย – ยูเครน มีกระแสข่าวลือมากมายจากผู้สังเกตการณ์ต่าง ๆ ที่คาดการณ์ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พาร์กินสัน มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งเม็ดเลือด หรือแม้กระทั่งการบาดเจ็บหลังเรื้อรัง ข่าวลือเหล่านี้หลายคนอยากรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จนทำให้หลายคนต้องคิดกันอย่างจริงจังว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าประธานาธิบดี วลาดิมีร์  ปูตินจากไป

                ฝ่ายค้านในรัสเซียมองว่าหากประธานาธิบดีวลาดิมีร์  ปูตินจากไปในช่วงนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาก้าวขึ้นสู่บทบาททางการเมืองที่มากขี้น พวกเขาเรียกโอกาสสำคัญนี้ว่า “เปเรสทรอยก้าใหม่” ในขณะที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมมองว่าจะเป็นโอกาสที่พวกเขาตอกย้ำระบบของปูตินให้เข้มแข็งมากขึ้น ไม่ว่าการเมืองจะเป็นไปในทิศทางใด กระแสความไม่แน่นอนของการเมืองรัสเซียย่อมเกิดขึ้น และคำถามที่สำคัญก็คือใครจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนประธานาธิบดีวลาดิมีร์  ปูติน

                ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของสหพันธรัฐรัสเซียไม่ได้ระบุว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรหากประธานาธิบดีถึงแก่กรรมขณะดำรงตำแหน่ง หากแต่ได้ระบุเอาไว้ในมาตรา 92 (2) และมาตรา 92 (3) ถึงกรณีที่ประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เนื่องจาก “เหตุผลทางด้านสุขภาพ” ซึ่งหมายความถึงการที่ประธานาธิบดีไม่สามารถใช้อำนาจของตนได้อีกต่อไป ขั้นตอนในทางปฏิบัติก็เหมือนกับการลาออกของประธานาธิบดีนั่นเอง

                ในสถานการณ์ปัจจุบัน คำถามสำคัญก็คือหากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินจากไปอย่างกะทันหันและไม่คาดฝัน ใครจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา หรือเขาได้แต่งตั้งใครเป็นทายาททางการเมืองต่อจากเขาหรือไม่ ซึ่งหากทราบว่าใครเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งล่วงหน้าก็จะมีช่องว่างน้อยลงและสามารถเตรียมการรับมือและสามารถวางแผนตั้งรับหรือจัดการได้มากขึ้นเท่านั้น ในปัจจุบันประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินและผู้สืบทอดของเขาได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชาวรัสเซียเป็นจำนวนมาก เราอาจเรียกความชื่นชมในตัวของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินว่า "อุดมการณ์ของลัทธิปูติน" ซึ่งในตอนนี้ อุดมการณ์นี้ทำให้ระบอบการปกครองของรัสเซียมีเสถียรภาพและยากที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในรัสเซีย

                อย่างไรก็ตาม หากประธานาธิบดีวลาดิมีร์  ปูตินลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างกะทันหันและไม่มีเวลาเตรียมผู้สืบทอดตำแหน่ง ทุกอย่างก็คาดเดาไม่ได้มากขึ้น หลายๆ อย่างจะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และบทบาทของชนชั้นสูงจะมีความสำคัญในการเมืองของรัสเซียมากกว่ามาก

                ตามรัฐธรรมนูญของสหพันธรัฐรัสเซีย นายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีในกรณีที่ประธานาธิบดีไม่สามารถทำหน้าที่ของตนได้ แต่อำนาจรักษาการประธานาธิบดีมีจำกัด เขาไม่สามารถยุบสภาดูมา ไม่สามารถเรียกร้องให้มีการลงประชามติหรือเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้

                สถานะของ “รักษาการประธานาธิบดี” ดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นในอุดมคติสำหรับผู้สืบทอดตำแหน่ง นั่นเป็นสาเหตุที่ผู้สังเกตการณ์หลายคนเชื่อว่าการถ่ายโอนอำนาจจะเริ่มต้นด้วยการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญในกรณีที่ประธานาธิบดีถึงแก่กรรมคือ สภาสหพันธรัฐมีเวลา 14 วันในการเรียกให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี (การลงคะแนนจะต้องเกิดขึ้นภายในสามเดือนนับจากการสิ้นสุดอำนาจของประธานาธิบดี) หากสภาสหพันธ์ไม่จัดการเลือกตั้งตามกำหนดเวลา ให้ตกอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง

