ฟรุ้ทบอร์ด (Fruit Board) เห็นชอบแผนพัฒนาผลไม้ ปี 2565-2570 ฉบับใหม่ ไฟเขียวแผนบริหารผลไม้ภาคตะวันออก-เหนือ

ฟรุ้ทบอร์ด (Fruit Board) เห็นชอบแผนพัฒนาผลไม้ ปี 2565-2570 ฉบับใหม่ ไฟเขียวแผนบริหารผลไม้ภาคตะวันออก-เหนือ

ฟรุ้ทบอร์ด (Fruit Board) เห็นชอบแผนพัฒนาผลไม้ ปี 2565-2570 ฉบับใหม่

ไฟเขียวแผนบริหารผลไม้ภาคตะวันออก-เหนือ

          อลงกรณ์” เผยเตรียมปรับโครงสร้างบริหารจัดการใหม่ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำภายในมิถุนายนนี้ ภายใต้ ”5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” และโมเดล ”เกษตรผลิต-พาณิชย์ตลาด” เพื่อปฏิรูปไม้ผลทั้งระบบพร้อมดึงทูตเกษตรทูตพาณิชย์ทั่วโลก และศูนย์ AIC ร่วมขับเคลื่อนขยายตลาดผลไม้ไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

          นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ (9เม.ย.) หลังจากได้รับมอบหมายจากดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 3/2564 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการพัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2565 – 2570 ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ 13 กลยุทธ์ ได้แก่

          ▪ยุทธศาสตร์ที่ 1 เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการผลไม้ในการผลิตและยกระดับมาตรฐานสินค้าไม้ผล

          ▪ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดไม้ผลด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

          ▪ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างความเข้มแข็งและความเสมอภาคให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรไม้ผล

          ▪ยุทธศาสตร์ที่ 4 บริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการผลิตผลไม้ครบวงจร

          ▪ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนาเครือข่ายการส่งออกและระบบโลจิสติกส์

          โดยที่ประชุมให้เปลี่ยนชื่อจากแผนปฏิบัติการด้านพัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2565 – 2570 เป็น.“แนวทางการพัฒนาผลไม้ ไทย พ.ศ. 2565 – 2570”ตามข้อเสนอแนะของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และมีมติมอบหมายฝ่ายเลขาจัดประชุมโฟกัสกรุ๊ปพิจารณาการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการผลไม้ทั้งระบบซึ่งใช้รูปแบบเดิมมากว่า 10 ปี โดยให้เสนอในการประชุมฟรุ้ทบอร์ดครั้งหน้าในเดือนมิถุนายนนี้ ให้สอดรับกับแนวทางการพัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2565 – 2570 ภายใต้ ”5ยุทธศาสตร์การปฏิรูปภาคเกษตรกรรม” ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) และโมเดล ”เกษตรผลิต-พาณิชย์ตลาด”

          ซึ่งขับเคลื่อนร่วมกันระหว่าง นายจุลินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพาณิชย์ กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

          นอกจากนี้ ฟรุ้ทบอร์ดยังมีมติเห็นชอบอีก 3 วาระสำคัญคือ

          1. แผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก (ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง) ปี 2564 ซึ่งจะมีการบริหารจัดการทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ และการทำตลาดล่วงหน้า (Pre-order) โครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพไม้ผลสู่มาตรฐานและยกระดับสู่การรับรอง GAP  โครงการเกษตรอินทรีย์ การจัดตั้งกลุ่มผู้ผลิตไม้ผลคุณภาพ การลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพผลผลิต เป็นต้น

          2. แผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ (ลิ้นจี่) ปี 2564 ในการจัดการเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ทั้งก่อนการเก็บเกี่ยว และหลังการเก็บเกี่ยว 

           3. การเพิ่มครัวเรือนเป้าหมายโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 โดยขยายจำนวนครัวเรือนเป็น 202,173 ครัวเรือน ภายในวงเงินงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 3,440 ล้านบาท

