Lenskart บุกตลาดแว่นตาไทย ชูดีไซน์ล้ำ ราคาจับต้องได้ เปิดสาขาแรกที่สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค

Lenskart บุกตลาดแว่นตาไทย ชูดีไซน์ล้ำ ราคาจับต้องได้ เปิดสาขาแรกที่สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค

- in New Product
1914

Lenskart บุกตลาดแว่นตาไทย

ชูดีไซน์ล้ำ ราคาจับต้องได้

เปิดสาขาแรกที่สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค

 Lenskart แบรนด์แว่นตาที่มีสาขามากที่สุดในเอเชีย เปิดสาขาแรกในประเทศไทยแล้ว ที่สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค พร้อมจำหน่ายแว่นตาทั้งทางหน้าร้านและออนไลน์ โดยนับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์มายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนำเข้าแว่นตาคุณภาพสูงในราคาจับต้องได้มาสู่กลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยที่ใส่ใจเรื่องสไตล์และชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Lenskart ผสมผสานฟังก์ชันเข้ากับแฟชั่นได้อย่างลงตัว โดยนำเสนอผ่านแว่นตาหลากหลายสไตล์ ทั้งแว่นสายตาและแว่นกันแดดกว่า 1,000 แบบ ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ทั้งทางหน้าร้านและออนไลน์ ปัจจุบัน Lenskart มีสาขามากกว่า 2,000 สาขาทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2565 Lenskart ได้เข้าบริหาร Owndays แบรนด์แว่นตาญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยอยู่แล้ว และด้วยการดำเนินธุรกิจเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ ทำให้ Lenskart สามารถนำความเชี่ยวชาญด้านสายตาที่ Owndays มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็วและนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้านสายตาให้กับผู้บริโภคในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในไทยยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ Lenskart ตัดสินใจขยายธุรกิจมายังประเทศไทย โดยยืนยันการเติบโตได้จากจำนวนประชากรในประเทศไทยกว่า 88% มีการติดต่อสื่อสารกันทางออนไลน์ และ 67% ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกสัปดาห์ และเมื่อพิจารณาจากสถิติการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคชนชั้นกลางที่ต้องการแสดงความเป็นตัวของตัวเองผ่านแฟชั่น Lenskart จึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแบรนด์ให้เป็นศูนย์รวมแว่นตาที่มีสไตล์ ตอบโจทย์ด้านฟังก์ชัน และสามารถครองใจผู้บริโภคในประเทศไทยได้

Jan Lim ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Lenskart กล่าวว่า “การขยายธุรกิจมายังประเทศไทยเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจเชิงกลยุทธ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิทัศน์ดิจิทัลหลาย ๆ แห่งที่กำลังเฟื่องฟูในประเทศไทยตอนนี้ ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนำเสนอ Lenskart ในฐานะแบรนด์แว่นตาที่พร้อมนำเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาแก้ไขปัญหาด้านสายตาของคนไทย นอกจากนี้ ความสำเร็จของ Owndays ที่เป็นที่ประจักษ์ต่อกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยยังช่วยปูทางให้เราขยายแบรนด์ในไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยฐานผู้บริโภคที่มีความพิถีพิถันในการเลือกสินค้าและมีความใส่ใจเรื่องแฟชั่น รวมถึงเหตุผลด้านการเติบโตของการช้อปปิ้งออนไลน์ ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและแฟชั่น เป้าหมายหลักของเราคือการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการดูแลสายตา โดยผู้บริโภคชาวไทยต้องมีกำลังซื้อแว่นตาจากเราได้ เราต้องการนำเสนอแว่นตาที่มีคุณภาพในราคาจับต้องได้สำหรับทุกคน เราตื่นเต้นและอยากให้คนไทยได้สัมผัสกับแว่นตาที่มีดีไซน์ทันสมัยและสัมผัสประสบการณ์การดูแลสายตาที่ไม่เหมือนใครจากเรา”

แว่นตาที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

Lenskart จำหน่ายแว่นตาที่หลากหลายสไตล์ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่สไตล์คลาสสิค เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงกรอบแว่นที่มีความทนทานเป็นพิเศษสำหรับผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉง รวมไปถึงแว่นตาสำหรับเด็กที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาสั้น

ลูกค้าสามารถเลือกแบบและสไตล์แว่นตาได้จากหลากหลายแบรนด์ภายใต้ Lenskart อาทิ LenskartAir ที่ขึ้นชื่อเรื่องกรอบแว่นตาที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ หรือ Switch เป็นกรอบแว่นตาที่ตอบโจทย์ 2 ฟังก์ชันในคู่เดียว โดยเป็นได้ทั้งแว่นสายตาและปรับเป็นแว่นกันแดดได้ เพียงใช้ clip-on และแบรนด์ Hooper เป็นแว่นตาที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ มีสไตล์และใช้งานได้นาน

