ทหารพม่ายึดอำนาจ ส่งแรงสะเทือน "ทหารไทย" โดน "ด่า" ไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้??
นายจักรยาน
การปกครองทุกระบอบในโลกนี้ เปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง เฉกเช่นเดียวเชื้อร้าย"ไวรัส" ที่เปลี่ยนแปลงให้ทันโลกอยู่ตลอดเวลา
ประชาธิปไตยในประเทศที่กำลังพัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนา ก็เปลี่ยนแปลงไปตามประเพณีวัฒนธรรมของประเทศนั้น มีทั้งประชาธิปไตยค่อนใบ ครึ่งใบ หรือแม้กระท้่งไม่มีใบ
บางประเทศประชาธิปไตย ก็สลับหมุนเวียนระหว่าง "ปฏิวัติ" กับ "ประชาธิปไตย" จนประชาชนรู้สึกชินชาเหมือนดูละครการเมืองสลับฉากให้ตื่นเต้นเร้าใจ
สำหรับประเทศที่ปกครองแบบ "คอมมิวนิสต์" ก็ปรับเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์ทุนนิยมแบบใครแบบมัน ไม่มีประเทศไหนทีเป็น "คอมมิวนิสต์" จ๋าแบบต้นฉบับของคาร์ลมาร์ก และเลนิน
อาทิ ประเทศจีน ก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นสังคมนิยมแบบจีน จนโลกตะลึงที่เศรษฐกิจและเทคโนโลยี่พัฒนาก้าวล้ำเกินกว่าประเทศมหาอำนาจประชาธิปไตยซะอีก??
ส่วน ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ชู "ประชาธิปไตย" ว่าเป็นต้นแบบของโลกก็เกิดรอยราคีมลทินน่าอับอายที่คนอเมริกันบางกลุมคลั่ง "เสรีภาพ" สุดโต่ง ปลุกระดมสร้างความแตกแยกให้คนในชาติ
และประเทศประชาธิปไตยซีกตะวันตกก็มีม็อบออกมาประท้วงเผาบ้านเผาเมืองเป็นภาพข่าวให้เห็นกันทั้งโลกว่า "ม็อบ" ที่อ้างเสรีภาพสุด ๆ มักละเมิดสิทธิเสรีภาพแบบผิดกฎหมายบ้านเมืองเหมือนกันทุกม็อบของโลก
ก็ทำให้เห็นว่า "เสรีภาพ" ขอประเทศมหาอำนาจเจ้าโลกที่มีการแสดงอย่างบ้าระห่ำเป็นการทำลาย "ประชาธิปไตย" ให้เสีย ๆ หาย ๆ จนประเทศที่ปกครองต่างระบอบยิ้มเยาะเย้นหยัน??
ทำให้การเปรียบเทียบว่าความคิดเห็นที่แตกต่างในระบอบ "ประชาธิปไตย" เหมือนดอกไม้หลากสีในโลกที่สวยสดงดงาม ก็เลยไม่เป็นความจริงขึ้นมา กลายเป็นดอกไม้สีซีดเซียวดูแล้วไม่งามนัก
เพราะฉะนั้น "เสรีภาพ"ชอง "ประชาธิปไตย" จะต้องมีสติสัมปชัญญะอย่างถูกต้อง ไม่บิดเบือน ย่อมทำให้ดอกไม้ของเสรีภาพสวยงามแน่นอน!!
