ดีป้า ร่วม เอ็น.ซี.ซี.โหม “สมาร์ทซิตี้”มุ่งเดินหน้าทั่วประเทศ จับมือญี่ปุ่นผนึกเทคโนโลยี่โลกจัดงานใหญ่ Thailand Smart City Expo 2023

ดีป้า ร่วม เอ็น.ซี.ซี.โหม “สมาร์ทซิตี้”มุ่งเดินหน้าทั่วประเทศ จับมือญี่ปุ่นผนึกเทคโนโลยี่โลกจัดงานใหญ่ Thailand Smart City Expo 2023

ดีป้า ร่วม เอ็น.ซี.ซี.โหม “สมาร์ทซิตี้”มุ่งเดินหน้าทั่วประเทศ

จับมือญี่ปุ่นผนึกเทคโนโลยี่โลกจัดงานใหญ่

Thailand Smart City Expo 2023

    “ดีป้า” ปูพรม สมาร์ทซิตี้ 36 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเร่งกระจายทั่วไทย ผนึก เอ็น.ซี.ซี. จัดงาน “Thailand Smart City Expo 2023” ระดมเทคโนโลยีจากทั่วโลกจัดแสดง พร้อมดึงกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) เสริมองค์ความรู้เพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หวังช่วยผู้นำท้องถิ่น ผู้พัฒนาเมืองนำความรู้ต่อยอดอย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายนนี้

ดร. ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ กลุ่มงานโครงการพิเศษและศูนย์พัฒนาดิจิทัลและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่มุ่งเน้นส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล พัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการนำไปใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงของประเทศ

สำหรับการสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทยเป็นหนึ่งในมาตรการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่กําหนดไว้ โดยกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะประเทศไทยจะต้องมีการบูรณาการการทำงานในทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่น ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม และตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด

ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยมีเมืองได้รับความเห็นชอบแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพิ่มเติมจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา  และประกาศเป็นเมืองอัจฉริยะแล้ว 36 พื้นที่ใน 25 จังหวัด

ดังนั้นความร่วมมือกับ เอ็น.ซี.ซี. ในการจัดงาน “Thailand Smart City Expo 2023” จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยผลักดันประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะได้อย่างสมบูรณ์ ผ่านการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มุ่งเน้นให้คน เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เกิดแผนการพัฒนาเมือง รวมถึงโครงการที่ตอบสนองบริบทของพื้นที่ และความต้องการของประชาชนให้กับผู้บริหารเมือง ทั้งระดับประเทศ จังหวัด และชุมชน อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ยกระดับสังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยในงาน “Thailand Smart City Expo 2023” ดีป้า ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จัดเวิร์คช้อปเพื่อยกระดับการพัฒนาพิธีมอบรางวัล The Smart City Solution Awards 2023  เพื่อเป็นการส่งเสริมผลงานด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ รวมถึงการมอบเกียรติบัตรให้แก่เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะของดีป้า ภายในงานนี้ด้วย

ทั้งนี้ คาดว่าการจัดงาน “Thailand Smart City Expo 2023” จะเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับภาครัฐองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าใจถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับเมืองของตนเพื่อต่อยอดในการพัฒนาเมืองได้อย่างยั่งยืน

ด้าน นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ในปัจจุบัน การพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศทั่วโลก ในการใช้เป็นเครื่องมือยกระดับคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน สำหรับในประเทศไทยของเรานั้น นโยบายด้าน Smart City ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและเห็นเป็นรูปธรรมแล้วในหลายพื้นที่แล้ว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนโยบายของทุกพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว คาดว่าพรรคการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศจะเร่งดำเนินนโยบาย Smart City อย่างเต็มรูปแบบด้วย

สำหรับหัวใจสำคัญในการพัฒนา Smart City คือการพัฒนาเมืองหรือท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยเครื่องมือในการจัดเก็บฐานข้อมูล ซึ่งจะนำมาบริการจัดการ ตามแต่ละบริบท ภูมิศาสตร์ และรูปแบบความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่นหรือเมืองนั้นๆ ด้วยเทคโนโลยี-นวัตกรรม มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและหลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการทุกในทุกด้าน

