พลิกโฉม“ภูเก็ต-กระบี่-พังงา” สู่ “อันดามัน แซนบ๊อกซ์”

พลิกโฉม“ภูเก็ต-กระบี่-พังงา” สู่ “อันดามัน แซนบ๊อกซ์”

พลิกโฉม“ภูเก็ต-กระบี่-พังงา”

สู่ “อันดามัน แซนบ๊อกซ์”

                จุรินทร์”ประชุมบูรณาการ 3 จังหวัดรับ ”ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” พร้อมเดินหน้าปรับ”ภูเก็ต-กระบี่-พังงา”เป็น “อันดามัน แซนด์บ็อกซ์”ในอนาคต

                นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมประชุมกับ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พันตำรวจโท หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ตัวแทนภาครัฐและภาคเอกชน จังหวัดภูเก็ต พังงาและกระบี่

                หลังการประชุม โดยนายจุรินทร์ เป็นประธานประชุมเขตตรวจราชการแบบมินิสามจังหวัดภูเก็ต-พังงา-กระบี่ ต่อเนื่องจากการประชุมทีมเซลล์แมน จังหวัดภูเก็ต เพื่อบูรณาการ การท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ณ โรงแรมกระบี่รี สอร์ท นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้เชิญทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการค้ามาหารือร่วมกัน 3 จังหวัด คือ จังหวัดกระบี่ ภูเก็ตและพังงา ประเด็นสำคัญเพื่อเตรียมการบูรณาการ 3 จังหวัด เรื่อง “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”ซึ่งเป็นภูเก็ตโมเดล เริ่มต้นในการทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 การบูรณาการร่วมกันภายใต้เงื้อนไขที่ 3 จังหวัด ได้รับวัคซีนตามเป้าหมายที่กำหนดและมีการกระจายวัคซีนครบถ้วนตามเป้าหมาย ประกอบด้วยจังหวัดภูเก็ต เมษายน-สิงหาคม 930,000 โดสจังหวัดพังงา เมษายน-กันยายน 320,000 โดส และจังหวัดกระบี่ เมษายน-สิงหาคม 730,000 โดส คำนวณจากเป้าหมายที่ต้องฉีดวัคซีนร้อยละ 70 ตามกติกาที่ ศบค.กำหนดไว้

                วันนี้มีข้อสรุปร่วมกัน 4 ข้อ เพื่อให้ตนนำความเห็นของที่ประชุมเสนอต่อ ศบค.และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

                ประการที่หนึ่ง เรื่องการกระจายวัคซีนในส่วนของจังหวัดภูเก็ตจะเร่งดำเนินการกระจายวัคซีนให้ครบร้อยละ 70 ตามเป้าหมายที่กำหนดภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพื่อเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ส่วนจังหวัดภูเก็ตกับพังงาจะเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ 70% ในพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษที่แต่ละจังหวัดกำหนดขึ้น เช่น เกาะพีพี เกาะเล เกาะไหง เขาหลัก เกาะยาว เป็นต้น เพื่อรับนักท่องเที่ยวเมื่อครบกำหนดกักตัวที่จังหวัดภูเก็ตจะได้มาท่องเที่ยวที่จังหวัดพังงาและกระบี่ต่อไป

                ประการที่สอง จะกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดที่เรียกว่า sea route เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พ้นเวลากักตัวจากจังหวัดภูเก็ตเดินทางมาจังหวัดพังงากับกระบี่สามารถแวะตามจุดต่างๆที่กำหนดได้ ซึ่งจะประชุมต่อไปว่ามีจุดไหนบ้างและจะมีการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ในแต่ละจุด

                ประการที่สาม ในที่ประชุมแจ้งว่าถ้าเป็นไปได้ขอให้ ศบค.ปรับเงื่อนไขการกักตัวจาก 14 วันเหลือ 7 วัน ซึ่งตนจะนำข้อเสนอต่อในที่ประชุม ศบค.ต่อไป

                และประการที่สี่ ที่ประชุมได้มอบหมายให้จังหวัดพังงากับจังหวัดกระบี่เร่งดำเนินการเตรียมการเพื่อนำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์โมเดลไปขยายผลใน 2 จังหวัดต่อไป ในอนาคตถ้าประสบความสำเร็จ จะทำให้พื้นที่การท่องเที่ยวทั้ง 3 จังหวัด ภูเก็ต กระบี่และพังงากลายเป็นพื้นที่ “อันดามันแซนด์บ็อกซ์”ต่อไป เพื่อรองรับการท่องเที่ยวร่วมกัน

 

You may also like

สคบ.เดินหน้า เหตุร้องเรียนห้องพักอาศัย อาคาร Chareeya Residence ย่านรังสิต

สคบ.เดิน