เอเซีย พลัส”สรุปกลยุทธ์การลงทุน มิย. การกระจายวัคซีนยังเป็นโจทย์ใหญ่

เอเซีย พลัส”สรุปกลยุทธ์การลงทุน มิย. การกระจายวัคซีนยังเป็นโจทย์ใหญ่

เอเซีย พลัส”สรุปกลยุทธ์การลงทุน มิย.

การกระจายวัคซีนยังเป็นโจทย์ใหญ่

หุ้นไทย

                การกระจายวัคซีนอย่างเป็นเชิงรุกมากขึ้น บวกกับแผนที่จะนำเข้าวัคซีนชนิดอื่นๆ ในเร็ววัน เชื่อว่าจะจำกัด Downside ต่อตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป ขณะที่สภาพคล่องสวนเกินยังมีโอกาสไหลเข้า ตลาดหุ้นไทยหากปัจจัยลบดังกล่าวคลี่คลายลง ดังนั้น คงน้ำหนักหุ้นไทยไว้ที่ 35% (Overweight) กลยุทธ์เลือกหุ้นเปิดเมืองราคา Laggard และมีแนวโน้มการเติบโตชัดเจนขึ้นในช่วงที่เหลือของปี  AOT, BDMS, MAJOR, MINT, MTC, STEC, SAT

การลงทุนต่างประเทศ

                แม้สถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ยังดูน่ากังวล อย่างไรก็ตามความคืบหน้าวัคซีนที่มีการกระจายตัวในหลายประเทศ ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจในอนาคต โดยฝ่ายวิจัยฯ คงน้ำหนักหุ้นต่างประเทศไว้ที่ 35% ของพอร์ตการลงทุน (Overweight) กลยุทธ์เน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่าง JPMorgan (JPM US) และ Airbnb (ABNB US)

ตราสารหนี้

                เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น หลังการเดินหน้าฉีดวัคซีน COVID-19 ช่วยให้นโยบายการเงินที่ปัจจุบันอยู่ในระดับผ่อนคลายมากเริ่มมีความจำเป็นลดลง ดังนั้นจึงคงน้ำหนักตราสารหนี้ไว้ 15% ของพอร์ตรวม (Underweight) เน้นตราสารหนี้ที่มี Rating ระดับ Investment Grade ขึ้นไป Top picks คือ MQDC222A และ TUC27NA

กลยุทธ์การลงทุน

                ภาพรวมผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกเริ่มลดน้อยลง แม้จะมีกระจุกตัวอยู่บ้างในแถบทวีปเอเชีย แต่ตัวเลขก็เริ่มทรงตัวไม่ได้เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยฯ ส่วนประเทศไทยในเดือน มิ.ย. คาดมีการกระจายวัคซีนล็อตใหญ่กว่าที่ผ่านๆ มา หนุนด้วยวัคซีน Astrazeneca เพิ่มเข้ามากว่า 6 ล้านโดส ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนได้ 12% ของประชากรภายในสิ้นเดือน โดยเน้นการกระจายไปในพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ก่อน ส่วนผลกระทบ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลด GDP Growth ปี 2564 เหลือ 1.7% ขณะเดียวกันรัฐบาลเล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการกู้เงิน พรก. ฉุกเฉินเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท พร้อมกับเพิ่มมาตการฟื้นฟูเศรษฐกิจตลอดช่วงที่เหลือของปี

            แนวโน้มของ Fund Flow ทั้งผลกระทบ COVID-19 ระลอกที่ี 3 รวมถึง MSCI ปรับลดน้ำหนักดัชนีหุ้นไทยยังกดดันให้ Fund Flow ไหลออกในเดือน พ.ค. สูงถึง 3.3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามทิศทาง Fund Flow ในเดือน มิ.ย. มีแนวโน้มดูดีขึ้นหลังกองทุนไทยและต่างประเทศปรับพอร์ตตาม MSCI เสร็จสิ้น (1 สัปดาห์ให้หลังหุ้นมักขึ้นแรง 3 – 7%) รวมถึงการกระจายวัคซีนที่เร่งตัวขึ้น ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะผลักดันให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบเคียงกับตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว ในเดือน มี.ค. พบว่า มีผู้คนในประเทศดังกล่าวได้รับวัคซีนเร่งขึ้น 2 เท่าจากเดือนก่อนหนุนการกระจายวัคซีนผ่านสัดส่วน 10% ขึ้นไปถึง 28% ของประชากร ณ สิ้นเดือน เม.ย. ขณะที่ตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว (MSCI World) ตอบสนองเชิงบวก และปรับตัวขึ้นแรงถึง 10% ในช่วงเวลาเดียวกัน

                ส่วนมุมมองกำไรบริษัทจดทะเบียน ในงวด 1Q64 ที่ผ่านมา (ดีกว่าตลาดคาดมาก โดยมีกำไรสูงถึง 2.62 แสนล้านบาท หลักๆ ได้แรงหนุนมาจากหุ้นในกลุ่ม Commodity ที่ีฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจโลก และหนุนฝ่ายวิจัยฯ ทยอยปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นเป็น 8.05 แสนล้านบาท (EPS64F 71.2 บาท/หุ้น)และมีการเติบโตสูงถึง 34% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งในอดีตปีไหนที่กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตเกิน 30% SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นเกิน 20% และหากพิจารณาความถูกแพงของ SET Index ณ ปัจจุบัน ที่ 1,600 จุด มีการซื้อขายบน Market Earning Yield Cap ที่ระดับ 4% ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 3.90% แสดงว่าดัชนียังอยู่ในระดับที่น่าลงทุนและหวังขึ้นไปทดสอบดัชนีเป้าหมายที่ 1,670 จุด

                หุ้นเด่นประจำเดือน มิ.ย. 64 แนะนำหุ้นเปิดเมือง ราคา Laggard และมีแนวโน้มการเติบโตชัดเจนขึ้นในช่วงที่เหลือของปี AOT, BDMS, MAJOR, MINT, MTC, STEC, SAT น่าจะ Outperform ได้ดี เช่นเดียวกับหุ้น Commodity ในช่วงที่ผ่านมา

 

 

 

You may also like

4NOLOGUE ผนึก Poriin เล่นใหญ่ ปล่อยคอนเสิร์ตแห่งปี “FROSTY VILLAGE” ชวนแฟนๆจอยปาร์ตี้สนุกสุดขั้ว  

4NOLOGUE