ซึ่งแว่นตาที่ทันสมัยในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยระบบ “Simple Price” ราคาของแว่นตาจะถูกจัดไว้เป็นเซต แบบกรอบพร้อมเลนส์ ซึ่งกรอบแว่นสำหรับเด็กมีราคาเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท และกรอบแว่นสำหรับผู้ใหญ่เริ่มต้นที่ 2,000 บาท เท่านั้น โดยราคานี้รวมเลนส์กันแสงสะท้อนชนิดพรีเมียม (ขนาด 1.56) Lenskart มั่นใจว่าประชากรไทยอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจะสามารถซื้อแว่นตาคุณภาพสูงของแบรนด์ได้ นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังมีสิทธิประโยชน์มอบให้สมาชิกระดับ Gold Max โดยสมาชิกจะได้รับสิทธิ์ซื้อ 1 แถม 1 สำหรับซื้อกรอบแว่นใดก็ได้ใน Lenskart ตลอดระยะเวลาสมาชิก 2 ปี

การขายสินค้าผ่านหลากหลายช่องทางทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อแว่นตาได้อย่างสะดวกสบาย โดยลูกค้าสามารถค้นหากรอบแว่นตาที่เหมาะกับใบหน้าได้ผ่านทางฟีเจอร์ 3D try-on ในแอปพลิเคชัน หรือจะเลือกซื้อจากหน้าร้านก็มีสินค้าพร้อมให้บริการ นอกจากนั้น Lenskart ยังมีบริการตรวจวัดสายตาฟรี โดยนักทัศนมาตรที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง

สาขาที่เปิดใหม่ที่สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค มอบประสบการณ์การซื้อแว่นตาที่ไม่เหมือนใครผ่านจอ Interactive AR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยในการเลือกแว่นตาคู่ที่เหมาะกับใบหน้าให้ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถทดลองใส่แว่นเสมือนจริงได้ นอกจากนี้ลูกค้าจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่น่าดึงดูดภายในร้าน โดยทางแบรนด์ได้ร่วมมือกับกับศิลปินไทยชื่อดังอย่าง Juli Baker and Summer เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนความมุ่งมั่นของ Lenskart ในการสานสัมพันธ์กับผู้บริโภคชาวไทยผ่านสิ่งที่คนไทยสนใจ วัฒนธรรม และสิ่งที่คนไทยหลงใหล

ในโอกาสฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Lenskart ขอนำเสนอคอลเลคชั่นพิเศษ K-series ที่ถูกผลิตในประเทศเกาหลี มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัยและมีไสตล์ นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังได้มีบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุดถึง 4,000 บาท มาเตรียมมอบให้กับลูกค้า 3 คนแรกที่เข้ามาตรวจวัดสายที่ร้าน ในช่วงวันที่ 4 – 13 ตุลาคม 2567

โดย Lenskart วางแผนที่จะขยายสาขาอีก 15 แห่งทั่วประเทศไทยภายในปี พ.ศ. 2568 โดยจะเปิดสาขาอย่างน้อย 3 สาขาภายในสิ้นปี พ.ศ. 2567 นี้ Lenskart ตั้งเป้าหมายในการขยายสาขาเพิ่มถึง 50 สาขา ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยจะขยายให้ครอบคลุมจังหวัดสำคัญทั่วไทย อาทิเช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี และขอนแก่น

………………………………

เกี่ยวกับ Lenskart

Lenskart เป็นแบรนด์แว่นตาแฟชั่นชั้นนำระดับโลก มีชื่อเสียงเรื่องดีไซน์ที่สวยงามและล้ำสมัย ในราคาที่จับต้องได้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 Lenskart ได้ขยายสาขาไปมากกว่า 2,000 สาขา ในกว่า 175 เมือง ที่ประเทศอินเดีย สิงคโปร์ ดูไบ ซาอุดิอาระเบีย และประเทศไทย ในฐานะบริษัทแว่นตาที่มีสาขามากที่สุดในเอเชีย ทั้งยังมีแว่นตาจำหน่ายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ Lenskart พร้อมจัดส่งและจำหน่ายแว่นตาจากโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยในการออกแบบแว่นตา ปัจจุบัน Lenskart ให้บริการลูกค้าไปกว่า 40 ล้านคนทั่วโลกแล้ว แบรนด์มุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพในการมองเห็น และนำเสนอแว่นตาที่เข้าได้กับเสื้อผ้าทุกแบบทุกสไตล์ของผู้สวมใส่

 

You may also like

คปภ.เดินหน้า! เปิดเวทีสัมมนาวิชาการด้านประกันภัย ประจำปี 2567 “Thailand Insurance Symposium 2024”

 นายชูฉั