สำหรับเหตุการณ์ของ "ประชาธิปไตย" ในเมียนม่าร์ หรือ"พม่า" เพื่อนบ้านใกล้ชิดของคนไทยที่เบิกบานมาเกือบ 10 ปี ก็โดนทหารสั่งให้หยุดชะงักเว้นวรรคในภาวะ "สถานการณ์ฉุกเฉิน" ระยะเวลา 1ปี
โดย "พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย" ผู้บัญชาทหารสูงสุดของเมียนมาร์ ทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของ "ออง ชาน ซูจี" เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ฉลองเดือนแห่งความรักวาเลนไทน์
การปฏิวัติรัฐประหารของพม่าไม่มีการฉีกรัฐธรรมนูญเหมือนการยึดอำนาจของ "ทหารไทย" เพราะรัฐธรรมนูญของประเทศพม่าเปิดช่องให้ "ทหาร" ยึดอำนาจได้โดยใช้คำว่า "สถานการณ์ในภาวะฉุกเฉิน"
ผลสะเทือนของการปฏิวัติในประเทศพม่า ไม่มี "ม็อบ" ในประเทศออกมาประท้วงต่อสู้กับรถถังทันทีทันใด มีเพียงประชาชนออกมาตีเกราะเคาะไม้ ถ้วย ถัง กาละมัง หม้อ เพื่อขับไล่สิ่งขั่วร้ายออกไปจากประเทศ
และก็มีบุคลากรทางการแพทย์และบุคคลบางกลุ่มชู 3 นิ้ว เลียนแบบม็อบ 3 นิ้วของเมืองไทยโชว์ภาพทางโซเซียลมีเดีย!!
แต่อีก 4-5 วันก็มีรายงานข่าวออกมาว่า ประชาชนชายหม่องจำนวนมากในนครร่างกุ้งออกมาเดินขบวนประท้วงต้านการรัฐประหารของ "ท่านผู้นำ มิน อ่อง หล่าย" โดยยังไม่มีเหตุปะทะระหว่างทหารกับประชาชนชาวหม่อง
ส่วนจะมีเหตุการณฺ์รุนแรงอื่น ๆ ในวันต่อ ๆ มาภายในพม่าหรือไม่ ก็ไม่มีข่าวเล็ดลอดออกมา เพราะทหารผู้กุมอำนาจประเทศสั่งบล็อกการสื่อสารต่าง ๆ ไม่ให้แพร่ภาพและข่าวด่วนไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต ทวิตเตอร์หรืออินสตาแกรม!!
แต่เรื่องราวต่าง ๆ บนโลกนี้ปิดกันไม่มิด อีกไม่นานเกินรอจะมีข่าวออกมาให้ชาวโลกได้รู้ว่ามีอะไรเหตุรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่??
เชื่อว่าในเวลาต่อมาจะมีชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในประเทศประชาธิปไตยต่าง ๆ รอเวลารวมตัวยออกมาชุมนุมประท้วงตามสิทธิเสรีภาพชองประเทศนั้น ๆ ให้โลกรับรู้ว่าต้องการประชาธิปไตย ไม่ต้องการปฏิวัติ
สำหรับชาวพม่ากลุ่มหนึ่งในไทยเคลื่อนไหวรวดเร็วกว่า เพราะภายหลังทหารพม่าล้มประชาธิปไตยไปได้ 1วัน ได้รวมตัวไปนั่งประท้วงหน้าสถานทูตพม่าในไทยอย่างสงบ!!
แต่ก็ถูกแย่งซีนจาก "ม็อบ" ไทยที่ไปเฮโลเย้ว ๆ หน้าสถานทูตพม่าให้ทหารพม่าคืนประชาธิปไตยของให้แก่คนพม่าโดยเร็ว พร้อมทั้งปาระเบิดควันใส่เจ้าหน้าที่่ตำรวจที่มาป้องกันเหตุด่วนร้ายให้รู้ว่า "ม็อบ"ของไทยดังกว่า??
และแน่นอนประเทศมหาอำนาจ "ประชาธิปไตย" พี่เบิ้มสหรัฐอเมริกาได้ออกโรงสั่งให้ ทหารพม่ารีบคืนอำนาจให้แก่ประชาชน พร้อม ๆ กับประเทศประชาธิปไตยชาติตะวันตกหลายประเทศก็ออกมาขู่เช่นกัน
ส่วนกลุ่มประเทศอาเซ๊ยนต่างสงบปากไม่วิพากย์วิจารณ์เหตุการณ์ภาวะฉุกเฉินในพม่า เพราะสัตยาบรรณของอาเซียนที่ประเทศพม่าเป็นสมาชิกด้วยนั้นได้ระบุว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายในของแต่ละประเทศ
สำหรับยักษ์ใหญ่ของโลกคือ "จีน" ที่ปกครองในระบบคอมมิวนิสต์สังคมนิยมแบบจีน ๆ ก็ไม่มีการประณามพม่าแต่อย่างไร??
