แผนฟื้นฟู“หาดใหญ่”
ต้องตั้งศูนย์บัญชาการที่เดียว
นายหัวไทร
นำเสนอแผนฟื้นฟูหาดใหญ่ ตั้งศูนย์บัญชาการที่เดียว บูรณาการทุกหน่วย ระดมจิตอาสาเข้าช่วย
กรอบแนวคิดในการบริหารจัดการฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ เท่าที่ทราบแม้น้ำจะลดลงหลายวันแล้ว แต่การบริหารจัดการยังไม่เป็นระบบ กองขยะยังเต็มอยู่ทุกซอย ที่ทิ้งขยะเต็มแล้ว
เมื่อเช้ารถขนขยะจะนำไปทิ้งบ่อขยะขอเกาะแต้ว สงขลา แต่ทางเกาะแต้วไม่ยอมให้ทิ้งไล่กลับมา นายกฯหาดใหญ่บอกว่าจะไปทิ้งซอยบ้านคูเต่า ซึ่งเป็นที่สาธารณะ
ประเด็นปัญหาขาดเอกภาพ ต่างคนต่างทำ ขาดศูนย์บัญชาการในการอำนวยการให้การปฏิบัติ ขาดความร่วมไม้ร่วมมือกัน
สรุปว่าหาดใหญ่จึงยังเต็มไปด้วยความโกลาหล 1 เดือนยังไม่รู้ว่า จะแล้วเสร็จในการจัดการปัญหาหรือไม่

ขอเสนอ“กรอบแนวทางจัดการปัญหาใหญ่หาดใหญ่หลังน้ำท่วม” ที่ตอบโจทย์ประเด็นที่คุณยกมาแบบลงมือทำได้จริง (ขยะนับแสนตัน / ไม่มีที่ทิ้ง / การบริหารไม่มีเอกภาพ / ระบบไม่มี / ต่างคนต่างทำ)
1) ตั้ง “War Room ฟื้นฟูหาดใหญ่” ระดับจังหวัด (ศูนย์บัญชาการกลาง) เพื่อแก้ปัญหาการบริหารไม่มีเอกภาพ ทุกฝ่ายต้องมีโต๊ะเดียว ประกอบด้วย
- ผู้ว่าฯ สงขลา นั่งหัวโต๊ะเป็นผู้อำนวยการ
- นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่
- ทม.คอหงส์ + อปท.โดยรอบ
- กองทัพ / ปภ. / ตำรวจ / สาธารณสุข
- เอกชน (เช่น หอการค้า / สภาอุตสาหกรรม)
- มหาวิทยาลัยในพื้นที่ (ม.อ., ม.ทักษิณ ฯลฯ)
หน้าที่:
- ออกคำสั่งกลางเดียว
- กระจายงานฟื้นฟูแบบ “พื้นที่แบ่งโซน”
- ประสานรถขนขยะ รถแบ็กโฮ แรงงานอาสา /ประสานขอความร่วมมือไปยัง อปท.ทั่วประเทศ
- รายงานสถานการณ์ทุก 6 ชม.
- ประกาศเป้าหมายรายวัน เช่น วันนี้เคลียร์ 4,000 ตัน
2) ขยะนับแสนตัน: ต้องทำแบบ “Area-Based + Temporary Dump Site” ตอนนี้ปัญหาใหญ่สุดคือ ไม่มีที่ทิ้งและไม่มีระบบแยกงาน ต้องทำดังนี้:
2.1 จัดตั้งพื้นที่ทิ้งขยะชั่วคราว (Temporary Dumpsites) 3–5 จุด เลือกพื้นที่ใหญ่ โล่ง ว่าง ระยะเวลาชั่วคราว 60–90 วัน เช่น
- พื้นที่รัฐที่ยังว่าง
- ลานสนามบินเก่า
- ลานโล่งเทศบาล / อปท.