ทั้งนี้ภาคเอกชนเองก็ได้มีการนำเทคโนโลยีด้าน Smart City มาใช้เป็นมาตรฐานในการพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อให้การบริหารจัดการด้านต่าง ๆ มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการต้นทุน การบริหารจัดการด้านพลังงาน ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังเป็นการสร้างแบรนด์ทางการตลาด โดยบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงสินค้าแห่งนี้ ให้มุ่งสู่การเป็น Smart Venue ระดับโลกอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในแง่ Smart Energy และ Smart Living โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ อาทิ ติดตั้งกล้อง CCTV ที่มีระบบ AI เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ติดตั้งระบบ Building Management System (BMS) ที่เชื่อมต่อกับสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ ภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำหรับควบคุมการใช้แสงสว่าง ปริมาณการใช้ไฟฟ้า หรือน้ำจากส่วนกลาง เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน และตอบโจทย์ Sustainability รวมถึงการใช้ระบบชำระเงินแบบไร้เงินสด (Cashless) ในร้านค้าภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อตอบโจทย์ Smart Retail เป็นต้น และยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายที่เราได้นำมาใช้

ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรม รวมถึงนโยบายการขับเคลื่อนอย่างจริงจังของรัฐบาล บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด จึงได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล หรือ ดีป้า จัดงาน “Thailand Smart City Expo” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  โดยงานนี้ได้รวบรวมสินค้า นวัตกรรม องค์ความรู้ เกี่ยวกับเทคโนโลยีการพัฒนาและยกระดับเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพเมืองของประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศ CLMV

ซึ่งภายในงานของเราจะแบ่งหมวดหมู่เทคโนโลยีออกเป็น 7 ด้านสำคัญสำหรับ Smart City ได้แก่ Smart Telecom, Smart Energy, Smart Living, Smart Industry & Retail, Smart Mobility, Smart Environment และ Smart Healthcare ซึ่งจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากบริษัทชั้นนำกว่า 300 บริษัท รวมถึงพาวิลเลียนจากต่างประเทศ

ไฮไลท์ที่สำคัญของปีนี้ จะมีการจัดเสวนาระดับนานาชาติ เรื่องทิศทางการพัฒนาเมืองของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง และเมือง Smart City ต้นแบบจากญี่ปุ่น รวมถึงการประชุม การเสวนาขยายผลจากนโยบายด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี การจัดงาน “Thailand Smart City Expo 2023”จะเป็นเวทีสำหรับผู้บริหารเมืองได้มาสัมผัสถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีล้ำสมัย และผู้บริหารโครงการภาครัฐและเอกชน ในฐานะผู้ซื้อ จะได้มาเลือกสรร และศึกษานวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ ล่วงหน้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อดำเนินโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะเดียวกัน งานนี้ก็จะเป็นเวทีสำหรับเจ้าของเทคโนโลยี บริษัทผู้ให้บริการและผู้แทนจำหน่ายจะได้พบกับผู้ซื้อโดยตรงจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงาน ที่สำคัญงานนี้เป็นงานเดียวที่ได้รับการรับรองและร่วมจัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ทำให้มั่นใจได้ว่าในทุกๆ ส่วนภายในงานที่เราได้จัดเตรียมไว้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมงานอย่างแน่นอน

สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ได้มีคณะผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ในฐานะผู้ขับเคลื่อนโนบายเมืองอัจฉริยะทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมงาน ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร และผู้ช่วยศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้แทนจากกลุ่มผู้แสดงสินค้าภายในงาน “Thailand Smart City Expo 2023” ได้แก่ นายภุชงค์ เจริญสุข Enterprise Product Marketing Manager บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวิร์ค จํากัด และนายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business บริษัท เอสซีจี-ซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ซึ่งยืนยันถึงความจำเป็นของการพัฒนาเมืองและประเทศไทยสู่ Smart City ในระดับภูมิภาคอาเซียน ผ่านแผนและโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และเทคโนโลยีที่จะช่วยตอบสนองความต้องการในการพัฒนาเมือง ตลอดจนความสำคัญของงานแสดงสินค้า ซึ่งเปรียบเสมือนเวทีรวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นเวทีแบ่งปันองค์ความรู้ระหว่างกัน” นาย   สุรพล กล่าว

ผู้สนใจสามารถร่วมงาน “Thailand Smart City 2023” งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีระดับนานาชาติด้านเมืองอัจฉริยะ ระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2566 ณ ฮอลล์ 3-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.thailandsmartcityexpo.com

 

 

You may also like

เปิดตัวดัชนีชี้วัดความปลอดภัยของเด็ก บนโลกออนไลน์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก

เปิดตัวด