อย่างไรก็ตามการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของประะเทศพม่าของประเทศพี่เบิ้มทางประชาธิปไตยฝั่งขาติตะวันตก หรือ สหรัฐอเมริกาจะติดตามมาแน่นอน เพื่อให้รัฐบาลทหารพม่าปวดหัวกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศตนเองที่ย้งต้องต่อสู้กับภัยร้าย "โควิด-19"
การยึดอำนาจรัฐประหารของ "ทหารพมา " ส่งผลสะเทือนมาถึง "ทหารไทย" เพราะนักเคลื่อนไหวทางการเมืองถือโอกาสด่า "ทหารไทย" ไปด้วยความสะใจของปากต้วเอง!!
เหมือนอย่างที่เกิดแผ่นดินไหวในประเทศพม่าหลังจากที่ "ทหารพม่า" ปฎิวีติ 3-4 วัน ที่มีแรงสะเทือนให้ในภาคเหนือนบางจังหวัดรู้สึกยังไงยังงั้น
ผู้นำยึดอำนาจประเทศพม่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หลายฝ่ายได้มีการขุดคุ้ยประวัติออกมาให้ได้รับรู้กันอย่างทั่วถึงในเมืองไทย โดยเฉพาะมีสายสัมพันธ์อันดีกับนายทหารไทยหลายคนแบบซี้ปึ้กทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีการปูดอีกว่าสนิทสนมกับ "เสี่ยแม้ว" ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างดีสมัยที่ "มิน อ่อง หล่าย" กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่่งแรงในแวดวงทหารของพม่า
ถ้าผู้ที่สนใจการบ้านการเมืองย่อมจำได้ว่า "พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย" ได้เดินทางมาเคารพศพ พล.อ.เปรม ติณสูลสานนท์ ประธานองคมนครี และรัฐบุรุษที่ถึงแก่อสัญกรรมเพียงไม่กี่วัน พร้อมทั้งมีการเปิดเผยว่า "พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย" เป็นบุตรบุญธรรมของ "ป๋าเปรม"
ซึ่ง พล.อ.อาวุโส มืน อ่อง หล่ายได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองเคารพรัก "ป๋าเปรม" มาก และสอนให้ตนระลึกเสมอวา "ต้องตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด"
ฮ่า ฮ่า ไม่รู้จะตีความได้หรือไม่ว่า การตอบแทนคุณแผ่นดินเกิดของ "ท่านผู้นำ มิน อ่อง หล่าย" คือการตอบแทนด้วยการ "รัฐประหาร" ประเทศตนเอง??
จนถึงวันนี้ ยังไม่มีข่าวปูดข่าวปล่อยข่าวลือว่า "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สนิทสนมกลมเกลียวกับ "พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย" ทางด้านไหน!?!
เพราะฉะนั้นต้องเงี่ยหูฟังทุถ ๆ วันว่าจะมีการปล่อยข่าวเกี่ยวกับ "ลุงตู่" กับ น้อง "มิน อ่อง หล่าย" อะไรบ้างที่จะหาเรื่องหาเหตุนำมาโจมตีทางโซเซียลมีเดีย??
ที่แน่ ๆ "พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย" ทำการยึดอำนาจรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเลียนแบบ "ลุงตู่" ที่เคยทำมาก่อนเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 7 ปี!!
ส่วนจะเลียนแบบขอเวลาอีกไม่นานเป็นเวลา 4-5 ปีเพื่อให้มีเลือกตั้งใหม่เหมือน "ลุงตู่" หรือไม่ ต้องตามดู "ภาวะฉุกเฺฉิน" ในพม่าทุก ๆ ปี!!
จบข่าว สวัสดี มิง กะ ลา บา!!
Social Links