มองการเมือง+เศรษฐกิจโลก แล้วย้อนมาดู “ไทย” ในปีหน้า (จบ)

มองการเมือง+เศรษฐกิจโลก แล้วย้อนมาดู “ไทย” ในปีหน้า (จบ)

มองการเมือง+เศรษฐกิจโลก

แล้วย้อนมาดู “ไทย” ในปีหน้า (จบ)

 

 

            สิ่งที่ทีมข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าว ThaiBCC.news รู้สึกเป็นห่วงมากกว่า คือ การที่คนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ เกิดความรู้สึกร่วมกัน ถึงการถูกบงการและชี้นำจากคนส่วนน้อย ที่อาศัยความขลาดเขลาและภาพความหวาดกลัวต่อสิ่งเลวร้ายในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มาเป็นตัวสร้างเงื่อนไขในการก่อปรากฏการณ์ที่อาจนำพาประเทศเข้าสู่มุมอับในทางการเมือง ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ

            หากความรู้สึกร่วมกันของคนส่วนใหญ่ ถูกจุดประกายและก่อกระแสต่อต้านขึ้นมา จากการที่คนอีกฝ่ายประสงค์จะควบรวม “การเมืองและศาสนา” เข้าไว้ด้วยกัน แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นตามมา…

            อย่าลืมว่า…ประเทศไทยเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม คือ มีวัฒนธรรมบนความเชื่อและความศรัทธาที่หลากหลาย กระทั่งบางส่วนได้ถูกหล่อหลอมกลายเป็นวัฒนธรรมเดียวกัน แต่หากไม่ใช่…ก็ยังจะสามารถอาศัยอยู่รวมกันได้อย่างสงบสุข

            กระทั่งคนส่วนใหญ่เกิดความรู้สึกที่ว่า…ไม่เป็นธรรม และมีการเอารัดเอาเปรียบจากคนบางกลุ่ม? ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในสังคมไทย สิ่งนี้…อาจกลายเป็นความเลวร้ายที่ฉุดรั้งให้สังคมไทยและเศรษฐกิจไทยตกต่ำและดำดิ่ง ยิ่งกว่าการถูกตัดความช่วยเหลือ และ/หรือ การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากประเทศตะวันตก เช่นที่เป็นอยู่ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา หลังการทำรัฐประหารของ คสช.

            เศรษฐกิจและการเมืองเป็นของคู่กัน โดยมีผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้ง เรื่องราวเหล่านี้ ถือเป็นสิ่งปกติธรรมดา หาได้เป็นความแปลกปลอมอันใดไม่? ทางกลับกัน หากมีการนำศาสนาและการเมือง มาควบรวมและสร้างเงื่อนไขเพื่อให้กลุ่มก้อนของตัวเองได้รับผลประโยชน์ ขณะที่คนอีกฝ่ายถูกกดทับต่อไปนั้น

            ยากจะคาดเดาว่า…จะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทยตามมา

            อย่างที่ทีมข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าว ThaiBCC.news เคยแสดงความเห็นเอาไว้ในคราวก่อน กรณี บทบาทรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ คสช. ที่แสดงออกต่อเวทีโลก โดยเฉพาะการเป็นประเทศเล็กๆ แต่ดันประกาศตัว “เลือกข้าง” ผ่านแรงกดดันจากคนกลุ่มนั้น? แทนที่จะ “งดออกเสียง” นั้น

            อาจนำพามหาวิบัติภัยมาสู่ประเทศไทยได้ แต่จะเป็นภัยในลักษณะใด? คงยากจะคาดเดา

 

            อย่างที่เคยเกริ่นเอาไว้…แผนยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของ “ชาติมหาอำนาจ” ที่ต้องการจะสร้าง “โลกใหม่” นั้น แน่นอน…ย่อมส่งผลกระทบวงกว้างต่อนานาชาติ และไทยก็เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ต้องได้รับผลกระทบที่ว่านี้

            หนึ่ง เพราะการแสดงบทบาทของรัฐบาลไทย ในเวทีระดับโลก ในช่วงที่ผ่านมา อีกหนึ่ง เพราะทำเลที่ตั้งของประเทศไทย ที่กลายเป็น…หนึ่งในไม่กี่จุดบนแผนที่โลก ที่มีความสำคัญต่อการสร้างเส้นทางเดินเรือและการค้าทางทะเล เชื่อมภูมิภาค…มหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกเข้าไว้ด้วยกัน

            ในเมื่อรัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ คสช.ไม่ได้เล่นบทบาทของตัวเองในจุดที่ควรจะเป็น แต่ดันไปเล่นบทบาทตามที่ถูกกดดันและชี้นำจากคนกลุ่มน้อยในประเทศนี้ มันก็น่าอยู่หรอกที่ “มหาอำนาจ” จะกลับมาเล่นสงครามการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งบนดินและใต้ดิน อย่างที่พวกเขาถนัด!

            ทีมข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าว ThaiBCC.news ถึงได้รู้สึกเป็นห่วงต่อสถานการณ์ของบ้านเมืองไทย นับจากวันนี้เป็นต้นไป ว่า…อาจจะถูกปลุกปั่นจาก “พลังอำนาจบางอย่าง” ซึ่งอยู่ภายนอกประเทศ เพื่อสร้างเงื่อนไขก่อเกิดอาจเป็นความขัดแย้งขั้นรุนแรงภายในประเทศ

            และสัญญาณนี้ ได้ทำให้คนบางกลุ่ม? รู้สึกสัมผัสและรับรู้ได้กันบ้างแล้ว ผ่านตัวละครสำคัญที่โลดแล่นอยู่ในต่างประเทศ

            สถานการณ์จากนี้จะเป็นอย่างไร? คงมิอาจจะคาดเดาได้ แต่ที่แน่ๆ ปัญหาครั้งใหม่…หากจะมี ย่อมส่งผลกระทบในวงกว้างต่อคนในสังคมไทยอย่างแน่นอน

            ความหวังจะได้เห็น…เศรษฐกิจไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจในเชิงโครงสร้าง ฝ่ายโครงการขนาดใหญ่ของรัฐมากมาย อาจไม่เป็นเช่นที่คาดหวัง? ตราบใดที่…ภาคส่วนต่างๆ ไม่อยู่ในจุดที่ควรอยู่ ไม่ได้ดำเนินบทบาทของตัวเองตามที่สังคมคาดหวังจะได้เห็น

            ถึงตรงนั้น เราคงได้เห็นกันว่า…ผลประโยชน์ที่เกิดจาก “การเมืองและเศรษฐกิจโลก” นั้น จะส่งผลกระทบใดๆ ต่อการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทย กันบ้าง

            ก็ได้แต่หวังใจว่า…สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น! และหากเกิดขึ้น คงไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงจนเกินไปนัก เพราะบ้านเมืองไทยและคนไทย บอบช้ำหนักมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง จนเกินไปแล้ว!!!.

 

ทีมข่าวเศรษฐกิจ

สำนักข่าว ThaiBCC.news

 

 

You may also like

คปภ.จับมืออุตฯประกันภัย นำร่องปลูกป่าฟื้นฟูต้นน้ำน่าน กว่า 20,000 ต้น พร้อมรณรงค์ความปลอดภัย เดินทางช่วงวันหยุด

คปภ.จับม