“สถาบันยุวทัศน์ฯ-เมืองพัทยา”ประกาศ
พัทยาปลอด”บุหรี่–บุหรี่ไฟฟ้า–กัญชา”ในสถานศึกษา
เดินหน้าลดนักสูบหน้าใหม่ เพิ่มพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กและเยาวชน
ที่โรงเรียนเมืองพัทยา 11 (มัธยมสาธิตพัทยา) จังหวัดชลบุรี นางสาวทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวการขับเคลื่อนนโยบายสถานศึกษาปลอดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าและกัญชา ภายใต้นโยบายของนายกเมืองพัทยาเรื่อง “สถานศึกษาปลอดภัย Safety school” โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) และเมืองพัทยา ตั้งเป้าลดโอกาสเกิดนักสูบหน้าใหม่ในสถานศึกษาสังกัดเมืองพัทยาและเพิ่มพื้นที่ปลอดภัยของเด็กและเยาวชน
นางสาวทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาได้ประกาศนโยบายปลอดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และกัญชาในสถานศึกษาในระดับมัธยมศึกษาทั้ง 11 แห่ง ในเมืองพัทยา ครอบคลุมนักเรียน 13,192 คน โดยกำหนดให้
1.พื้นที่ของโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยาทุกแห่ง ต้องเป็นสถานศึกษาปลอดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าและกัญชา
2.บุคลากรในสถานศึกษาต้องเป็นผู้มีส่วนรับผิดชอบกวดขันและมีมาตรการขั้นเด็ดขาดในการทำให้เป็นสถานศึกษาปลอดภัย
3.ทุกปีการศึกษาต้องจัดให้มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรหรือกิจกรรมอบรมให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกับผลกระทบจากการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
4.ประสานความร่วมมือจัดให้มีระบบช่วยเหลือหรือกระบวนการส่งต่อนักเรียนที่มีความประสงค์จะเลิกสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า หรือกัญชา
5.ส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายของนักเรียนหรือชุมนุมในสถานศึกษา สำหรับการรณรงค์ด้วยแกนนำนักเรียน เพื่อส่งเสริมกระบวนการแก้ไขปัญหาโดยการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและนักเรียน
“นโยบายนี้นับเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในมิติการสร้างเสริมสุขภาพของเด็กและเยาวชนให้มีความแข็งแรงตั้งแต่สภาพร่างกายและจิตใจ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า นับเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่งที่มีนิโคตินเป็นส่วนประกอบ ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็กและเยาวชนในวัยเรียนได้ ขณะที่กัญชาปัจจุบันเป็นพืชที่ถูกกฎหมายใช้สำหรับทางการแพทย์ แต่การมีมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ให้เข้าถึงกัญชา จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การใช้กัญชาทางการแพทย์บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข” รองนายกเมืองพัทยา กล่าว
ด้านนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายกเมืองพัทยาให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ในมิติการสร้างเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนอายุ 13-18 ปี กว่า 3,000 คน ในสถานศึกษาของเมืองพัทยา เนื่องจากปัจจุบันพบว่าแนวโน้มการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนไทยเพิ่มสูงขึ้นการที่ผู้บริหารท้องถิ่นให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวนับเป็นนิมิตรหมายที่ดีสำหรับการลดปริมาณนักสูบหน้าใหม่และเพิ่มโอกาสทำให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้เรื่องผลกระทบจากการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
Social Links