งานประเพณี รับบัว  โยนบัว ที่บางพลี

 ช่วงนี้เป็นฤดูกาลออกพรรษา  จึงมีงานบุญประเพณีให้เห็นอยู่หลายจังหวัด ทั้งวันก่อนออกพรรษา  และหลังออกพรรษา  มีทั้งงานประเพณีชักพระ  ลากพระ  ไหลเรือไฟ  แห่ปราสาทผึ้ง  ซึ่งเป็นงานบุญประเพณีที่มีมาช้านาน  จนปัจจุบันกลายเป็นงานบุญประเพณีที่มีกิจกรรมท่องเที่ยวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  ทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวกันเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้ดีระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็ช่วยให้เกิดรายได้แก่ชาวบ้านในระดับพื้นฐาน  ที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อย่างน่าพอพอใจ

งานประเพณีรับบัว  โยนบัว  ของพี่น้องชาวอำเภอบางพลี  จังหวัดสมุทรปราการ  ก็เป็นอีกงานบุญประเพณีหนึ่งที่มีมาช้านาน  ในช่วงวันก่อนออกพรรษา  เป็นงานบุญประเพณีที่น่าสนใจสืบต่อเนื่องมานานถึงปัจจุบัน

ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีพี่ น้อง  ชาวมอญอพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารจากพระมหากษัตริย์ไทย  และทรงพระราชทานโปรดเกล้าฯให้อยู่อาศัยได้  พี่น้องชาวมอญได้กระจัดกระจายกันอยู่ในพื้นที่รอบๆนอกพระนคร เช่นพื้นที่จังหวัดปทุมธานี  นนทบุรี  สมุทรปราการโดยเฉพาะพื้นที่อำเภอพระประแดง   ชาวมอญได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  ทำมาค้าขาย อยู่นานและนำความเชื่อความศรัทธาทางด้านพระพุทธศาสนาเข้ามาด้วย ซึ่งก็มีความเชื่อความศรัทธาทางพระพุทธศาสนาเหมือนกันกับชาวไทยจะต่างกันเพียงแต่เรื่องพิธีกรรมเล็กน้อยแต่ก็เป็นที่ยอมรับและกลมกลืนไปกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาในทิศทางเดียวกันในเวลาต่อมา

แต่เดิม  อำเภอบางพลีมีสถานภาพเป็นตำบล เป็นตำบลที่มีดอกบัวมากเพราะเป็นพื้นที่ที่เป็นที่ราบลุ่ม มีหนองน้ำมากจึงมีบัวที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมาก  ชาวอำเภออื่นของจังหวัดสมุทรปราการทั้งอำเภอเมือง อำเภอพระประแดง มักจะมาเก็บดอกบัวกันที่บางพลีเพื่อนำไปเป็นดอกไม้บูชาพระในพระพุทธศาสนาในการบำเพ็ญกุศลต่างๆโดยเฉพาะวันสำคัญในทางพระพุทธศาสนา วันพระ หรือแมัแต่ในวันธรรมดาชาวบ้านก็ยังนำไปถวายพระ  บูชาพระ ของชาวบ้านทั่วไปที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาจากความเชื่อที่ว่าดอกบัวเป็นดอกไม้ที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนาจะเห็นได้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าประสูตร หรือทรงประทับยืน  ประทับนั่ง แม้แต่ทรงพระดำเนินก็จะมีดอกบัวมารองรับเสมอ  และยังมีความเชื่อในเรื่องพระมาลัย(พระมาลัยคือพระอรหันตสาวกในพระพุทธศาสนา  ปรากฎในคัมภีร์ พระมาลัยสูตรล่าวถึง  พระอรหันต์ชาวลังการูปหนึ่งนามว่า “พระมาลัยเทวะเถระ”  อาศัยอยู่บ้านกัมโพช  แค้นโลหะชนบท  ทวีปลังกาเป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ไปได้ทั้งนรก และ สวรรค์  เมื่อไปมาแล้วก็จะนำสิ่งที่พบเห็นมาเทศนาเกี่ยวกับ  บาป  บุญ  คุณโทษ ที่มนุษย์ก่อขึ้นจนไปเกิดยังนรกภูมิ  และสวรรคภูมิ)  ในเรื่องพระมาลัย ยังกล่าวถึง ชายคนหนึ่งที่ยากจนข้นแค้นได้นำดอกบัวไปถวายแก่พระมาลัย  และได้ไปเกิดเป็นเทพบุตร  ในความเชื่อโบราณเช่นนี้จึงทำให้ชาวพุทธนิยมนำดอกบัวไปถวายพระในพิธีกรรมต่างของพระพุทธศาสนา เชื่อว่าได้บุญกุศลแรง  ในวันออกพรรษาก็มีพิธีทำบุญตักบาตรกันตามประเพณี ชาวบ้านก็มาเก็บดอกบัวกันที่บางพลี โดยเฉพาะชาวบ้านต่างอำเภอของจังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อชาวบ้านต่างอำเภอไปเก็บดอกบัวที่บางพลีเพื่อนำไปถวายพระในการทำบุญออกพรรษา  ด้วยระยะทางที่ไกลและการเดินทางที่ไม่สะดวก ต้องไปทางเรือเป็นต้น  เมื่อเป็นเช่นนี้ชาวบ้านต่างอำเภอก็ต้องค้างแรม  ชาวบางพลีเห็นเข้าจึงมีจิตเป็นกุศล นำข้าวปลาอาหารมาเลี้ยง  จนต่อมาก็เกิดผูกมิตรกันขึ้น  มีความสนิทชิดเชื้อกัน  จนต่อมาชาวบางพลีจึงเก็บดอกบัวไว้ให้ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการทำบุญกุศลร่วมกัน  จึงเกิดพิธี”รับบัว”

