“รมต.จิราพรฯ”เดินหน้า!
สั่งปรับปรุง กม.คุ้มครองผู้บริโภคให้ทันยุค
รับเศรษฐกิจดิจิทัล–เสริมสิทธิผู้บริโภค
ในการดำเนินธุรกิจยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่การค้าขายไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ “หน้าร้าน” แบบเดิมอีกต่อไป ผู้ประกอบธุรกิจต่างหันมาใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น การขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชัน และการใช้โปรโมชันอัตโนมัติ เช่น ลด แลก แจก แถม หรือระบบสมาชิกออนไลน์อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม กฎหมายที่ใช้บังคับในปัจจุบัน อาทิ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ยังคงมีข้อจำกัดในการรองรับบริบทของการค้าสมัยใหม่ ที่มีความแตกต่างและมีพัฒนาการทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงได้ผลักดันให้มีการทบทวน ปรับปรุง และแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ให้มีความทันสมัย โดยมุ่งให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี พร้อมยกระดับการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคให้ครอบคลุมและเข้มแข็งยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาและจัดทำร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยมีหน้าที่วิเคราะห์ปัญหา ศึกษาข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน และยกร่างบทบัญญัติใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันต่อเนื่องในวันที่ 6 มิถุนายน 2568 สคบ. ได้จัด โครงการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 โดยเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อเสนอในการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ
(1) การลดขั้นตอนและเพิ่มความสะดวกในการร้องเรียนและดำเนินคดีละเมิดสิทธิผู้บริโภค
(2) การกระจายอำนาจการคุ้มครองผู้บริโภคสู่ระดับจังหวัด ให้คณะกรรมการจังหวัดสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
(3) การกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าสินค้าต่างประเทศต้องจัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้อง ก่อนผ่านพิธีการศุลกากร เพื่อสอดรับนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสิทธิของผู้บริโภคภายในประเทศ
และในวันที่ 18 มิถุนายน 2568 สคบ. ได้จัดเวที รับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย สะท้อนสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยไม่สร้างภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจเกินสมควร ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและการคุ้มครองผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่โปร่งใส ยุติธรรม และยั่งยืน
การขับเคลื่อนครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปกลไกคุ้มครองผู้บริโภคไทยให้ก้าวทันโลก และสร้างสมดุลระหว่างสิทธิผู้บริโภคกับเสรีภาพทางธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง สคบ. มีความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมอย่างยั่งยืน
THAI
Social Links