เรื่องราวของสีจิ้นผิงและมารดา สะท้อนอิทธิพลของแม่ที่มีต่อลูกตลอดชีวิต

เรื่องราวของสีจิ้นผิงและมารดา

สะท้อนอิทธิพลของแม่ที่มีต่อลูกตลอดชีวิต

      สำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนนั้น นางฉี ซิน ผู้เป็นมารดา เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นในหลายด้านให้กับบุตรชาย และมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังค่านิยมและการจัดลำดับความสำคัญของผู้นำประเทศในอนาคต

นางฉี ซิน เกิดในปี พ.ศ. 2469 และเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 2486 ขณะที่มีอายุ 17 ปี จากนั้นได้กลายเป็นผู้สนับสนุนค่านิยมและความเชื่อของพรรคด้วยความภักดี

นางฉี ซิน เคยกล่าวไว้ว่า “พ่อแม่และผู้อาวุโสควรปลูกฝังหลักจริยธรรมให้ลูกหลานตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งจะช่วยให้เด็ก ๆ ยึดมั่นในคุณธรรมและความดี พร้อมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ”

นางฉี ซิน ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัว และแม้จะประสบกับความยากลำบาก แต่เธอก็สามารถรักษาสมดุลระหว่างการดูแลครอบครัวและการทำงานได้เป็นอย่างดี

เป้าหมายตลอดชีวิตของนายสี จิ้นผิง ได้รับอิทธิพลมาจากความทรงจำเกี่ยวกับหนังสือภาพที่มารดาของเขาซื้อให้ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับนายพลเยว่เฟย แม่ทัพในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ (พ.ศ. 1670-1822) ผู้ต่อสู้กับข้าศึกเพื่อปกป้องประชาชน

แม่เล่าให้ลูกชายซึ่งในขณะนั้นมีอายุ 5 ขวบฟังว่า แม่ของนายพลเยว่เฟยได้สักอักษรจีน 4 ตัว ซึ่งมีความหมายว่า “รับใช้ชาติด้วยความภักดีสูงสุด” บนแผ่นหลังของลูกชาย เพื่อย้ำเตือนไม่ให้ลืมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับ

นายสี จิ้นผิง เป็นลูกชายที่กตัญญูและรักแม่มาก เขาพูดคุยและเดินเล่นกับแม่เสมอเมื่อมีเวลา แต่สำหรับแม่นั้น การแสดงความรักความกตัญญูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การที่นายสี จิ้นผิง ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและรับใช้ประชาชนด้วยหัวใจ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อาชีพทางการเมืองของนายสี จิ้นผิง นำพาเขาจากมณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ไปยังมณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือ รวมถึงฝูเจี้ยน เจ้อเจียง และเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออก และท้ายที่สุดก็มาถึงกรุงปักกิ่ง โดยผลงานและคุณูปการของเขาได้รับการจดจำและชื่นชมจากประชาชนทั่วทุกที่

สำหรับนายสี จิ้นผิง ครอบครัวและประเพณีของครอบครัวได้กลายเป็นรากฐานที่มั่นคงในการบริหารประเทศ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่เขายังคงจดจำภูมิปัญญาของมารดาและสานต่อปณิธานของตนเองอย่างแน่วแน่โดยมีมารดาเป็นผู้ช่วยชี้นำทาง