จีนปลุกใจ!โลกต้องเดินหน้าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจในยามวิกฤติ

จีนปลุกใจ!โลกต้องเดินหน้าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจในยามวิกฤติ

            ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและการแพร่ระบาดที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบศตวรรษ จีนก็ได้เน้นย้ำความสำคัญในการส่งเสริมโลกาภิวัตน์ แม้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเผชิญกับอุปสรรค

                นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้มีถ้อยแถลงในการประชุมเศรษฐกิจนานาชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ครั้งที่ 25 เมื่อเร็วๆนี้ว่า ในการส่งเสริมการหลอมรวมเพื่อความก้าวหน้าและอุดช่องว่างในการพัฒนา ประชาคมโลกจำเป็นต้องรวมทรัพยากร แพลตฟอร์ม และเครือข่ายความร่วมมือต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนา

                "เราเชื่อในการพัฒนาเศรษฐกิจจีนอย่างเต็มที่" ปธน.สี กล่าว "จีนจะเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ ขยายการเปิดกว้างอย่างมีมาตรฐานและตัดสินใจอย่างแน่วแน่ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือตามโครงการเส้นทางสายไหม"

พัฒนาโลกอย่างเสมอภาคและยั่งยืนกว่าเดิม

                เมื่อประชาคมโลกมีความกระตือรือร้นในการพัฒนาอย่างเสมอภาค ยั่งยืน และมั่นคงกว่าเดิม ปธน.สีจึงเชิญชวนให้คว้าโอกาส รับมือปัญหาท้าทาย และมุ่งปฏิบัติตามแผนพัฒนาโลก (Global Development Initiative) เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง

                ประธานาธิบดีจีนได้เสนอแผนพัฒนาโลกขณะกล่าวสุนทรพจน์ต่อการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 76 ผ่านทางวิดีโอลิงก์เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แผนดังกล่าวมาพร้อมแนวทางต่าง ๆ ในการส่งเสริมความก้าวหน้าในระดับสากล

                ปธน.สีแถลงต่อผู้เข้าร่วมการประชุมว่า ทุกประเทศควรเสริมแกร่ง "ความเชื่อมโยงที่มีความยืดหยุ่น" ให้กับนโยบายการพัฒนาไปจนถึงระเบียบและมาตรฐานระดับสากล

                ความพยายามในการแบ่งแยก ปัญหาซัพพลายเชน การคว่ำบาตรฝ่ายเดียว และมาตรการกดดันต่าง ๆ ควรถูกคัดค้าน ขณะที่มาตรการกีดกันทางการค้าควรกำจัดให้หมดไป เพื่อให้ห่วงโซ่อุตสาหกรรมและซัพพลายเชนทั่วโลกมีความมั่นคง แก้ไขวิกฤติด้านอาหารและพลังงาน พร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก

                ทั่วโลกควรปฏิบัติตามระบบพหุภาคีที่แท้จริง เคารพและสนับสนุนเส้นทางการพัฒนาของทุกประเทศตามสภาวะของประเทศนั้น ๆ ทั้งยังควรสร้างเศรษฐกิจแบบโลกเปิดและส่งเสริมตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาให้มีบทบาทมากขึ้นในธรรมาภิบาลด้านเศรษฐกิจ

                นอกจากนี้ เขายังได้เชิญชวนให้ประเทศต่าง ๆ ใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนการพัฒนา โดยย้ำความสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของการเติบโตที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำ ปรับปรุงระเบียบและองค์ประกอบทางสถาบันรองรับนวัตกรรม และทำลายอุปสรรคต่าง ๆ ที่เป็นตัวกีดกันการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ

                ปธน.สีสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนและร่วมมือคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ส่งเสริมการบูรณาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับเศรษฐกิจให้ล้ำลึกกว่าเดิม และนำประโยชน์ที่ได้จากนวัตกรรมไปแบ่งปันให้ทุกคน

จีนเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ

                ประธานาธิบดีจีนชี้ให้เห็นว่า รากฐานของเศรษฐกิจจีน อันได้แก่ความยืดหยุ่น ศักยภาพ และความยั่งยืนในระยะยาว ยังคงเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนแปลง

                จีนเป็นประเทศแรก ๆ ที่กลับมาทำงานและเดินเครื่องผลิต โดยในปี 2563 จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่แห่งเดียวที่มีการเติบโต ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) พุ่งทะลุหลัก 114.4 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 18.1 ล้านล้านดอลลาร์) ในปี 2564

                รายงานล่าสุดจากหอการค้าอเมริกันประจำจีนใต้ระบุว่า บริษัทในการสำรวจกว่า 70% มีแผนลงทุนต่อในจีนในปี 2565 ขณะที่ 58% คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในจีนจะสูงกว่าที่อื่น ๆ

                ทั้งนี้ ปธน.สี เปิดเผยว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับรัสเซียและทุกประเทศ เพื่อสำรวจแนวโน้มในการพัฒนา แบ่งปันโอกาสในการเติบโต และเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาและสร้างชุมชนเพื่อก้าวสู่อนาคตด้วยกัน