ปิดฉากเกมปรับ ครม. เปิดฉากต่อท่ออำนาจ!?!
เกมปรับ ครม.ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ก็ได้ปิดฉากลงไปแล้ว หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศรายขื่อ 9รัฐมนตรีที่หลุดจากตำแหน่ง รายชื่อ 10 รัฐมนตรีที่เข้ามาใหม่ และสลับตำแหน่งรัฐมนตรีเดิมจำนวน 8 รัฐมนตรี เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 24 พ.ย.60 ที่ผ่าน ส่งผลให้การปรับครม.ของ “บิ๊กตู่” ณ วันนี้ เป็นครม.”บิ๊กตู่” 5 ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นการปรับครม.ครั้งสุดท้ายก่อนหมดวาระลงตามโรดแมปของ คสช.เองที่ได้วางกำหนดเอาไว้ช่วงปลายปี 2561
การปรับครม.หนนี้ “บิ๊กตู่” มีรัฐมนตรีที่มาจากพลเรือนมากกว่าทหาร เหมือนให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลพลเรือน!?!
เพราะ “บิ๊กตู่” ให้ทหารที่ร่วมกันเป็น คสช.กันมาหลุดจากเก้าอี้ไป 3 นายพลคือ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ต้องบ๊ายบายจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย อดีต ผบ.ทหารเรือ ต้องอำลาจากเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต ผบ.ทบ. ช่วงที่ “บิ๊กตู่” ยึดอำนาจนั้น พล.อ.อุดมเดช เป็นรอง ผบ.ทบ. ปิ๋วจากตำแหน่ง รมช.กระทรวงกลาโหม หลุดจากวงโคจรคณะ ครม.”บิ๊กตู่” ไปแล้วไปเลย!!
สำหรับ 3 ทหารเสือ “บิ๊กตู่” “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กป๊อก” ยังเหนียวแน่นในเก้าอี้เดิมที่ไม่มีใครมาเขย่าให้สั่นสะเทือนได้??
ส่วนทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจของ “เสี่ยกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้ว่าจะโดนนักการเมืองถล่มดิสเครดิตอย่างหนักหน่วงว่าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ผล
ซึ่งเป็นไปตามคาดว่าต้องมีเสียงสะท้อนจากฝ่ายการเมืองที่มีความเห็นต่าง บางฝ่ายก็ว่าผิดฝาผิดตัว ไม่มีอะไรที่ดีขึ้น เพราะที่ผ่านมา 3 ปีไร้ผลงานอะไรเลย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน แล้ว ครม. “บิ๊กตู่ 5” ที่เหลือเวลาเพียงปีเศษก็คงสร้างผลงานอะไรไม่ได้เหมือนเดิม ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นอะไรได้
แต่บางพวกก็ว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ถูกฝาถูกตัว โดยเฉพาะภาคเอกชนหนุนการปรับ ครม.ครั้งนี้ ส่วนประชาชนคนธรรมดาน่าจะรู้สึกเฉยๆ มากกว่ารู้สึกอย่างอื่น รัฐมนตรีใหม่ที่เข้ามาเปิดบริสุทธิ์ทางการเมือง เชื่อว่าชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่ค่อยมีใครรู้จักแน่ บางคนอาจเคยได้ยินแต่ชื่อแว่วๆ เข้ารูหูเท่านั้น
ทางด้านความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังปรับครม.”บิ๊กตู่” 5 นักการเมืองจากพรรคการเมืองใหญ่ทั้งพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ สะท้อนความเห็นไปแนวทางเดียวกันที่จะต่อต้าน “บิ๊กตู่” อยู่ยาว แต่จะต้านได้แค่ไหน ณ วันนี้คงไม่มีคำตอบ??
