“ศ.ดร.สุชาติ”ชี้ GDP คือรายได้ของชาติไม่ใช่รายจ่าย
เสนอรัฐแก้ปัญหาที่ระบบ อย่าคิดเป็นเรื่องๆ
“ศ.ดร.สุชาติ”ชี้ GDP คือรายได้ของชาติ(มิใช่รายจ่าย) จะฟื้น GDP ต้องสร้างงานให้คนทำเยอะๆ ให้คนลงทุนมากๆ และขายผลผลิตได้มาก “การลงทุนและการส่งออกคือเครื่องยนต์ฟื้นเศรษฐกิจ” การแจกเงินเป็นเพียงบรรเทาความยากจน แต่ไม่ฟื้นศก.
ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า GDP คือรายได้ (มิใช่รายจ่าย) คนในชาติต้องไปทำงานไปผลิตของมาขายจึงจะได้ GDP เราเป็นประเทศเล็ก ผลผลิตจึงนำไปขายเป็นการส่งออก และท่องเที่ยว 70% ผลิตซื้อขายกันในประเทศ 30% การที่รัฐบาลแจกเงินเป็นการกระจายรายได้และบรรเทาความยากจน แต่ไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้

– GDP ไทยเติบโตต่ำมานาน เราอาจอ้างว่ามีคนแก่เยอะ, ระบบราชการเทอะทะ, คอรัปชั่นมาก, ระบบการศึกษาแย่, ยาเสพติดเยอะ, ทุนเทามีมาก, มีสงครามกับเพื่อนบ้าน, มีปัญหาความเชื่อมั่น, สิ่งเหล่าเป็นเรื่องระยะยาว ซึ่งก็คล้ายๆ เพื่อนบ้าน แต่ประเทศเพื่อนบ้านเจริญเติบโต เราไม่เติบโต
– รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาระบบเศรษฐกิจ (Macro) ระยะสั้น ที่รัฐบาลควบคุมได้คือ ดอกเบี้ยสูงไป, เงินเฟ้อต่ำไปจนติดลบ, ค่าเงินบาทแข็งมากไป, และปริมาณเงินบาทในระบบเศรษฐกิจมีน้อยไป
– ระบบเศรษฐกิจเราไม่เติบโต เป็นเพราะรายได้ส่งออกและท่องเที่ยวน้อยไป, การลงทุนต่ำไป, GDP จึงเติบโตต่ำ มีผลให้หนี้ประชาชนและหนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากรายได้ประชาชนไม่พอ, รัฐเก็บภาษีได้น้อย, การลงทุนลดลงเพราะส่งออกได้น้อย จึงผลิตน้อย ใช้เครื่องมือเครื่องจักร (capacity utilization rate) แค่ 50-60% จึงมีการซื้อเทคโนโลยีใหม่ๆ น้อย
– การส่งออก & ท่องเที่ยวน้อย เพราะค่าเงินบาทแข็งเกินไปมาก แข็งกว่าเกือบทุกประเทศในโลก (ดูตาราง) ค่าเงินบาทที่แข็งมากเกินไป เป็นเพราะดอกเบี้ยสูงไป, และการเพิ่มปริมาณเงินบาทในระบบเศรษฐกิจเราต่ำไป, ต่ำกว่าทั่วโลกมาก, มีผลให้เงินเฟ้อเราต่ำกว่าเงินเฟ้อโลกมากเกินไป

– สูตรค่าเงินบาท คือ e=P/Pw: e คืออัตราแลกเปลี่ยน, P คือราคาสินค้าเรา, Pw คือราคาสินค้าโลก, เมื่อเงินเฟ้อไทยเพิ่มขึ้นช้ากว่าเงินเฟ้อโลก ค่าเงินบาท e ก็ต้องแข็งค่าขึ้น (คือตัว e ลดลง เช่น จาก 37 บาทต่อ$ เป็น 32 บาทต่อ$)
– ปัญหาจึงควรแก้ที่เหตุ ด้วยการเพิ่มปริมาณเงินบาทในระบบเศรษฐกิจให้เหมาะสมกว่านี้, จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลง, ส่งออก&ท่องเที่ยวจึงจะเพิ่มขึ้น, การลงทุนจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะขายได้เพิ่มขึ้น, GDP จึงต้องเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ประชาชนสูงขึ้น, รายได้ภาษีมากขึ้น, หนี้ประชาชน และหนี้รัฐบาลก็จะลดลง, การลงทุนที่เพิ่มขึ้น, จะทำให้การใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้มีการลงทุนและการซื้อเทคโน โลยีใหม่ๆ มากขึ้น, GDP ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นอีก (หากคิดแต่พูดเรื่องปัญหาระยะยาวในข้อ2, เราจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้)
– ความจริง สมัยปลายพลอ.เปรม และสมัยพล.อชาติชาย เราก็มีปัญหาระยะยาวส่วนใหญ่ในเรื่อง GDP โตต่ำ แต่ GDP ไทยเติบโตเฉลี่ย 11% ในช่วง 3-4 ปีนั้น โดยการส่งออกโตเฉลี่ย 30% เป็นเพราะดร.วีรพงษ์ รามางกูร เสนอพลอ.เปรมฯ ให้ปรับลดค่าเงินบาทที่แข็งเกินไป จาก 21บาท/$ เป็น 27บาท/$ ปรับลดลงไป 28.5% ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเจริญเติบรุ่งเรือง มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาเทคโนโลยีกันมากมาย ประชาชนมีชีวิตความเป็นที่ดี
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องคิดเป็นระบบ และต้องรู้ระบบเศรษฐกิจมหภาค การคิดเป็นเรื่องๆ เป็น Micro แก้ไขปัญหาระบบเศรษฐกิจไม่ได้ ดร.สุชาติ กล่าว
THAI
Social Links