สคบ. เตือนภัย ระวัง!ขายคอร์สเสริมความงามมัดมือชก เสี่ยงสูญเงินหลักแสน

สคบ. เตือนภัย ระวัง!ขายคอร์สเสริมความงามมัดมือชก เสี่ยงสูญเงินหลักแสน

สคบ. เตือนภัย 

ระวัง!ขายคอร์สเสริมความงามมัดมือชก

เสี่ยงสูญเงินหลักแสน

ปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมาก กรณีถูกคลินิกเสริมความงามซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า แนะนำให้สมัครสมาชิกและหว่านล้อมเชิงบังคับให้สมัครโปรคอร์สเสริมความงามแบบ VIP ทำให้ผู้บริโภคสูญเงินจำนวนมาก

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ขอแจ้งเตือนผู้บริโภคที่นิยมใช้บริการด้านความงามและสุขภาพ ดังนี้

  1. โปรดใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการสมัครคอร์ส หรือการตกลงเป็นสมาชิกในลักษณะ VIP ซึ่งมักมีการโฆษณาหรือชักชวนในเชิงกดดัน หว่านล้อม และเร่งรัดให้ตัดสินใจทันที ทำให้ผู้บริโภคอาจไม่ทันไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนถึงรายละเอียดการเสริมความงาม ขั้นตอนการรับบริการ ระยะเวลา รวมถึงความคุ้มค่า เมื่อเปรียบเทียบกับราคา ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคต้องชำระเงินเป็นจำนวนมากทั้งที่มิได้สมัครใจ แต่ไม่สามารถสามารถปฏิเสธได้ทันทีในสถานการณ์ที่มีพนักงานขายหลายคนพูดหว่านล้อม หรือขณะที่ผู้บริโภคทดลองผลิตภัณฑ์ดังกล่าว หากรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือถูกบังคับ ควรออกจากสถานที่นั้นทันที
  2. ไม่หลงเชื่อการโฆษณาที่เกินจริง ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของสถานประกอบการว่า ได้รับได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายและมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  3. อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รหัสผ่าน หรือส่งมอบโทรศัพท์และบัตรเครดิตให้กับบุคคลอื่น เพื่อป้องกันมิให้ถูกนำไปใช้โดยมิชอบ ปรึกษาผู้ใกล้ชิดก่อนทำสัญญาและชำระเงิน
  4. เก็บหลักฐานการใช้บริการ ใบเสร็จรับเงิน เอกสารการโฆษณา หรือข้อความเชิญชวน เพื่อใช้ประกอบการร้องเรียนในกรณีเกิดปัญหา
  5. ตรวจสอบหลักฐานการรับเงินที่สถานบริการสริมความงามออกให้ โดยจะต้องมีข้อความที่ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับเงินค่าบริการคืน ในกรณียังไม่ได้ใช้บริการภายในระยะเวลา 7 วัน นับจากวันที่ชำระเงิน ให้ผู้ประกอบธุรกิจคืนเงินเต็มจำนวน และในกรณีปิดกิจการ ปิดปรับปรุง ย้ายสถานที่ให้บริการ ผู้บริโภคไม่อาจใช้บริการแห่งอื่นหรือสาขาอื่นได้โดยสะดวก ให้ผู้ประกอบธุรกิจคืนเงินตามสัดส่วนที่ยังไม่ได้ให้บริการ

 ขณะนี้ สคบ. อยู่ระหว่าง การออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เพื่อควบคุมธุรกิจการให้บริการเสริมความงามเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาเพิ่มเติม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ครอบคลุมทุกมิติ ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ในการเลือกใช้บริการ หากผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการใช้สินค้าและบริการ สามารถขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1166 ร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือ เว็บไซต์ www.ocpb.go.th และสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ทุกจังหวัดหรือตามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้บ้าน รวมถึงเมืองพัทยา และสำนักงานเขตทุกแห่งในกรุงเทพมหานคร ตลอดจนช่องทางการร้องทุกข์ ผ่านระบบ Traffy Fondue (ทราฟฟี่  ฟองดูว์) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้บริโภค

You may also like

นักท่องเที่ยวจีนเฮเข้าเวียดนามมากกว่าไทย

นักท่องเ