อนาคตของ “กัณวีร์ สืบแสง”
ในวันที่ถูกปลดพ้นเลขาธิการพรรค
นายหัวไทร
น่าสนใจหลังจาก กัณวีร์ สืบแสง ถูกปลดพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการของ พรรคเป็นธรรม (ปธ.) ดูเหมือนว่า “อนาคตทางการเมือง” ของเขาจะมีหลายทิศทางที่เป็นไปได้ ขึ้นกับว่าเขาจะเลือกเดินทางแบบใด หาพรรคใหม่สังกัด ตั้งพรรคใหม่ของตัวเอง หรือจะยังแบกหน้าอยู่พรรคเดิม
นี่คือ “แนวโน้ม” ที่ผมมองไว้ (พร้อมข้อสังเกต)
พรรคเป็นธรรมเพิ่งมีมติปลด กัณวีร์ ออกจากตำแหน่ง “เลขาธิการพรรค” โดยให้เหตุผลว่า “แอบอ้างมติพรรค” เพื่อสนับสนุน อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้องตามข้อบังคับพรรค
อย่างไรก็ตาม กัณวีร์ ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา เขาระบุว่าไม่ได้แอบอ้างมติพรรค และยืนยันว่าเสียงของเขาเป็น “สิทธิ์ส่วนตัว” หรือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.พร้อมประกาศว่า “จะเดินหน้าทำงานการเมืองต่อในฐานะ ส.ส.” ไม่ว่าเขาจะถูกปลดจากตำแหน่งเลขาฯ ก็ตาม

หมายความว่า: ณ ตอนนี้ เขายังมีตำแหน่ง ส.ส. (บัญชีรายชื่อ) อยู่ นั่นคือ “ตั๋วผ่าน” ที่ให้โอกาสเขายังมีบทบาทในสภา และในวงการการเมืองต่อไป จนกว่าจะยุบสภา
มีความเป็นไปได้ที่ กัณวีร์ อาจใช้สถานการณ์นี้เป็นโอกาส “สร้างแบรนด์” ตัวเอง ยึดมั่นในอุดมการณ์เดิม และพยายาม “เน้นผลงานเป็น ส.ส.” มากกว่าบทบาทพรรคใหญ่
เน้นนโยบายที่เป็นฐานของเขา เช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะก่อนหน้านี้ประวัติของเขาเกี่ยวข้องกับงานด้านสิทธิมนุษยชนและประเด็นชายแดนใต้ / แนวร่วมชนกลุ่มน้อย
เขาต้องสะท้อนให้ประชาชนเห็นว่า เขา “ไม่ยึดติดตำแหน่ง” แต่ยึดถือนโยบายและความรับผิดชอบต่อผู้ได้รับเลือก
ถ้าเดินเส้นนี้ เขาอาจกลายเป็น “ส.ส.ที่มีภาพลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น” ได้
อีกทาง: ร่วมกับพรรคใหม่ หรือย้ายขั้ว ย้ายพรรค
ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งความขัดแย้งภายในพรรคเป็นธรรม ที่เพิ่งเห็นชัดในตอนนี้ และโอกาสการเลือกตั้งในอนาคต กัณวีร์อาจตัดสินใจย้ายพรรค หรือไปร่วมกับกลุ่ม/พรรคที่มีแนวทางใกล้เคียงกับเขา
ศักยภาพสูงของเขาจากประวัติเขาเคยมีบทบาท “ดึงนักการเมือง หรือคนจากภายนอก” เข้าพรรคเป็นธรรม (เช่น เคยรับ “หมออ๋อง” เข้าพรรค) ถ้าพรรคเป็นธรรมมีภาพลักษณ์อ่อนแอหลังจาก “ปรับโครงสร้าง” เขาอาจมองว่าถึงเวลา “ปรับเส้นทาง” เพื่อมีโอกาสมากกว่า
แต่ทั้งนี้ ก็มีความเสี่ยงไม่น้อย การถูกปลดตำแหน่งเป็น “แผล” ที่อาจกระทบความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะถ้าความคิดเห็นในสังคมเอนเอียงไปทางว่ามีเรื่องของ “การเมืองภายใน, มติพรรค, ความโปร่งใส”
ถ้าเขาเลือกเดินกับพรรคใหม่อาจสูญเสีย “โครงรองรับ” ของพรรค ทั้งเรื่องโครงสร้างพรรค, ทรัพยากร, เครือข่าย
แนวโน้มที่เป็นไปได้จริง ณ เวลานี้
ถ้าผมต้อง “วางเดิมพัน” ผมคิดว่า โอกาสที่สมเหตุผลที่สุดคือ กัณวีร์ จะ ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือสมัครแบบเขต ผ่านพรรคใหม่ โดยใช้ “ภาพนักการเมืองอิสระ ที่ยึดอุดมการณ์” เป็นหัวใจ ในระยะสั้น เขาอาจพยายาม “สร้างภาพลักษณ์ใหม่” เน้นกิจกรรม ส.ส.-ประชาชน งานในสภา และประเด็นที่เคยผลักดัน (เช่น สิทธิมนุษยชน, ชายแดนใต้) เพื่อชิงคะแนนนิยม
และมีความเป็นไปได้สูงว่า เขาอาจตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเอง ถ้าประเมินแล้วว่า ประสานหาทุนสนับสนุนได้ มีกลุ่มก้อนทางการเมืองพร้อมเดินกอดคอไปด้วยกัน ดึงกลุ่มเอ็นจีโอ นักสิทธิมนุษยชน มาร่วมอุดมการณ์ได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เขาอาจ “ค่อยๆ จาง” ทางการเมือง ถ้าไม่มีพรรคหนุนหลัง
THAI
Social Links