ดร.มนพร สั่ง“กรมเจ้าท่า”ตั้งศูนย์เร่งช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยที่ภาคเหนือ

ดร.มนพร สั่ง“กรมเจ้าท่า”ตั้งศูนย์เร่งช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยที่ภาคเหนือ

ดร.มนพร สั่ง“กรมเจ้าท่า”ตั้งศูนย์เร่งช่วยเหลือ

พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยที่ภาคเหนือ

   ตามที่รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กระทรวงคมนาคม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นการเร่งด่วน

อธิบดีกรมเจ้าท่า นายกริชเพชร ชัยช่วย ได้สั่งการให้เร่งจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กรมเจ้าท่า (เฉพาะกิจ) พ.ศ.2567 พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานของกรมเจ้าท่า ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ดำเนินการเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 กรมเจ้าท่าบูรณาการร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ และสำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 7 นำเจ้าหน้าที่ 17 ราย รถขับยนต์ 3 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน  เรือเจ็ทสกี 1 ลำ เรือท้องแบนพระราชทาน 2 ลำ นำน้ำดื่ม 240 ขวด เดินทางเข้าให้การช่วยเหลือในพื้นที่ ต.ป่าแมต อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 จังหวัดเชียงราย จัดเจ้าหน้าที่ 11 ราย รถ 2 คัน นำน้ำดื่ม 360 ขวด มอบให้กับประชาชนในพื้นที่ อำเภอเทิง และอำเภอขุนตาล และ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 จังหวัดแพร่ จัดเจ้าหน้าที่ 4 ราย รถ 1 คัน เรือ 1 ลำ นำน้ำดื่ม 220 ขวด เข้าให้การช่วยเหลือในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ปัจจุบันระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เส้นทางการเข้าช่วยเหลือถูกปิดกั้น รถเล็กไม่สามารถเคลื่อนผ่านได้ จำเป็นต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าช่วยเหลือในพื้นที่

สำหรับการเฝ้าระวังในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิษณุโลก ได้มีการเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ 49 ราย รถ 11 คัน  เรือ 5 ลำ เฝ้าติดตามสถานการณ์และระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก พร้อมประเมินการไหลผ่านของน้ำที่ไหลผ่านภาคเหนือตอนบนหากเข้าสู่พื้นที่และเตรียมพร้อมปฏิบัติงานทันทีหากเกิดเหตุ ทั้งนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 ได้ดำเนินการประเมินเส้นทางน้ำจากข้อมูลของกรมชลประทาน ในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม ที่กำลังไหลผ่านจากจังหวัดแพร่ เข้าจังหวัดสุโขทัยที่จุดวัดน้ำบ้านห้วยสัก อ.สอง จ.แพร่ ระดับน้ำ 12.60 ม. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,686 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งมวลน้ำจาก จ.แพร่ จะไหลลงมายัง จ.สุโขทัย และที่จุดวัดน้ำ Y14A อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ระดับน้ำ 4.84 ม. จากระดับตลิ่ง 11.30 ม. มีปริมาณน้ำ 622.80 ลบ.ม.ต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่จุดวัดน้ำ ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ที่จะเป็นจุดบริหารจัดการน้ำจากแม่น้ำยม ให้ผันออกไปยังสาขาแม่น้ำยมทั้งฝั่งซ้ายและขวา รวมถึงแม่น้ำยมหลัก ซึ่งขณะนี้ จุดนี้มีระดับน้ำ 9.27 เมตร เพิ่มสูงขึ้น มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 588.71 ลบ.ม.ต่อวินาที และที่จุดวัดน้ำหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด มีระดับน้ำ 6.35 ม. คาดการณ์ว่าในวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ระดับน้ำในแม่น้ำยมจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับวิกฤต

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ปัจจุบัน กรมเจ้าท่า ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำในพื้นที่รับผิดชอบ เตรียมพร้อมเรือ และเจ้าหน้าที่ หากได้รับการร้องขอจากหน่วยงานในจังหวัด หรือได้รับแจ้งจากผู้ที่ประสบอุทกภัยโดยตรง กรมเจ้าท่าพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยทุกท่านอย่างเต็มกำลัง หากพบเห็นเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยทางน้ำ สามารถโทรแจ้งสายด่วนกรมเจ้าท่า 1199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

You may also like

คปภ.เดินหน้า! เปิดเวทีสัมมนาวิชาการด้านประกันภัย ประจำปี 2567 “Thailand Insurance Symposium 2024”

 นายชูฉั