เกมตะลุมบอน  “ปมหุ้นสื่อ”  เปิดศึกกันนัวมั่วกันสนุก!!

เกมตะลุมบอน  "ปมหุ้นสื่อ"  เปิดศึกกันนัวมั่วกันสนุก!!

นายจักรยาน

            สถานการณ์การเมืองก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีของ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนหน้าเดิม อย่างเป็นทางการ

                ทั้ง ส.ส.รัฐบาล และฝ่ายค้าน ก็เปิดศึกเล่นเกม "ปุมหุ้นสื่อ" กันอุตลุดให้เป็นเรื่องยาวหลายม้วนจบ  มีจำนวน ส.ส.ที่ติดบ่วงกรรมหุ้นสื่อที่เป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ โดยแยกเป็นซีกรัฐบาบ 41 คน และฝ่ายค้าน 55 คน รวมแล้ว 96 คนเกือบ 100 คนทีเดียว

                เมื่อรวมกับจำนวน ส.ว.ที่โดนยื่นให้สอยหลุดจากเก้าอี้ในกรณีมีหุ้นสื่ออีก 21 คนก็รวมเป็น 117 คนผู้โชคดี

ดังนั้น"โรคหุ้นสื่อ" กล่าวได้ว่าเป็นโรคร้ายแรงสำหรับนักการเมือง จึงกลายเป็นโรคระบาดลามไปทั้ง 2 สภา!!

                สำหรับพรรครัฐบาลที่ถูกโรคระบาดหุ้นสื่อจำนวน 41 คน ประกอบด้วยพรรคพลังประชารัฐ 27 คน  พรรคประชาธิปัตย์ 10 ตย  พรรคภูมใจไทย 1 คน   พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คน  พรรคชาติพัฒนา 1 คน และพรรคประชาภิวัฒน์ 1 คน

                ส่วนซีกฝ่ายค้านที่โดนยื่นเรื่องให้เช็คบิลปมหุ้นสื่อ   มีพรรคอนาคตใหม่มากสุด 33 คน  พรรคเพื่อไทย 10 คน พรรคเพื่อชาติ 4 คน พรรคเสรีรวมไทย 4 คนพรรคประชาชาติ 2 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน และพรรคพลังปวงชนไทย 1 คน

                ผู้ที่ถูกร้องเรียนกรณีหุ้นสื่อบางรายก็ออกมาโวยวายว่าตนได้เลิกกิจการสื่อไปนานแล้ว 17 ปี  พร้อมเตรียมดำเนินคดีฟ้องกลับที่นำเรื่องเท็จมากล่าวหาทำให้เกิดการเสียชื่อเสี่ยง

                เช่นเดียวกับ ส.ว.บางท่านยิ้มสู้ว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้มีการตรวจสอบให้่เกิดความถูกต้อง  แต่ถ้าเป็นการกล่าวหาให้ชื่อเสียงเสื่อมเสียก็จะใช้สิทธิฟ้องกลับเช่นกัน

                สรุปได้ว่า  "ปมหุ้นสื่อ" ฟ้องกันนัวเนียให้ยุ่งอีรุงตุงนังจนประชาชนเบื่อไปเอง!!

                จากการวิเคราะห์ตามเนื้อเรื่องหลังจากที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดนคดีเรื่้องครองครองหุ้นสื่อจนต้องหยุดหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว ทำให้พรรคอนาคตใหม่เดินหน้าเปิดเกมสู้่ย้อนศรกับฝ่ายรัฐบาลเรื่องปมหุ้นสื่อ

                ซีกพรรครัฐบาลโดยแกนนำพรรคพลังประชารัฐก็ขุดคุ้ยข้อมูลสวนกลับเช่น โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเช็คบิลจำนวน 55 คนข่มพรรคฝ่ายค้านที่หาเหตุหุ้นสื่อ ส.ส.ได้แค่ 41 คนเท่านั้น

                เกมนี้่จะเอ็นเกม(Endgame)อย่างไร  ก็อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาตัดสินวินิจฉัยออกมาในทิศทางใด??

                แต่ขอคาดเอาไว้ล่วงหน้าว่า  บรรดาส.ส.ผู้ทรงเกียรติทั้ง2ขั้ว และท่านผู้มีเกียรติ ส.ว. คงไม่ถูกตัดสินให้ผิดทั้งหมดแน่  และความผิดอาจแตกต่างจากหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้

                หรือผู้ที่โดนให้สอยตกเก้าอี้ ส.ส.และ ส.ว.ในครั้งหลังนี้รอดหมดก็เป็นไปได้  เพราะอะไร ๆ ก็เป็นไปได้ในทางการเมือง!?!

            ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นใดในรายละเอียดหุ้นสื่อของ ส.ส. และ ส.ว.แต่ละท่านที่ไม่เหมือนกัน  คำตัดสินวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะต้องยุติลงด้วยความถูกต้องและเป็นธรรมของผู้ที่โดยกล่าวหาแต่ละคน

            เพื่อที่จะได้เป็นบรรทัดฐานในวันข้างหน้าของผู้ที่กระโดดเข้าสู่วงการเมืองจะได้ตระหนักว่า "ปมหุ้นสื่อ" นี้เป็นโรคร้ายแรงมากที่ตัวเองจะถึงจุดจบได้่!!