แต่ก่อนมีการรับบัวกันอย่างสุภาพกล่าวคือจากมือถึง มือ  โดยก่อนจะส่งบัวให้กันก็อธิษฐานก่อนระหว่างชาวบ้านบางพลีกับชาวบ้านต่างถิ่นที่มาเก็บบัว  จากนั้นก็จะส่งบัวให้แก่กัน  กระทำกันจนเกิดเป็นประเพณีที่เรียกกันว่า”ประเพณีรับบัว”  จนต่อมาชาวบางพลีกับชาวบ้านต่างถิ่นก็สนิทสนมกันมากขึ้น จนบางครั้งชาวบางพลีก็จะโยนดอกบัวให้แก่กันโดยไม่ต้องมีพิธีการอะไรมาก  จนมีการโยนบัวให้แก่กัน และเป็นประเพณีในภายหลังว่า”รับบัว  โยนบัว”ต่อมาได้พัฒนาเป็นประเพณี

ต่อมาในช่วง พ.ศ2480 งานประเพณีนี้จัดงานกันในวันก่อนออกพรรษหนึ่งวัน คือในวันขึ้น14ค่ำเดือน11  โดยงานจะมีองค์ประกอบที่สำคัญด้วยมีการนำองค์หลวงพ่อโต  วัดบางพลีใหญ่ลงประดิษฐานบนเรือที่ตกแต่งด้วยดอกไม้กับรูปสัตว์ในป่าหิมพานต์อย่างสวยงาม  มีเหล่าเทพยาดารายล้อมอยู่บนลำเรือ โดยเรือจะอยู่หน้าวัดบางพลีใหญ่ ในคลองสำโรง  ต่อมามีเรือแห่หลวงพ่อโตจำลองจากต่างอำเภอและหรือหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมเป็นขบวน จนกลายเป็นงานบุญประเพณีรับบัว  โยนบัว   และมีกิจกรรมท่องเที่ยวเข้ามเกี่ยวข้องด้วย  เมื่อนำหลวงพ่อโตประดิษฐานในเรือที่ตกแต่งอย่างสวยงามแล้ว ก็นำเรือออกแห่ไปยังคลองสำโรงเพื่อให้ชาวบ้านสองฝั่งคลองถวายดอกบัวแก่หลวงพ่อโต ด้วยการโยนดอกบัวให้ลงเรือแห่ เป็นการถวายดอกบัวแก่หลวงพ่อโต จากคติความเชื่อในทางพระพุทธศาสนาว่า” การถวายดอกบัวแก่พระพุทธองค์เป็นการทำบุญกุศลที่ได้บุญอันยิ่งใหญ่” และงานบุญประเพณี รับบัว  โยนบัว  กลายเป็นงานประเพณีที่สำคัญของพี่ น้อง ชาวบางพลี  จังหวัดสมุทรปราการและมีนักท่องเที่ยวกับผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนามาเที่ยวชมและมีส่วนร่วมกับงานนี้ซึ่งเป็นงานบุญประเพณีที่มีมาช้านานจนถึงปัจจุบัน

หากมีโอกาสร่วมงาน รับบัว  โยนบัว กับพี่น้องชาวบางพลี สักครั้งในชีวิตก็ถือว่าท่านได้ร่วมงานบุญที่ยิ่งใหญ่ราวกับว่าได้นำดอกบัวไปถวายพระพุทธองค์และยังย้ำเตือนให้ตระหนักถึงหลักธรรมที่ทรงสั่งสอนและพึงนำไปปฏิบัติให้เกิดผลดีแก่ผู้นั้นที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา  อันเป็นมงคลให้แก่ชีวิตต่อไป