- พื้นที่เอกชนที่ยินดีร่วมโครงการ
มี ม.อ. ตรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน
2.2 ระดมรถเก็บขยะ 200–300 คันจากทั่วประเทศ สั่งการ อบจ. ภาคใต้ + กรุงเทพมหานคร + หน่วยงานรัฐ เพื่อทำให้การขนขยะเร็วกว่าอัตราการกองเพิ่ม
2.3 จัดระบบแยกประเภทขยะหน้างาน เพื่อไม่ให้ล้น:
- เฟอร์นิเจอร์ไม้ = บด
- ขยะเปียก / เศษอาหาร = ฝัง/หมัก
- พลาสติก = คัดส่งรีไซเคิล
- ขยะอันตราย = แยกพิเศษ (สีสเปรย์ ถ่านไฟฉาย ฯลฯ)
หมายเหตุ: ถ้าไม่แยก จะทำให้ volume ขยะทวีคูณ ไม่มีที่เก็บ

3) แก้ปัญหา “ต่างคนต่างทำ” ด้วยระบบงานแบบโซน (Zone Commanding) แบ่งหาดใหญ่ออกเป็น 10–12 โซน
แต่ละโซนมี:
- ผู้ควบคุมงาน 1 คน (มาจาก ปภ. / ทหาร / เทศบาล)
- รถเก็บขยะประจำโซน
- ทีมอาสา
- รายงานผลทุกวันในระบบกลาง
ตัวอย่างโซนที่ควรมี:
- โซนตลาดกิมหยง / เขตเศรษฐกิจ
- โซนรอบสถานีรถไฟ
- โซนน้ำท่วมหนัก กทม.หมู่บ้านต่างๆ
- โซนมหาวิทยาลัย
- โซนอุตสาหกรรม ฯลฯ
4) ใช้พลังมหาวิทยาลัย – นักศึกษา 10,000 คน (ที่คุณชี้ไว้ถูกต้องมาก) สงขลามีนักศึกษาหลายหมื่นคน เป็นกำลังหลักฟื้นฟูได้
สิ่งที่ต้องทำ:
- อว. ออกคำสั่งให้ ม.อ. /ม.ทักษิณ สถาบันอื่น ส่งนักศึกษา
- จัดระบบลงทะเบียนอาสา
- แบ่งกลุ่มลงพื้นที่ตามโซน
- รัฐบาลจัดอุปกรณ์: ถุงมือ บูท หน้ากาก N95
- ให้มี “หน่วยแพทย์สนามมหาวิทยาลัย” คอยประจำ
การมีนักศึกษา = ลดกำลังคนขาดแคลน 80%
5) จัดการข้อมูลแบบ Real-time แก้ปัญหาระบบไม่มีประสิทธิภาพ จัดตั้งระบบ Dashboard ฟื้นฟู (ทำได้ใน 48 ชม.)
ข้อมูลรายวัน:
- ปริมาณขยะเก็บแล้ว
- รถขยะทำงานกี่คัน
- โซนไหนเสร็จแล้ว
- บ้านเรือนที่ต้องเข้าไปล้างอีกกี่หลัง
- ภัยสุขภาพ: แผลพุพอง เชื้อรา ไฟฟ้า มลพิษ
ผู้ว่าฯ ประกาศบนเพจจังหวัดทุก 6 ชม. ประชาชนรู้ว่าพื้นที่ตนเองควรทำอะไร → ลด chaos
6) ใช้กำลังทหาร/วิศวกรใหญ่ (Royal Engineer Corps)ทหารสามารถทำงานหนัก:
- เปิดทาง
- ลากขยะกองใหญ่
- ทำสะพานชั่วคราว
- ตั้งโรงครัวสนาม
- ตั้งเต๊นท์/พักพิง
- สนับสนุนรถแบ็กโฮ–รถบรรทุก
ช่วยให้พลเรือนทำงานเร็วขึ้น 2–3 เท่า
7) ระบายความเสียหายทางเศรษฐกิจให้ชัดเจน ตั้งทีมสำรวจผลกระทบ:
- โรงงานเสียหาย
- ร้านค้าเสียหาย
- ตลาดย่อยหยุดชะงัก
- โรงเรียนและโรงพยาบาล เพื่อออกมาตรการเยียวยาเร็ว (วงเงินกู้ปลอดดอก / เงินช่วย 5,000–30,000)
สรุป: ถ้าทำตามนี้ หาดใหญ่จะฟื้นใน 30–45 วัน การจัดการขั้นต้นเสร็จใน 15 วัน
ต้องทำ 3 เรื่องพร้อมกัน:
1.มีศูนย์บัญชาการกลางเดียว ไม่ใช่หลายหน่วยสั่งหลายอย่าง
2.สร้างที่ทิ้งขยะชั่วคราว แล้วระดมรถและแรงงาน
3.จัดระบบโซน + Dashboard กลาง เพื่อบังคับให้ทุกฝ่ายทำงานเป็นระบบ
THAI
Social Links