                จากการประเมินพบว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินจะเห็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันนายมิคาอิล มิชุสติน« Михаил Владимирович Мишустин » เป็นผู้สืบทอดของเขา เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชุสตินไม่ได้ใกล้ชิดกับปูตินมากพอ และในความเป็นจริงถ้าจู่ ๆ นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสตินต้องเข้ารับตำแหน่งรักษาการแทนประธานาธิบดีของสหพันธรัฐรัสเซียโดยไม่ได้เตรียมการเพียงพอ เขาคงอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก เนื่องจากเขาจะต้องพึ่งพาการบริหารงานของสำนักประธานาธิบดี และการตัดสินใจทางการเมืองที่เป็นอิสระใดๆ หรือการเปลี่ยนแปลงการจัดวางตัวบุคลากรในรัฐบาล จะทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างแน่นอน

                หากไม่มีผู้สืบทอดตำแหน่ง บทบาทของสถาบันที่เป็นทางการก็จะเติบโตขึ้นพร้อมกับโอกาสที่ชนชั้นสูงจะมีบทบาทในการเมืองรัสเซียมากขึ้น ในปัจจุบันอำนาจการปกครองส่วนใหญ่อยู่ที่ระบอบการปกครองที่ไม่เป็นทางการของปูติน หากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินจากไปโดยไม่วางตัวผู้สืบทอดพวกเขาจะกลายเป็นท่อส่งผลประโยชน์ให้กับบริษัทขนาดใหญ่ บริการรักษาความปลอดภัย ผู้นำของพรรคเอกภาพรัสเซีย «Единая Россия» บรรดาเพื่อนร่วมงานที่มีอิทธิพลและเพื่อนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน การต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงอำนาจจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และคำถามสำคัญก็คือว่ากลุ่มชนชั้นนำสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับผู้สืบทอดตำแหน่งได้หรือไม่

                จากสถานการณ์ในปัจจุบันแนวโน้มผู้สืบทอดอำนาจของปูตินน่าจะเป็นไปในแนวทางอนุรักษ์นิยมที่เป็นสายเหยี่ยวมากขึ้น มีระบอบการปกครองที่มีความรุนแรง ปราบปรามมากขึ้น  และไม่ยอมประนีประนอม ซึ่งสอดคล้องกับความคิดเห็นของประชาชนชาวรัสเซียในขณะนี้มากกว่าแนวทางที่ต้องการให้มีการปฏิรูป ซึ่งมาจากงกระแสหลักทางการเมืองของรัสเซีย อุดมการณ์ที่ต่อต้านตะวันตก ต่อต้านเสรีนิยม และอนุรักษ์นิยมที่ “แข็งแรงกว่า” ซึ่งมีแนวโน้มมากขึ้นที่ชนชั้นสูงจะพยายามรักษาสิ่งต่าง ๆ ตามที่เป็นอยู่ แต่ถ้าการเมืองและเศรษฐกิจล่มสลายลง ความไม่พอใจของประชาชนในรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น ลัทธิปูตินเสื่อม โทรงลงก็เป็นโอกาสสำคัญของฝ่ายค้านที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงแค่การคาดการณ์เบื้องต้นเท่านั้น

                การเปลี่ยนแปลงของรัสเซียในอนาคตอันใกล้นั้นยังคงคาดการณ์ได้ยาก อย่างไรก็ตามประชาชนชาวรัสเซียส่วนใหญ่และประชาชนอีกครึ่งหนึ่งของโลกยังคงปรารถนาให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินยังคงมีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาว เพื่อช่วยป้องปรามสหรัฐอเมริกาและบรรดาประเทศพันธมิตร ที่คอยระรานประเทศต่าง ๆ ไปทั่วโลก

You may also like

TQM ร่วมกับ MSIG ส่งความสุขท้ายปี มอบฟรี “ประกันภัยรถยนต์ตามคน” ขับคันไหนก็คุ้มครอง

TQM ร่วม