“เอเซีย พลัส”วิเคราะห์
จัดพอร์ตการลงทุน “สินทรัพย์”ประเภทต่างๆ
สถานการณ์ทั่วโลกให้ความสนใจกับการประชุม Jackson Hole เกี่ยวกับการทำ Tapering QE บวกกับ COVID-19 ทั่วโลกกลับมาสร้างความกังวลหลังสายพันธ์ Delta ระบาดในหลายประเทศ ฝ่ายวิจัยจึงลดน้ำหนักหุ้นต่างประเทศลง 5% เหลือ 30% (เท่าตลาดฯ) ส่วนตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง หลังเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของการแพร่ระบาด อีกทั้งดัชนีหุ้นไทยยัง Laggard ตลาดหุ้นอื่นๆอยู่มาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาด COVID ฝ่ายวิจัยฯ จึงเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยขึ้น 5% เป็น 30% (เท่าตลาดฯ) โดยเน้นการลงทุนในหุ้นผันผวนต่ำ หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในตราสารลงทุนอื่นๆ เน้นลงทุนใน Product ที่ลงทุนในหุ้นไทยอย่าง ELN เป็นหลักโดยให้น้ำหนัก 15% (มากกว่าตลาดฯ) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากสภาวะตลาดหุ้นผันผวน และขาดปัจจัยหนุนได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเพิ่มน้ำหนักตราสารหนี้เป็น 20% (เท่าตลาดฯ) ส่วนสุดท้าย คือ ตลาดเงินเหลือน้ำหนักเพียง 5% รอจังหวะลงทุนเพิ่มเติมในเดือนต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับพอร์ตจำลองของฝ่ายวิจัยฯ ที่ถือเงินสดราว 5%
Social Links