สคบ.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคเดือดร้อน กรณีคอนโดฯย่านโชคชัยร่วมมิตรเสียหายจากแผ่นดินไหว

สคบ.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคเดือดร้อน

กรณีคอนโดฯย่านโชคชัยร่วมมิตรเสียหายจากแผ่นดินไหว

 ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนต่าง ๆ กรณีผู้พักอาศัยในคอนโดโชคชัยร่วมมิตร ซอยวิภาวดีรังสิต 16/5 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รวมตัวขอความเป็นธรรม และร้องสื่อให้เป็นกระบอกเสียงให้กับลูกบ้านที่เกิดปัญหาต่าง ๆ ในคอนโด ปัญหาหลัก ๆ ได้แก่ น้ำ ไฟ และลิฟต์ โดยเฉพาะลิฟต์ ซึ่งอาคารมีความสูงถึง 21 ชั้น รวมทั้งหมด 917 ห้อง โดยมีผู้อยู่อาศัยจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุที่พักอยู่ในชั้นบน ต้องเดินขึ้น-ลงผ่านบันไดหนีไฟทุกวัน เนื่องจาก ได้รับผลกระทบขจากเกิดแผ่นดินไหว เช่น ลิฟต์โดยสารไม่สามารถใช้งานได้ บางห้องไม่มีน้ำประปาใช้ อาคารมีรอยแตกร้าวไม่มีการซ่อมแซม และขยะระเกะระกะภายในอาคาร เป็นต้น และได้ขอให้นิติบุคคลอาคารชุดดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สั่งการให้ นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ สคบ. ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือผู้บริโภคที่พักอาศัยภายในอาคารพบว่า เป็นอาคารคอนโดมิเนียมที่มีการปลูกสร้างมาประมาณ 33 ปี ซึ่งเป็นอาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลทำให้อาคารมีการแตกร้าวซึ่งพบเห็นได้ทั่วอาคาร และบางจุดมีการแตกถึงโครงสร้างชั้นใน ประกอบกับระบบน้ำประปา ไฟฟ้า และลิฟต์โดยสารไม่สามารถใช้งานได้ โดยมีผู้พักอาศัยจำนวนกว่า 2,000 คน ไม่ได้รับการดูแลและบริหารงานจากนิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าว ทั้งนี้ สคบ. ได้เร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้พักอาศัยภายในอาคารดังกล่าว ดังนี้

1. มีหนังสือเชิญนิติบุคคลอาคารชุดและผู้จัดการ มาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับผู้พักอาศัย ที่ สคบ. ภายในวันที่ 6 มิถุนายน 2568
2. ประสานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เข้าตรวจสอบโครงสร้างเพื่อสร้างความมั่นใจในการพักอาศัยอาคาร และดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในการแก้ไขปัญหาลิฟท์โดยสารให้สามารถใช้ได้ชั่วคราว
3. ประสานสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาจตุจักร เพื่อดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการบริหารจัดการของนิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่

หากผู้บริโภคได้รับความเดือนร้อนหรือเสียหาย สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วน 1166 หรือร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือเว็บไซต์www.ocpb.go.th