          ในการประชุมครั้งนี้ นายฉันทานนท์ วรรณขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เสนอรายงานการผลิตไม้ผล ปี 2564 (ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคใต้) ว่า ผลผลิตลำไยในภาคเหนือจะเพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 806,414 ตัน เป็น 979,371 ตัน ลิ้นจี่เพิ่มขึ้นจาก 29,425 ตัน เป็น 30,716 ตัน

          ภาคตะวันออก ทุเรียนเพิ่มขึ้นจาก 550,035 ตันเป็น 575,542 ตัน มังคุดลดลง จาก 212,345 ตัน เป็น 106,796 ตัน เงาะลดลง จาก 210,637 ตัน เหลือ 197,708 ตัน ลองกองลดลงจาก 22,484 ตัน เหลือ 20,080 ตัน

           ภาคใต้ผลผลิตทุเรียน เพิ่มขึ้นจาก 518,896 ตันเป็น 609,813 ตัน มังคุดเพิ่มขึ้นจาก 122,616 ตัน เป็น 155,538 ตัน เงาะเพิ่มจาก 43,119 ตันเป็น 55,047 ตัน ลองกองเพิ่มจาก 34,396 ตันเป็น 48,417 ตัน

          ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบโครงการพัฒนา Ecosystem เพื่อจำหน่ายผลไม้ไทยครบวงจรบนแพลตฟอร์มออนไลน์ งบประมาณ 1ล้านบาท ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมประชาสัมพันธ์ บริษัทไปรษณีย์ไทย กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะอนุกรรมการอีคอมเมิร์ซ กระทรวงเกษตรฯ เพื่อเพิ่มช่องทางตลาดออนไลน์แบบสั่งซื้อล่วงหน้า (Pre-order) เป็นกลไกการขายเชิงรุก

          โดยให้ใช้งบประมาณบริหารจัดการการตลาดที่ฟรุ้ทบอร์ดอนุมัติ โดยให้กรมการค้าภายในของกระทรวงพาณิชย์ รับผิดชอบ และยังมีมติให้นำเสนอแผนงานกิจกรรมและงบประมาณ 492 ล้านบาท ทั้งที่ดำเนินการแล้ว และที่จะดำเนินการในช่วงครึ่งหลังของปี 2564

          ในการประชุมคราวหน้าตามแนวทางใหม่ที่ให้ลดงาน และงบประมาณประเภทงานอีเวนท์ โดยให้เพิ่มงานการกระจายการจำหน่ายขายตรง และทำตลาดออนไลน์ ออฟไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ

          นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมเดือนมิถุนายน จะเชิญทูตเกษตรและทูตพาณิชย์ทั่วโลก ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์เพื่อร่วมขับเคลื่อนการขยายตลาดผลไม้ไทยไปสู่ตลาดโลกมากขึ้น  รวมทั้งมอบฝ่ายเลขาประสานงานกับศูนย์ AIC (ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม: Agritech and Innovation Center) ทั่วประเทศ นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาผลไม้ไทย ตั้งแต่ระบบการผลิต การแปรรูป โลจิสติกส์ และการตลาด เพื่อเพิ่มประเทศ และขีดความสามารถในการแข่งขันของผลไม้ไทย เช่นเทคโนโลยีจุลินทรีย์ขจัดการปนเปื้อน และช่วยขยายการคงสภาพความสดของผลไม้ได้เพิ่มขึ้นโดย AIC จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น ตลอดจนให้ประสานกับคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมการแปรรูปผลไม้ เช่น โครงการมหานครผลไม้ในภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ ต้องมีอุตสาหกรรมแปรรูปผลไม้ในรูปแบบเขตชุมชนอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม และเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตามศักยภาพของพื้นที่  และที่ประชุมยังให้ฝ่ายเลขาพิจารณาเพิ่มผลไม้ที่มีอนาคต เช่น มะม่วง ฯลฯสู่การเป็นผลไม้เศรษฐกิจใหม่ๆ อีกด้ว

You may also like

4NOLOGUE ผนึก Poriin เล่นใหญ่ ปล่อยคอนเสิร์ตแห่งปี “FROSTY VILLAGE” ชวนแฟนๆจอยปาร์ตี้สนุกสุดขั้ว  

4NOLOGUE