จำกันได้ไหมที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยเปรียบเปรยไว้ว่า “ลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ” ซึ่งที่ผ่านๆ มาทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบหแห่งชาติ (คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะกรรมาการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หรือสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ได้พ้นสภาพไปแล้วนั้น ทุกฝ่ายตามใจแป๊ะ ไม่เคยขัดใจเลย
มีการวิเคราะห์เจาะลึกมาว่า เป็นความฝันดีของ “แป๊ะ” ที่ต้องการสร้างประชาธิปไตยแบบไทยนิยมให้แก่ประเทศชาติ โดยให้มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อความยั่งยืน มั่นคง และมั่งคั่ง ต่อระบบประชาธิปไตยสำหรับไทยแลนด์โอนลี่
คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ก็ตามใจแป๊ะ ต้องเขียนบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญใหม่ (2560) ในหมวด 6 แนวนโนบายแห่งรัฐ มาตรา 65 ดังนี้
“รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่างๆ ให้สอดคล้อง และบูรณาการกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว”
นอกจากนี้ ก็ได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นกันว่าให้ดำเนินการออกกฎหมาย “พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2560” และให้แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ
ซึ่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะจั่ดทำยุทธชาติ ได้แต่งตั้งไปเรียบร้อยแล้ว โดยมี “บิ๊กตู่” เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อที่จะได้ดูแลควบคุมยุทธศาสตร์ 20 ปีให้เป็นไปดังฝันให้ไกลไปให้ถึง
เมื่อยุทธศาสตร์ชาติมีผลบังคับใช้แล้ว จะเป็นผลให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องแถลงนโยบาย และเสนองบประมาณให้สอดคล้องกับตัวยุทธศาสตร์ชาติ ถ้าไม่ทำตามก็ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ!?!
เรื่องตามใจแป๊ะที่สำคัญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญก็ตามใจด้วยความภาคภูมิใจด้วยการร่างกฎหมายว่าด้วยที่มาของ ส.ส.ที่มีสูตรคำนวณจัดสรรปันส่วนให้ทุกพรรคการเมืองมี ส.ส.เข้ามาในสภา ฯ ได้ แต่ทำให้พรรคการเมืองไม่มีพรรคไหนมีเสียงเกินครึ่งคือ 250 คนของจำนวน ส.ส. 500 คน
สำหรับกฎหมายว่าด้วยที่มา ส.ว. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญตามใจอีก คือให้มาจากการแต่งตั้งสรรหา และตามใจที่สำคัญสุดๆ คือให้ ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทหารบก ผบ.ทหารเรือ ผบ.ทหารอากาศ ผบ.ตำรวจ และปลัดกระทรวงกลาโหม เป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง!!
ความเคลื่อนไหวตามใจล่าสุดที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญ โดยให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ตรงคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่ในตำแหน่งต่อไปจนถึงวันเปิดประชุมสภาผู้แทนฯ !!
ปรากฏว่านักการเมืองทุกพรรคและนักวิชาการประสานเสียงตรงกันด้วยความสงสัยว่า ใครสั่งมาหรือตามใจใครให้ สนช.แก้ไขแบบนี้ เพราะอาจขัดรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งการท้วงติงที่ออกมาว่าฟังเหตุผลชองการแก้ไขประเด็นดังกล่าวเหมือนมีเหตุผลที่ไม่มีเหตุผล!?!
บางคนก็แสดงความเห็นที่น่าจะมีเหตุผลว่า ถ้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญขัดรัฐธรรมนูญเอง แล้วจะวินิจฉัยปัญหาการขัดรัฐธรรมนูญขององค์กรอื่นได้อย่างใด ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด เมื่อการแก้ไขกฎหมายลูกขัดกับรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายแม่ กฎหมายนั้นย่อมเป็นโมฆะ!!
ก็ไม่รู้ว่า สนช.จะมีการเปลี่ยนใจให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ หรือยอมตามใจใครเหมือนเดิม โดยไม่สนใจปัญหาที่จะติดตามมาในอนาคต หรือว่าเป็นเกมหนึ่งของประชาธิปไตยไทยๆ อีกแบบหนึ่ง??
ดังนั้น เราๆ ท่านๆ ไม่ควรพูดจาไม่ดี หรือบิดเบือน ให้ความเห็นที่ก่อความขัดแย้ง ในช่วงประเทศชาติกำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่โรดแมปการเลือกตั้ง
นับจากวันนี้เป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวของสถานการณ์การเมืองอาจจะมีอะไรตามใจในหลายๆ เรื่องโผล่มาอีกก็ได้ในเรื่องการต่อท่อหรือยืดแห่งอำนาจ??
ใครๆ ย่อมรู้ว่าการออกแบบประชาธิปไตยลงเรือแป๊ะ ตามใจแป๊ะ ที่จะเดินหน้าไปวันข้างหน้า จึงต้องช่วยกันให้เรือแล่นฝ่าพายุการเมืองพายุทธศาสตร์ชาติยั่งยืนมั่งคงตลอด 20 ปี จริงไหม ท่านพ่อแม่พี่น้อง!!
นี่ถามประชาชนนะ ไม่ได้ถามนักการเมือง โปรดรับทราบ!!
นายจักรยาน
Social Links