ปีใหม่เดินทางปลอดภัยด้วยประกันภัย คปภ.เปิดสายด่วน 1186 บริการ 24 ชั่วโมง

ปีใหม่เดินทางปลอดภัยด้วยประกันภัย คปภ.เปิดสายด่วน 1186 บริการ 24 ชั่วโมง

ปีใหม่เดินทางปลอดภัยด้วยประกันภัย

คปภ.เปิดสายด่วน 1186 บริการ 24 ชั่วโมง

            คปภ. ห่วงใยประชาชน รณรงค์ “ปีใหม่เดินทางปลอดภัย ด้วยการประกันภัย”  ได้ปฐมฤกษ์เปิดศูนย์บริการ สายด่วน คปภ. 1186 ให้บริการ Hotline 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วันอันตรายพร้อมนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ โดยจัดทำ Platform รายงานอุบัติภัยเพื่อสามารถบริการและช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว

                ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึง การเตรียมความพร้อมเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะช่วงเข้มข้นระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560 – 3 มกราคม 2561 ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าช่วงเวลาวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ของทุกปี จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว และมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองรื่นเริงเป็นจำนวนมาก จึงอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุสูงกว่าช่วงเวลาปกติ  ดังนั้น ปีใหม่ 2561 สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 จึงได้จัดโครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลนี้ ภายใต้ธีมงาน “ปีใหม่เดินทางปลอดภัย ด้วยการประกันภัย”ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ สร้างกระแสให้เกิดการรับรู้ กระตุ้นจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์และรถยนต์ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะการประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ และส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงระบบการประกันภัยให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนกิจกรรมให้บริการช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัยทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคขึ้น และปฐมฤกษ์เปิดศูนย์บริการสายด่วน คปภ. 1186 อย่างครบวงจร ให้บริการ Hotline 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่

                ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ได้ร่วมกันดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถ ให้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงที รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม โดยได้มีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่าย เพื่อรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนทั้งในส่วนกลางและในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ นอกจากนี้ได้มีการมอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กนักเรียนในโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ เพื่อใช้สวมใส่ทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ สำหรับในส่วนภูมิภาคผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.ภาค/จังหวัด และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ได้เข้าร่วมบูรณาการกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศูนย์ประจำจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัด เพื่อรณรงค์การขับขี่ปลอดภัย รวมทั้งให้บริการประชาชนตลอดช่วงเทศกาลดังกล่าวด้วยเช่นกัน

                สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานของรัฐ และเป็นนายทะเบียนตามกฎหมาย ได้ขับเคลื่อนมาตรการด้านการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการไปแล้วในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น 1) การปรับแก้ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เรื่องลดปริมาณแอลอกฮอล์  ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกกำหนด ในเรื่อง “การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์” ให้ถือว่า “เมาสุรา” จะไม่ได้รับความคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สิน  2) มาตรการให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยอัตราร้อยละ 5-10 ของเบี้ยประกันภัยสุทธิให้แก่ผู้เอาประกันภัยที่ติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ภายในรถยนต์ และ 3) การสนับสนุนให้ประชาชนจัดทำประกันภัยรถยนต์ ตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ปลอดแอลกอฮอล์ โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภทเป็นส่วนลดอื่นในอัตราร้อยละ 10 ของเบี้ยประกันภัยสุทธิและล่าสุด สำนักงาน คปภ. ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับ “รางวัลองค์กรดีเด่นด้านการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนน ประจำปี 2560” หรือ Prime Minister Road Safety Awards 2017 ที่มีผลงานด้านการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนมาอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลของท่านนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องลงทุนเพื่อความปลอดภัยทางถนนที่ยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ร่วมกับ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา

                เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ถือเป็นเทศกาลส่งความสุข สำนักงาน คปภ. จึงได้ร่วมกับทั้ง 2 สมาคม ออกของขวัญพิเศษให้กับประชาชน คือผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง โดยเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยอุบัติเหตุแบบพิเศษ หรือ “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเทศกาลสุขใจ หรือประกันภัย 100” มีเบี้ยประกันภัยราคาถูกเพียง 100 บาทต่อปี ความคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท และกรมธรรม์ที่ต่อยอดจากกรมธรรม์ประกันภัย 100 คือ “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ สุขใจพลัส หรือประกันภัย 222” มีเบี้ยประกันภัย 222 บาทต่อปี จะให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนของผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากอุบัติเหตุไม่เกิน 5,000 บาทต่อปี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เหมือนกับกรมธรรม์ประกันภัย 100 ซึ่งสำนักงาน คปภ. ในฐานะนายทะเบียน ได้มีคำสั่งเห็นชอบให้บริษัทประกันภัย ขายแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2560 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 เมื่อซื้อแล้วจะคุ้มครอง 1 ปี ซึ่งประชาชนสามารถหาซื้อได้ง่ายที่ช่องทางจำหน่ายต่างๆ ที่สะดวกใกล้บ้าน เช่น  เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่อยู่ในเซเว่นอีเลฟเว่น, เทสโก้โลตัส, ไปรษณีย์ไทย และทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ รวมถึงตัวแทน นายหน้าของบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ

                ยิ่งไปกว่านั้น สำนักงาน คปภ. ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการและช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัยอย่างรวดเร็วและทันท่วงที เมื่อเกิดเหตุในช่วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่นี้ โดยได้เพิ่มประสิทธิภาพของการรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ด้วยการจัดทำ Platform การรายงานข้อมูลอุบัติภัยขึ้นเป็นครั้งแรก ทั้งในส่วนของบริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต และสำนักงาน คปภ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้มีความสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับและติดตามการช่วยเหลือด้านการประกันภัยกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ ซึ่งมีรองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดีและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เป็นประธานคณะกรรมการ ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ.ได้มีการประชุมชี้แจงรูปแบบของการรายงานให้แก่ผู้แทนของบริษัทประกันวินาศภัยและบริษัทประกันชีวิต รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป โดยขั้นตอนการรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์มีวัตถุประสงค์เพื่อกำกับติดตามให้บริษัทประกันภัยรายงานกรณีเกิดอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ และติดตามเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ และผู้เสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัย ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยกรณีเมื่อเกิดมีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ให้สำนักงาน คปภ. จังหวัด/เขต ในพื้นที่เกิดเหตุ จะเข้าระบบรายงานและเป็นผู้ตั้งเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะการเกิดเหตุในเบื้องต้น และแจ้งบริษัทประกันภัยโดยระบบจะส่งอีเมล์ถึงผู้ประสานงานของบริษัทเพื่อให้บริษัทดำเนินการตรวจสอบและเพิ่มเติมข้อมูล จากนั้นบริษัทประกันภัยจะต้องรายงานข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทรับประกันภัยและเกี่ยวกับเหตุที่เกิด เช่น ความคุ้มครองและสถานะของกรมธรรม์ประกันภัย จำนวนเงินเอาประกันภัย ระยะเวลาความคุ้มครอง และรายงานรายละเอียดความเสียหายหรือความสูญเสียในแต่ละกรมธรรม์ที่บริษัทได้แจ้งไว้ เช่น จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ/ผู้เสียชีวิต จำนวนความเสียหาย เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยมีหน้าที่จะต้องรายงานข้อมูลผ่านระบบภายใน 3 ชั่วโมง นับแต่ที่ได้รับแจ้ง ผลจากการจัดทำ Platform การรายงานข้อมูลอุบัติภัยนี้ จะทำให้สามารถเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัย ซึ่งเกิดอุบัติภัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

                “สำนักงาน คปภ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยว จะขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท โดยขอความร่วมมือให้ผู้ใช้รถยนต์คาดเข็มขัดนิรภัย    ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย เมาไม่ขับ พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมสภาพร่างกายและตรวจสภาพรถให้พร้อม และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้  สิ่งที่สำคัญก่อนการเดินทาง ขอให้ตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยและวันหมดอายุของการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ด้วย และขอเชิญชวนประชาชนที่จะเดินทางได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุดังกล่าวไว้ด้วย  แม้ว่าการทำประกันภัยไม่สามารถป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้  แต่การบริหารความเสี่ยงเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงภัย หากเกิดอุบัติเหตุแล้ว การประกันภัยสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ ทั้งนี้ ในช่วง 7 วันอันตราย สำนักงาน คปภ. ได้เปิดให้บริการรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทางสายด่วน คปภ. 1186 และสำนักงาน คปภ.ในส่วนภูมิภาคได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลดังกล่าวด้วยเช่นกัน หรือสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. กล่าว

You may also like

คปภ.เดินหน้า! เปิดเวทีสัมมนาวิชาการด้านประกันภัย ประจำปี 2567 “Thailand Insurance Symposium 2024”

 นายชูฉั