จีนมั่นใจเศรษฐกิจโตตามเป้า 5% พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก

จีนมั่นใจเศรษฐกิจโตตามเป้า 5%

พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก

      รายงานที่เผยแพร่โดยองค์การสหประชาชาติเมื่อเดือนพฤษภาคมได้มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้เป็น 5.3% จากระดับ 4.8% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปี

ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 5.6% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.3% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนมกราคม

ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวและดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี

“จีนเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา” นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในพิธีเปิดการประชุมดาวอส ฟอรัม ฤดูร้อน (Summer Davos Forum) ณ เทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีน เมื่อวันอังคาร

เขาเน้นย้ำว่า เศรษฐกิจจีนบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างลึกซึ้ง โดยจีนได้พัฒนาตัวเองในยุคโลกาภิวัตน์และกลายเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในการรักษากระแสโลกาภิวัตน์

เศรษฐกิจจีนคึกคัก

ข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ออกมาดีเกินคาดได้กระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นในตลาดโลกกรมศุลกากรจีนรายงานว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการนำเข้าและส่งออกรวมของจีนอยู่ที่ 16.77 ล้านล้านหยวน (ราว 2.32 ล้านล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในจำนวนนี้เป็นยอดส่งออก 9.62 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 8.1% และยอดนำเข้า 7.15 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 0.5%

ขณะเดียวกัน การแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคได้ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าและส่งออกของจีนกับประเทศสมาชิกอื่น ๆ ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 แตะระดับ 5.11 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี

“เศรษฐกิจจีนยังคงมีศักยภาพมหาศาล” นายบอร์เก เบรนเด ประธานเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (World Economic Forum) ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น (CGTN)

นายหลี่ เฉียง คาดว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ราว 5% ในปีนี้ หลังจากที่การเติบโตในไตรมาสสองแซงหน้าไตรมาสแรก

เขาเน้นย้ำว่าจีนจะยังคงเป็นพลังที่แข็งแกร่งในการผลักดันการฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก พร้อมมอบโอกาสในการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันและผลลัพธ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนทั่วโลก

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้บริหารจากบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง เช่น แอปเปิ้ล (Apple), เทสลา (Tesla) และ บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ได้เดินทางเยือนจีนเพื่อเจรจาสร้างความร่วมมือและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศจีน

นายโอลิเวอร์ เบเทอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอลิอันซ์ (Allianz Group) กล่าวในการประชุมไชน่า ดีเวลอปเมนต์ ฟอรัม (China Development Forum) เมื่อเดือนมีนาคมว่า ประชาคมโลกต้องการจีนมากกว่าที่เคยเป็นมา

นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนกำลังปฏิบัติตามหลักปรัชญาการพัฒนาใหม่ ส่งเสริมกระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ให้เร็วขึ้น และทำงานอย่างหนักเพื่อให้บรรลุการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง

ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกให้เติบโต

สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีนยังคงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีนรายงานว่า 97% ของบริษัทต่างชาติที่สัมภาษณ์ ให้คะแนนนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศที่รัฐบาลจีนประกาศใช้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ในระดับ “น่าพอใจ” หรือสูงกว่านั้น

นอกจากนี้ ความพึงพอใจต่อตัวชี้วัดต่าง ๆ เช่น การได้รับบริการทางการเงิน การแก้ไขข้อพิพาททางการค้า และการเข้าถึงตลาด ก็สูงเกิน 80%

ยิ่งไปกว่านั้น เทสลาได้ประกาศว่าจะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในจีนและสร้างโรงงานขนาดใหญ่แห่งใหม่ในนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อผลิตแบตเตอรี่เมกะแพ็ก (Megapack)

ส่วนทางด้านแอร์บัส (Airbus) จากฝรั่งเศส ประกาศสร้างสายการผลิตแห่งที่ 2 ในนครเทียนจิน นอกจากนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) จากเยอรมนี ได้ประกาศว่าจะลงทุน 1 พันล้านยูโรในจีนเพื่อสร้างศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรม จัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า

นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนพร้อมยืนหยัดเพื่อสนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบตลาด (Market Economy) ตลอดจนส่งเสริมการค้าเสรี เพื่อนำพาเศรษฐกิจโลกไปสู่อนาคตที่ครอบคลุม ยืดหยุ่น และยั่งยืนมากขึ้น

ทั้งนี้ นายหลี่ เฉียง เรียกร้องให้ประชาคมโลกต่อต้านการนำประเด็นทางเศรษฐกิจและการค้ามาเป็นประเด็นทางการเมือง ตลอดจนร่วมกันรักษาเสถียรภาพและความราบรื่นของห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมโลก โดยเขาแสดงความหวังว่าผลของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจจะเป็นประโยชน์ต่อนานาประเทศและประชาชนทั่วโลกอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น