สคบ.เข้ม!ลุย 3 ปฏิบัติการใหญ่ ตรวจโกดังสินค้าไม่ตรงปก ไม่จัดทำฉลาก สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค

สคบ.เข้ม!ลุย 3 ปฏิบัติการใหญ่ ตรวจโกดังสินค้าไม่ตรงปก ไม่จัดทำฉลาก สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค

สคบ.เข้ม!ลุย 3 ปฏิบัติการใหญ่

ตรวจโกดังสินค้าไม่ตรงปก ไม่จัดทำฉลาก

สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค

 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) ได้สั่งการให้ สคบ. นำทีม ลุย 3 ปฏิบัติการตรวจสอบโกดังสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ และที่ผลิตในไทย จำหน่ายสินค้าไม่ตรงปก ไม่ได้มาตรฐาน ไม่จัดทำฉลาก ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) และเพื่อปกป้องสิทธิผู้บริโภคและป้องกันอันตรายจากสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

สคบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบ 3 โกดังในกทม. และจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบสินค้าไม่ตรงปก ไม่ได้มาตรฐาน ไม่จัดทำฉลากหรือจัดทำฉลากไม่ถูกต้อง ดังนี้ 

  1. เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บสินค้าย่านบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ  พบสินค้าไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก เช่น แว่นตา ยา อาหารเสริมเครื่องสำอาง กล้อง รองเท้า ชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น โดยสินค้าดังกล่าวคาดว่า เป็นสินค้านำเข้ามาจากต่างประเทศ และได้นำมาขายในราคาถูก เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า ไม่มีการจัดทำฉลาก ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดตามพ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และมีหลายรายการเป็นสินค้าเข้าข่ายไม่เป็นไปตามมาตรฐานกฎหมายของหลายหน่วยงานที่กำกับดูแล ซึ่ง สคบ. ได้ประสานสำนักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาตรวจสอบต่อไป
  2.     เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 สคบ. นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บสินค้าย่านเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และตำรวจท้องที่ สภ.สำโรงเหนือ พบสินค้าไม่ตรงปก จัดทำฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง และจัดทำสติ๊กเกอร์ของ กสทช. โดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก เช่น โทรศัพท์ แท็ปเลต โดยสินค้าดังกล่าว เป็นสินค้านำเข้ามาจากต่างประเทศ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า มีการจัดทำฉลากไม่ถูกต้อง สเปกของรุ่นโทรศัพท์ไม่ตรงกับฉลาก ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดตามพ.ร.บ คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522  โดย สคบ. จะบูรณาการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สาธารณสุข กสทช. กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และตำรวจท้องที่ เพื่อตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจที่ขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือคุณภาพอย่างเคร่งครัดต่อไป
  3. เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 สคบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังขายสินค้าย่านคู้บอน 31 กรุงเทพมหานคร พบว่ามีสินค้าในโกดังจำนวนมากที่นำเข้าจากต่างประเทศ และที่ผลิตในประเทศไทย เพื่อเตรียมจัดจำหน่าย เช่น ของใช้ประจำบ้าน ของใช้ส่วนบุคคล เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ และสินค้าประเภทอื่น ๆ หลายรายการ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าไม่มีการจัดทำฉลาก หรือมีฉลากแต่ไม่ระบุข้อความที่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522

สคบ. ได้ทำการยึดอายัดสินค้าเพื่อนำมาตรวจสอบว่า มีการจัดทำฉลากถูกต้องหรือไม่ และให้ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้นำเข้าหรือผู้ผลิตสินค้าและผู้ขายสินค้าดังกล่าวให้ถ้อยคำเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีต่อไป หากผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลาก แต่ฉลากหรือการแสดงฉลากไม่ถูกต้องโดยรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าการไม่มีฉลากหรือการแสดงฉลากดังกล่าวนั้น ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และในกรณีผู้ผลิตเพื่อขาย หรือผู้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ สคบ. ขอฝากความห่วงใยไปยังผู้บริโภคในการซื้อสินค้าออนไลน์ ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ โดยพิจารณาจากผู้ประกอบธุรกิจที่มีข้อมูลสินค้าครบถ้วน ดูรีวิวหรือคอมเมนต์จากลูกค้าที่เคยใช้บริการ และตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันสินค้า ผู้บริโภคสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 1166 เว็บไซต์ www.ocpb.go.th หรือแอปพลิเคชัน OCPB Connect

You may also like

ดร.มนพร”เดินหน้า “สนามบินมีชีวิต” หนุนสนามบินสังกัด ทย.ร่วมมือจังหวัด ดันสินค้าวิสาหกิจชุมชนสร้างรายได้ท้องถิ่น

“ด